“หม่อมอุ๋ย” ชงภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ร่วมแฉทุจริตจำนำข้าว
“หม่อมอุ๋ย” ชงภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ร่วมแฉทุจริตจำนำข้าว “ประมนต์” ขอหารือที่ประชุมก่อนกำหนดท่าที
วันที่ 22 พฤศจิกายน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง“คอร์รัปชั่น:จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจและสังคมไทย” จัดโดยหอการค้าไทยและภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ตอนหนึ่งถึงการดำเนินนโยบายประชานิยมว่า ประชานิยมมีหลายรูปแบบ ประชานิยมที่ดีก็เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ประชาชนเท่านั้นได้ประโยชน์และเงินที่ลงไปนั้นคุ้มค่า แต่กรณีโครงการรับจำนำข้าว นอกจากประชาชนแล้ว ยังมีเหลือบเกาะหลังประชาชนได้ประโยชน์ไปด้วย โครงการนี้จึงสร้างความเสียหายมากกว่าที่ชาวนาจะได้รับจำนวนมาก
“ผมออกมาพูด ดร.นิพนธ์ พัวพงศกรก็ออกมาพูด หรือแม้กระทั่ง ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลเองก็ยังออกมาพูด แต่เขาก็ไม่ฟัง คนๆ เดียวพลังมันน้อย แต่หากภาคีเครือข่ายฯ เห็นว่าเรื่องนี้มันเป็นปัญหาใหญ่มากและอาจทำให้ประเทศชาติกระเทือนได้ ช่วยกันหาข้อมูลจริงๆ จังๆ โครงการนี้มีข้อเสียอะไรอีก โดยเฉพาะในส่วนที่ภาคเอกชนน่าจะสามารถหาได้และมีข้อมูล เช่น การประมูลข้าวของกระทรวงพาณิชย์ให้กับเอกชน ช่วยกันพูดให้หมด นำข้อมูลมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ น่าจะช่วยสร้างสำนึกให้ประชาชน ให้ผู้บริหารประเทศได้บ้าง เพื่อหวังว่าเขาจะกลับใจ” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ด้านนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวถึงกรณีที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เสนอให้ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องโครงการรับจำนำ โดยเฉพาะในส่วนที่ภาคเอกชนมีข้อมูล เช่น การประมูลขายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ให้กับสาธารณะรับทราบนั้น เท่าที่ผ่านมาทางเครือข่ายฯได้ทำงานร่วมกับภาครัฐ องค์กรอิสระในเรื่องการให้ข้อมูลอยู่แล้ว แต่หากจะให้ทำงานผ่านประชาชน นำข้อมูลเผยแพร่ต่อสาธารณะด้วยนั้น คงต้องไปหารือในคณะกรรมการเสียก่อนว่า จะมีผลดี ผลเสียต่อการทำงานอย่างไร การวางตัวของเราจะอยู่ที่ไหน ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานได้ผลที่สุด
ขอบคุณภาพประกอบ:http://www.voicetv.co.th/