ยูนิเซฟจับมือ IKEA ชวนซื้อตุ๊กตาช่วยการศึกษาเด็ก 3 จว.ชายแดนใต้
ยูนิเซฟ ระบุ 3 จว.ชายแดนใต้ยากจนที่สุดในไทย-เด็กเข้าไม่ถึงสิทธิพื้นฐาน จับมือ IKEA-Save the Children ชวนซื้อตุ๊กตาผ้า 4 พ.ย.-12 ม.ค. ช่วยการศึกษาเด็กชายแดนใต้ สานต่อทวิภาษาไทย-มลายู หนุนเด็กรักถิ่น
วันที่ 16 พ.ย. 55 อิเกีย (IKEA) ร่วมกับองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) และองค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) เปิดโครงการตุ๊กตาผ้าเพื่อการศึกษา ภายใต้แนวคิด ‘เติมความสุขคูณสองให้เด็กไทย’ เชิญชวนให้ลูกค้าซื้อตุ๊กตาผ้าเพื่อช่วยเหลือเด็กใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตุ๊กตาที่ขายได้แต่ละตัว มูลนิธิ IKEA Foundation จะบริจาคสนับสนุนโครงการเพื่อการศึกษาของยูนิเซฟและองค์การช่วยเหลือเด็ก 1 ยูโร พร้อมสมทบตุ๊กตาอีก 1 ตัวมอบแก่เด็กยากไร้ในพื้นที่ ระหว่าง 4 พ.ย. 55– 12 ม.ค. 56
นายลาร์ช สเวนสัน ผู้จัดการฝ่ายการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนส่วนภูมิภาค อิคาโน่ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โครงการตุ๊กตาผ้าเพื่อการศึกษาสามารถช่วยชีวิตเด็กยากไร้ได้ ซึ่งการจะทำให้เกิดความยั่งยืนนั้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากองค์กรช่วยเหลือเด็กที่เชี่ยวชาญ เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะมีส่วนช่วยทำให้เด็ก ๆได้พัฒนาการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ผ่านตุ๊กตาที่ทุกคนบริจาค โดยตุ๊กตาผ้าทุกตัวที่ลูกค้าซื้อแล้วนำบริจาคในกล่อง รวมกับตุ๊กตาผ้าอีก 1 ตัวที่ IKEA สมทบ จะจัดส่งแก่โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้านนายพิชัย ราชภัณฑารี ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกจัดเป็นพื้นที่ยากจนที่สุดของไทย ทำให้เด็กในพื้นที่ขาดโอกาสเข้าถึงสิทธิต่าง ๆ โดยเฉพาะการศึกษา ซึ่งตัวเลขของยูนิเซฟระบุถึงอัตราการเข้าเรียนของเด็กในกลุ่มครอบครัวที่ยากจนที่สุดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ นอกจากนี้ยังพบเด็กใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เข้าถึงของเล่นที่ส่งเสริมทักษะความรู้ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขาดคุณภาพการเรียนการสอนที่ดีด้วย ดังนั้นรัฐบาลและภาคเอกชนควรเร่งช่วยเหลืออย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำของไทยกับประเทศอื่นในเอเชีย ยังต้องอาศัยตัวชี้วัดที่หลากหลายในการประเมิน แต่ยืนยันว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รุนแรงน้อยกว่าปากีสถาน อัฟกานิสถาน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ภาคอื่นของไทยกลับรุนแรงมากที่สุด
ทั้งนี้เมื่อยูนิเซฟได้รับเงินบริจาคจาก IKEA จะสานต่อโครงการ ‘ทวิภาษา’ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550 จนประสบความสำเร็จโดยส่งเสริมให้เด็กระดับชั้นอนุบาลเป็นต้นไปได้เรียนภาษามลายูปัตตานีเป็นภาษาหลัก และมีภาษาไทยเป็นภาษารอง เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนให้ดีขึ้น และส่งเสริมให้รักในภาษาถิ่น ซึ่งปรากฏว่าเด็กในพื้นที่ดังกล่าวมีผลการเรียนดีขึ้น กล้าแสดงออก และมีจิตใจแจ่มใส ทำให้สามารถสอบแข่งขันกับเด็กในภูมิภาคอื่นของไทยได้
ขณะที่นางเอเดลไวส์ ซีลาน ผู้อำนวยการโครงการข้ามพรมแดนระดับภูมิภาค Save The Children ในประเทศไทย กล่าวว่า ไทยยังมีกลุ่มเด็กที่เข้าไม่ถึงสิทธิทางสังคม ได้แก่ แรงงานเด็กต่างด้าว เด็กไร้สัญชาติ เด็กชนเผ่า และเด็กที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ดังนั้นจึงร่วมมือกับ IKEA ใช้ตุ๊กตาผ้าที่เหมาะสำหรับการกอดและมอบความอบอุ่นเป็นตัวแทนสื่อความหมายให้เด็กใช้บอกเล่าเรื่องราวผ่านของเล่นชนิดนี้ จะช่วยพัฒนาทักษะ เกิดความคิดสร้างสรรค์ และใช้ให้เกิดประโยชน์ในกิจกรรมทางการศึกษา ทั้งนี้ได้ยกตัวอย่างโครงการกำปงซือแน หรือหมู่บ้านแห่งความสุข โดยส่งเสริมให้คนในชุมชนสร้างกลไกพัฒนาเด็กผ่านตุ๊กตาผ้า ด้วยการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้เด็กเข้าทำกิจกรรม บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการตุ๊กตาผ้าเพื่อการศึกษา เริ่มตั้งแต่ปี 2546 เพื่อช่วยเหลือเด็ก 8 ล้านคน ใน 45 ประเทศทั่วโลกโดย IKEA บริจาคเงินแล้ว 1,900 ล้านบาท เฉพาะปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุดมียอดบริจาคถึง 496 ล้านบาท ซึ่งจะสนับสนุนโครงการทางการศึกษาของเด็ก ๆ เช่น การสร้างโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสม มีครูผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งส่งเสริมเด็กชายขอบที่ยากไร้.