กรรมการสิทธิ์ฯ ลงพื้นที่เคลียร์ปัญหาแกนนำโฉนดชุมชนสุราษฎร์ถูกยิงดับ
“หมอนิรันดร์”นำทีมกรรมการสิทธิ์ฯลงพื้นที่พิพาทที่ดินคลองไทรพัฒนา สุราษฎร์ เร่งคลี่คลายคดี 2แกนนำชาวบ้านหญิงถูกยิงดับ จี้จังหวัดประสานหน่วยงานพื่นที่เดินหน้าโฉนดชุมชนตามนโยบายรัฐบาล
วันที่ 11 ธ.ค. 55 คณะอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินพิพาทชุมชนคลองไทรพัฒนา ณ ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากกรณีที่เมื่อ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา คนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 และเอชเคยิงนางปราณี บุญรักษ์ อายุ 52 ปี และนางมณฑา ชูแก้ว อายุ 50 ปี ชาวบ้านชุมชนคลองไทรพัฒนาเสียชีวิตในพื้นที่สวนปาล์มของ บริษัท จิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัด หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี
โดยนายศิริพัฒน์ พัฒกุล ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่าจังหวัดจะเร่งดำเนินการก่อสร้างถนนให้ทันทีตามข้อเรียกร้องชาวบ้าน เพื่อป้องกันอันตรายจากการลอบทำร้าย แต่ชาวบ้านมั่นใจในการทำหน้าที่ของหน่วยงานรัฐก่อน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนร่วมกัน และวิงวอนให้ชาวบ้านลดพฤติกรรมยั่วยุที่ทำให้กลุ่มทุนโกรธแค้นอันอาจนำมาซึ่งอันตรายอีก ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดมิได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาดังกล่าว แต่การทำงานต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย
ด้านพ.ต.อ.ปวร พรพรหมมา ผกก.สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่าคดีการลอบยิงชาวบ้านหญิง 2 คนนั้นเกิดจากชาวบ้านชุมชนคลองไทรพัฒนาแสดงพฤติกรรมยั่วยุทำลายทรัพย์สินของกลุ่มทุน ด้วยการฉีดสารเคมีทำลายต้นปาล์มน้ำมันจนเสียหาย 700 ไร่ คิดเป็นมูลค่า 70 ล้านบาท ทำให้เกิดความโกรธแค้นและทำร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งเมื่อมีการข่มขู่ชาวบ้านมิได้แจ้งให้ตำรวจทราบ อย่างไรก็ตามค่อนข้างหนักใจต่อการสืบสวนคดีดังกล่าวเนื่องจากคนร้ายอยู่นอกพื้นที่ ประกอบกับกำลังเจ้าหน้าที่ สภ.ชัยบุรีมีเพียง 55 นายไม่เพียงพอต่อการรักษาความปลอดภัย
นายสุรศักดิ์ ศิริวัฒน์ อัยการประจำจ.กระบี่ กล่าวว่าปัจจุบันบริษัทจิวกังจุ้ยได้ขอฏีกามาทางหัวหน้าศาลฎีกาจ.กระบี่ ซึ่งได้ขอยื่นแก้ฎีกาไปพร้อมคัดค้านการทุเลาการบังคับคดี ส่วนขั้นตอนต่อไปจะต้องเพิ่มเนื้อหาชี้แจงว่าขณะนี้ได้เกิดผลกระทบจนทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตถึง 2 ราย ประกอบการพิจารณาของศาลด้วย
ขณะที่นายสถิตย์พงษ์ สุดชูเกียรติ รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ( ส.ป.ก) กล่าวว่า สปก.มีหน้าที่สร้างความเป็นธรรมในการให้สิทธิถือครองที่ดินทำกิน แต่จะทำเพียงลำพังคงไม่สำเร็จ เพราะต้องขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลด้วย ส่วนกรณีการซื้อขายที่ดินสปก.มือเปล่านั้นจะเร่งดำเนินคดีอาญาข้อหาบุกรุกต่อไป พร้อมรับปากจะเสนอเรื่องสร้างถนนให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจารณาโดยด่วน
ด้าน นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการ กสม. กล่าวว่าปัญหาการเรียกร้องสิทธิขอที่ดินทำกินของชาวบ้านชุมชนคลองไทรพัฒนาบานปลาย เพราะหน่วยงานของรัฐมิได้คุ้มครองสิทธิประชาชนตามรัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง จนทำให้เกิดการลอบยิงชาวบ้านเสียชีวิตมาแล้ว 3 ราย ดังนั้นเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ขอให้อัยการจังหวัดเร่งทำหนังสือยุติการคุ้มครองบังคับคดีชั่วคราวกับบริษัทจิวกังจุ้ย แล้วขอให้ส่งมาที่ตนด้วยเพื่อรวบรวมข้อสรุปทั้งหมดเข้าพบประธานศาลฎีกาด้วยตนเอง
นพ.นิรันดร์ กล่าวอีกว่าขอให้ผกก.สภ.ชัยบุรี หน่วยงานระดับจังหวัดประชุมร่วมกับชาวบ้านเครือข่ายสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้เกี่ยวกับการขับเคลื่อนโฉนดชุมชนตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาให้สำเร็จ และเป็นกรณีตัวอย่างในด้านแผนงานการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ส่วนสปก.ต้องเร่งตัดถนนเข้าหมู่บ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกและป้องกันอันตรายจากผู้มีอิทธิพลที่จะเข้ามาลอบทำร้ายชาวบ้าน อย่างไรก็ตามตนจะทำหนังสือของความร่วมมือจากตำรวจระดับภาค และตชด. ให้ส่งกำลังพลเข้ารักษาความปลอดภัย เพื่อให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิในการบังคับใช้กฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายทุนกับกลุ่มชาวบ้านที่เข้าถือครองที่ดินสวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุสัมปทาน มีเนื้อที่ทั้งหมด 15,000 ไร่ กระจายอยู่ในพื้นที่ อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี และ อ.เขาพนม จ.กระบี่ โดยกำนันคนหนึ่งซึ่งเป็นบุคคลที่กว้างขวางในพื้นที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่ ได้รับช่วงต่อมาจากเจ้าของบริษัทคู่สัมปทานของกรมป่าไม้ ให้นำที่ดินทั้งหมดแบ่งขายให้นายทุนและชาวบ้านทั่วไปในราคาไร่ละ 60,000-100,000 บาท ขณะที่พื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการฟ้องร้องขับไล่ของสำนักงานสปก. และมีชาวบ้านจากพื้นที่ต่างๆเข้าถือครอง เพราะเชื่อว่าจะได้สิทธิ์ที่ทำกินหลังทางราชการชนะคดี.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องได้ใน : แกนนำปฏิรูปที่ดินถูกฆ่า-วอน รบ.เดินหน้าโฉนดชุมชน
http://bit.ly/Qx2sNg