“ซีเอ็ด” ขอโทษเขียน จม.ทำเข้าใจผิด ปัดแบนวรรณกรรมรักร่วมเพศ
บ.ซีเอ็ดฯ แจง จม.ถึงผู้ฝากจำหน่าย ไม่ใช่แบนส่งวรรณกรรมรักร่วมเพศ แค่ป้องกันสอดไส้ในหนังสือเด็ก รับพลาดเขียนข้อความสั้นไปทำคนเข้าใจผิด ชี้คนเสีย ปย.ปล่อยเอกสารลับหลุด-เตรียมหาวิธีสกัด

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลบริษัท ซีเอ็ด ยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวกับผู้สื่อข่าว “สำนักข่าวอิศรา” ถึงกรณีที่บริษัทซีเอ็ดฯส่งจดหมายถึงผู้ฝากจำหน่าย เรื่อง “มาตรฐานการรับจัดจำหน่ายหนังสือวรรณกรรมโรแมนจิก อิโรติก” โดยเนื้อหาบางส่วนระบุว่าให้คัดกรองวรรณกรรมไม่ให้มีเนื้อหาแบบชายรักชาย หญิงรักหญิง เป็นลักษณะของการรักร่วมเพศ ที่สร้างเสียงวิจารณ์ว่าบริษัทซีเอ็ดฯอคติต่อคนรักร่วมเพศ ว่า ขอชี้แจงว่าจดหมายดังกล่าว ทำขึ้นโดยสายส่งของบริษัทซีเอ็ดฯ ไม่ใช่ตัวร้านหนังสือของบริษัทซีเอ็ดฯ โดยเป็นจดหมายส่งกันภายในระหว่างคู่ค้า ได้แก่สายส่งของบริษัทซีเอ็ดฯกับสำนักงานพิมพ์ 6-7 แห่ง ที่บริษัทซีเอ็ดฯเคยเรียกมาทำความเข้าใจ เนื่องจากเกิดปัญหาเรื่องการสอดไส้วรรณกรรมที่มีเนื้อหาส่อไปในทางเพศอย่างโจ๋งครึ่ม ในหมวดวรรณกรรมเยาวชน จึงทำจดหมายดังกล่าวในลักษณะเมโม หรือบันทึกเตือนความจำ เห็นได้จากการใช้ถ้อยคำง่ายๆ แค่ 1 หน้ากระดาษเอสี่ เพราะสายส่งของบริษัทซีเอ็ดฯได้เรียกคุยกับสำนักงาน 6-7 แห่งดังกล่าวไปแล้ว
“แต่เมื่อจดหมายฉบับนี้หลุดออกมา พอผมเห็นเนื้อหาในข้อกำหนดที่ 1 ก็ต้องกุมขมับ และยอมรับความผิดพลาด พร้อมขอโทษต่อสาธารณชน เนื่องจากเขียนข้อความที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะจริงๆ มันเป็นแค่เมโม เนื่องจากข้อความที่แท้จริงควรเขียนว่า ไม่ให้มีวรรณกรรมที่มีลักษณะของชายรักชาย หญิงรักหญิง เป็นลักษณะของการรักร่วมเพศ โดยมีการบรรยายถึงการมีเพศสัมพันธ์อย่างโจ่งแจ้ง ที่ควรอยู่ในหมวดวรรณกรรมผู้ใหญ่ สอดแทรกมาในหมวดวรรณกรรมเยาวชน เนื้อหาที่บริษัทซีเอ็ดฯคุยกับสำนักพิมพ์ดังกล่าวเป็นเช่นนี้ แต่ในจดหมายเขียนสั้นเกินไป ทำให้เกิดความเข้าใจผิด” นายวิโรจน์กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ปัญหาที่สายส่งของบริษัทซีเอ็ดฯเจอที่ผ่านมา คือหนังสือที่บางสำนักพิมพ์มาฝากจำหน่าย มีการสอดแทรกเนื้อหาของหนังสือในหมวดวรรณกรรมผู้ใหญ่ไว้ในหนังสือของหมวดวรรณกรรมเด็ก อาทิ หน้าปกเป็นการ์ตูนตาหวานแต่เนื้อในมีการบรรยายฉากการมีเพศสัมพันธ์อย่างโจ๋งครึ่ม ทำให้บริษัทซีเอ็ดฯได้รับการร้องเรียนทั้งจากร้านหนังสือที่สายส่งของบริษัทซีเอ็ดฯนำหนังสือไปส่งให้ อย่างนายอินทร์หรือบีทูเอส และจากผู้ปกครอง ขณะที่กระทรวงวัฒนธรรมก็ขอความร่วมมือให้ช่วยกันสอดส่องดูแล บริษัทซีเอ็ดฯจึงเรียกสำนักพิมพ์ที่มีปัญหา 6-7 สำนักพิมพ์ดังกล่าว มาตกลงกันตามเนื้อหาในจดหมายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคนปล่อยเอกสารที่ควรจะเป็นเรื่องภายในออกมา ครั้งต่อไปก็จะมีตีโค้ดรับในจดหมายที่ส่งให้กับผู้ฝากจำหน่ายทุกฉบับ เพื่อที่ว่าในอนาคตถ้ายังมีเอกสารภายในหลุดออกมาอีกจะได้รู้ว่าหลุดจากใคร
“สายส่งของบริษัทซีเอ็ดฯไม่ได้ห้ามวรรณกรรมที่มีเนื้อหาส่อไปในทางเพศ แต่ต้องระบุหมวดให้ถูกต้อง เช่นเป็นหมวดวรรณกรรมผู้ใหญ่หรือหมวดวรรณกรรมโรแมนซ์ แต่ที่ผ่านมามีปัญหาคือมีการสอดไส้มาในหมวดวรรณกรรมเยาวชน เหมือนกับถ้าหน้าปกเป็นนิตยสารแม็กซิม แล้วเนื้อในเป็นนิตยสารแม็กซิม ก็คงไม่มีปัญหาอะไร ที่มีปัญหาก็คือ หน้าปกเป็นหนังสือเรียน แต่เนื้อในเป็นนิตยสารแม็กซิม ซึ่งกรณีหลังนอกจากทำให้บริษัทซีเอ็ดฯถูกร้องเรียน และอาจทำให้ถูกฟ้องร้องเป็นคดีความได้ในอนาคต” นายวิโรจน์กล่าว
นายวิโรจน์ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ยืนยันว่าบริษัทซีเอ็ดฯไม่มีอคติต่อคนรักร่วมเพศอย่างแน่นอน เพราะในบริษัทเองก็มีคนรักร่วมเพศอยู่เป็นจำนวนมาก
::: เรื่องที่เกี่ยวข้อง :::
- ค้าน! ซีเอ็ดแบนหนังสือรักร่วมเพศขึ้นหิ้ง ชี้เหวี่ยงแห-มีอคติ
