เผย นร.ติดกามโรครองจากพนักงานบริการ สสส.ชูอุดรฯต้นแบบภูมิคุ้มกันเซ็กส์เด็ก
สสส.จับมือ 9 หน่วยงานท้องถิ่นอุดรธานี พัฒนาต้นแบบสุขภาวะทางเพศเยาวชน สร้างภูมิคุ้มกันเซ็กส์ไม่ปลอดภัย-ท้องไม่พร้อม-ยาเสพติด เผยผลสำรวจนักเรียนนักศึกษาติดกามโรครองจากพนักงานขายบริการ
วันที่ 27 พ.ย.55 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับ 9 หน่วยงานใน จ.อุดรธานี ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตเยาวชนด้านสุขภาวะทางเพศ จังหวัดอุดรธานี โดยนายชยพล ธิติศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดทำให้มีการเคลื่อนย้ายประชากรเข้ามาทำงานและศึกษาต่อจำนวนมาก ความหนาแน่นประชากรก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดยาเสพติด เพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ท้องไม่พร้อมในกลุ่มเยาวชน ซึ่งการแก้ปัญหาจำเป็นต้องทำทั้งทางตรงและทางอ้อม ครอบคลุมทั้งครอบครัว พ่อแม่ผู้ปกครอง โรงเรียนและชุมชน ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำสตรี จิตอาสาทุกคน และโดยเฉพาะตัวเด็กและเยาวชน
โดยมีเป้าหมายให้เยาวชนได้รับความยอมรับ สามารถพัฒนาทักษะชีวิตและมีความนับถือตนเอง โดยมีครอบครัวและเครือข่ายทางสังคมในพื้นที่คอยสนับสนุนผ่านกิจกรรมต่างๆ และฝ่ายสุขภาพช่วยจัดบริการสุขภาพที่เป็นมิตร และมีระบบให้คำปรึกษา-ดูแลช่วยเหลือ-ฟื้นฟู เมื่อประสบปัญหาตั้งแต่ระดับชุมชน ตำบล อำเภอ และจังหวัด เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
นพ.สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กล่าวถึงผลการสำรวจพฤติกรรมทางเพศเยาวชน ระดับ ม.2, ม. 5 และอาชีวศึกษาปีที่ 2 ระหว่างปี2552-2554 พบว่านักเรียนชาย ม.2 ร้อยละ5.9 เคยมีประสบการณ์ทางเพศ นักเรียนชาย ม. 5 มีเพศสัมพันธ์ร้อยละ 23.8 นักเรียนอาชีวศึกษาชายชั้น ปวช. ปีที่2 ร้อยละ 67.0 ส่วนนักเรียนหญิง ม.2 ร้อยละ3 เคยมีประสบการณ์ทางนักเรียนหญิง ม.5 อยู่ที่ร้อยละ13.7 และนักเรียนอาชีวศึกษาหญิง ปวช.ปีที่ 2 ร้อยละ41.2 เคยมีเพศสัมพันธุ์แล้ว เมื่อสำรวจอัตราป่วยกามโรคในอายุ 15-19 ปีปี 2551 พบถึงร้อยละ 42.44ของการป่วยกามโรคทั้งหมด โดยพบว่านักเรียนนักศึกษาป่วยเป็นอันดับสองรองจากพนักงานบริการ ชายติดจากแฟน คู่รัก ร้อยละ55.79 หญิงติดจากแฟนร้อยละ 52.63 โดยหญิงที่ตั้งครรภ์อายุน้อยกว่า 20 ปี พบการติดเชื้อเอดส์ร้อยละ 0.6
“ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่าปี54 อัตราคลอดของวัยรุ่นหญิง(อายุ15-19 ปี)อยู่ที่ 69.8 คนต่อวัยรุ่นหญิง1,000 คน เพิ่มจากปี43 ซึ่งอยู่ที่ 31.1 คน โดยใน จ.อุดรธานี มีอัตรา 31.26 - 42.86 คนต่อ 1,000 คน โดยมีอัตราสูงใน4 อำเภอ อ.หนองแสง สร้างคอม กุมภวาปี หนองวัวซอ”นพ.สัญชัย กล่าว
ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวว่าอุดรธานีได้รับการพัฒนาให้เป็นจังหวัดต้นแบบบูรณาการการทำงานระหว่างทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตเยาวชนด้านสุขภาวะทางเพศ และเน้นความสำคัญของการทำงานในระดับตำบล ดังนี้ 1.พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพศวิถีศึกษาสำหรับเยาวชน 2.พัฒนารูปแบบการจัดการเชิงยุทธศาสตร์ด้วยข้อมูลข่าวสาร 3.พัฒนาระบบและรูปแบบบริการสุขภาพที่เป็นมิตรแก่เยาวชน 4.สร้างพื้นที่สร้างสรรค์ให้เยาวชน 5.พัฒนารูปแบบการระดมทรัพยากรเพื่อการขยายผลภารกิจให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด
ทั้งนี้การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้มียุทธศาสตร์สร้างเสริมคุณภาพชีวิตเยาวชนที่มุ่งลดปัญหาอนามัยการเจริญพันธุ์ 5 ด้าน ได้แก่ การตั้งครรภ์ไม่พร้อม การทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย การกระทำความรุนแรงทางเพศ การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการติดเชื้อ HIV โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง 9 หน่วยงาน ได้แก่
สสส. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุดรธานี สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 8 อุดรธานี มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนานโยบาย องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี หน่วยงานด้านการศึกษา และภาคีเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนสถานศึกษาและหน่วยบริการสุขภาพในพื้นที่ โดยมียุทธศาสตร์การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตเยาวชนที่มุ่งลดปัญหาอนามัยการเจริญพันธุ์ 5 ด้าน ได้แก่ การตั้งครรภ์ไม่พร้อม, การทำแท้งที่ไม่ปลอดภัย,การกระทำความรุนแรงทางเพศ, การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการติดเชื้อ HIV .
ที่มาภาพ : http://hilight.kapook.com/view/4539