แจ้งให้ทราบ
Current Item Layout Template is 'default-thaireform' does not exist
- Please correct this in the URL or in Content Type configuration.
- Using Template Layout: 'default'
อัมมาร” ฉะ รัฐบาลอย่าเอาภาษีไปเก็งกำไรขายข้าว
"อัมมาร์" มองอนาคตข้าวไทยแย่ ราคาตก ย้ำทางออกหายนะ ต้องเลิกจำนำ ฉะรัฐบาลอย่าเอาภาษีประชาชนไปเก็งกำไร ชี้นโยบายช่วยคนจน-ช่วยราคาข้าวเป็นคนละเรื่อง
เมื่อเร็วๆ นี้ในงาน "ภาพอนาคตเศรษฐกิจข้าวไทย" ที่จัดโดย สถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการอาวุโส ทีดีอาร์ไอ กล่าวกับศูนย์ข่าวสารนโยบายสาธารณะ สำนักข่าวอิศรา ถึงนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่า การรับจำนำข้าวในช่วงของขั้นตอนการรับซื้อข้าว หรือที่เรียกว่าจำนำข้าวจากชาวนานั้น มีการคอร์รัปชั่นในระดับที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับช่วงขั้นตอนการระบายข้าว ได้กำไรในช่วงนี้มากที่สุด เพราะมีการแจกจ่ายเหนือหัวเกษตรกร กลายเป็นนโยบายที่ต้องตกลงกัน
"รัฐบาลทำนโยบายนี้โดยการเก็บข้าวเข้าสต็อกไว้จนจุก ไม่คำนึงถึงการระบาย ซึ่งหากมองถึงการต่อลองกับต่างประเทศจะเห็นได้ว่าไม่มีทางได้ราคาดี รัฐบาลไม่ได้มองว่านี่คือส่วนหนึ่งของนโยบาย ไม่ใช่เพียงประชานิยมแจกเงิน 15,000 บาทเท่านั้น และรัฐบาลไม่ได้คิดด้วยว่า ทุกครั้งที่มีการระบายข้าวราคาจะลดลง เป็นการช่วยประเทศเวียดนามและอินเดีย ด้วยการดูดข้าวออกจาระบบไป 5-6 ล้านตันต่อปีจาก 30 ล้านตัน หากรัฐบาลยังยืนยันดำเนินนโยบายอย่างเดิม อนาคตข้าวไทยจะแย่ ราคาที่ได้จะไม่ดีขึ้น เมื่อตลาดโลกได้รับข้าวจากไทยในอัตรา 10 ล้านตันต่อปีจากการระบายข้าวของรัฐบาลราคาก็จะไม่ดี เพราะตอนนี้ตลาดข้าวล้นอยู่แล้ว"
ดร.อัมมาร มองว่าทางออกปัญหาต่างๆ เหล่านี้ รัฐบาลต้องค่อยๆ ยกเลิกนโยบาย จะยกเลิกทันทีไม่ได้ เพราะข้าว 10 ล้านตัน ถ้าหล่นลงมาในตลาด ทั้งรัฐบาลและเกษตรกรจะลำบาก อย่างไรก็ตามในระยะยาวต้องยกเลิก ไม่มีวิธีอื่น
"เมื่อรัฐบาลพาประเทศมาจนถึงจุดนี้ เหมือนตั้งใจเดินไปให้ทรายดูดทั้งที่รู้ แล้วจะควานหาคนมาช่วยดึงออก โดยที่คนที่ดึงออกก็มีสิทธิ์เสี่ยงโดนทรายดูดไปด้วย เช่น ขณะนี้หากมีใครเสนอว่าให้ขายข้าวออกทันที รัฐบาลก็จะอ้างได้ว่าเป็นผู้ทำให้ข้าวราคาตก ดังนั้น เมื่อรัฐบาลสร้างปัญหาแล้วก็ต้องแก้เอง และต้องให้เกษตรกรเข้าใจด้วยว่าหากยกเลิกนโยบาย รายได้เกษตรกรจะไม่ได้ดีเท่าปัจจุบัน หรือไม่รัฐบาลก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินชดเชยให้ ในรูปของประกันราคา ซึ่งไม่มีทางแน่นอน"
สำหรับข้ออ้างของรัฐบาลที่ว่าจำนำข้าวเป็นนโยบายที่ชาวนาได้ประโยชน์นั้น ดร.อัมมาร กล่าวว่า ชาวนามีตั้งแต่ระดับจนไปถึงรวย ซึ่งชาวนาเกือบครึ่งกว่า 47% ค่อนข้างจน เมื่อเทียบกับการกระจายรายได้ทั่วประเทศ การผลิตและจำหน่ายข้าวเป็นสัดส่วนและปริมาณการผลิตของชาวนารวย เป็นการนำเงินจากผู้เสียภาษีไปให้ชาวนารวย ขณะที่ชาวนาจนได้ 18% ของเงินที่ชาวนาทั้งหมดได้
"คนจนในประเทศไทยไม่ได้มีแค่ชาวนาเท่านั้น หากรัฐบาลจะมีนโยบายช่วยเหลือชาวนาที่ยากจน 47% จะต้องมีนโยบายที่ต่างออกไป นโยบายต่อคนจน และนโยบายต่อสินค้าข้าวเป็นคนละเรื่อง แม้ว่าชาวนาส่วนใหญ่จะเป็นคนจน ทั้งนี้ อยากเตือนเกษตรกรไม่ว่ารวยหรือจนไว้ว่า ได้เงินมาจากนโยบายนี้ให้เก็บไว้ อย่าไปใช้ เพราะในระยะยาวนโยบายนี้ไม่ยั่งยืน ถึงวันหนึ่งเมื่อราคาข้าวตก จะไม่มีใครมาช่วยมารับผิดชอบ"
ในส่วนการส่งออกข้าว ดร.อัมมาร กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลไม่มีศรัตรู รัฐบาลกำลังทำให้กลไกการส่งออกพัง แม้รัฐบาลจะอ้างตลอดว่าเมื่อซื้อข้าวทุกเมล็ดแล้วราคาจะขึ้น ราคาจะดี แต่เวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ รัฐบาลก็ยังอ้างว่าอนาคตราคาจะขึ้น เท่ากับว่ารัฐบาลกำลังเก็งกำไร แต่เป็นการนำเงินภาษีประชาชนไปเก็งกำไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ หากจะเก็งกำไร ก็ใช้เงินตัวเอง คงไม่มีใครว่า