ก.สาธารณสุขปัดข้อเรียกร้องบรรจุพยาบาลเป็นขรก. ประจำ
สธ.-ก.พ. ปัดข้อเรียกร้องบรรจุพยาบาล 1.7 หมื่นคนเป็นขรก. ชี้ให้ได้แค่พนักงานประจำ คาดแล้วเสร็จ มิ.ย. 56 โวเงินเดือนสูงกว่าลูกจ้างชั่วคราว 1.2 เท่า รพ.สต. โวยขาดพยาบาลวิชาชีพ เหตุแรงจูงใจต่ำ
วันที่ 30 ต.ค. 55 คณะกรรมการกำลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จัดเสวนา ‘วิกฤตพยาบาล ระดมปัญญาร่วมหาทางออก’ ณ อาคารสุขภาพแห่งชาติ จ.นนทบุรี
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะมองทีละส่วน เช่น ด้านกำลังการผลิต โครงสร้างที่ไม่รองรับ สัดส่วนความต้องการของประชากร ทำให้ขาดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ อย่างไรก็ดี ภาคกิจของกระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มมีการปรับเปลี่ยนให้เน้นการจัดการกระบวนการสุขภาพมากขึ้น โดยหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งจะประเมินอัตราพยาบาลที่ขาดแคลนแท้จริงเทียบกับปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น พื้นที่ทำงาน ศักยภาพบุคลากร ภายใน 3 ปี จะสามารถบรรจุพยาบาลลูกจ้างชั่วคราว 1.7 หมื่นคนเป็นข้าราชการได้ตามจำนวนที่วางกรอบไว้เริ่มแรกอาจไม่กี่พันราย
ส่วนพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวที่ไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ จะดำเนินการบรรจุเป็นพนักงานประจำกระทรวงสาธารณสุขแทน แบ่งเป็น กลุ่มวิชาชีพ เช่น แพทย์ พยาบาล กลุ่มสายสนับสนุน เช่น ธุรการ บัญชี พัสดุ และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ เช่น วิศวกร ซึ่งได้ร่างระเบียบเงินเดือนพนักงานประจำเสร็จแล้ว คาดว่าจะมีรายได้สูงกว่าลูกจ้างชั่วคราว 1.2 เท่า พร้อมสิทธิประโยชน์เหมือนข้าราชการ ด้านสิทธิการรักษาพยาบาลจะนำเข้าสู่หลักประกันสังคม ส่วนความก้าวหน้าทางอาชีพ หากคณะกรรมการประเมินเห็นว่ามีความรู้ความสามารถจะสามารถนำสู่ทางออกได้ และมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแทนบำเหน็จบำนาญ โดยจะหักจากเงินเดือน 3% รัฐสมทบอีก 3% ขณะที่การเรียกร้องให้มีการย้ายพยาบาลกลับสู่ภูมิลำเนานั้น เห็นว่าสามารถทำได้ตามปกติ แต่ต้องผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการระดับจังหวัดก่อน
“เราจะออกระเบียบว่าด้วยเรื่องพนักงานประจำกระทรวงสาธารณสุขภายในธ.ค. 55 และเริ่มบรรจุพยาบาลเป็นข้าราชการพร้อมพนักงานประจำตั้งแต่ม.ค. 56 โดยจะให้เสร็จสิ้นในมิ.ย. 56” ปลัดสธ. กล่าว
นายบัญชา อาภาศิลป์ สำนักงานพัฒนาระบบจำแนกตำแหน่งและค่าตอบแทน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กล่าวว่า การเรียกร้องขอเพิ่มอัตราบรรจุพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงผลกระทบค่าใช้จ่ายของรัฐ และความจำเป็นแต่ละพื้นที่ เพราะหากบรรจุพยาบาลมากเกินไป ยอมรับว่างบประมาณของไทยปัจจุบันมีไม่เพียงพอ
นางจงกล อินทสาร หัวหน้าพยาบาลรพ. บางปะหัน จ.อยุธยา กล่าวว่า ปัจจุบันพยาบาลมีความเสี่ยงในการปฏิบัติงานสูง เพราะอัตรากำลังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ป่วย แม้นโยบายการบรรจุพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวเป็นพนักงานประจำจะเป็นทางออกระยะยาวที่ดี แต่ยังมองไม่เห็นถึงสิทธิประโยชน์ที่เท่าเทียมกับข้าราชการ โดยเฉพาะศักดิ์ศรีความเป็นบุคคลสำคัญ อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐรู้ว่าเรื่องเงินไม่ใช่คำตอบ แต่พยาบาลทั้งหมดต้องการความมั่นคงมากกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวทีเสวนายังเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขเชิญผู้แทนพยาบาลจากทั่วประเทศเข้าร่วมร่างหลักเกณฑ์ต่าง ๆ พร้อมให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบาล (รพ.สต.) โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาขาดแคลนบุคลากรชำนาญการ เพราะปัจจุบันอัตราค่าตอบแทนน้อย ทำให้พยาบาลหลายคนลาออก หรือย้ายไปทำงานในโรงพยาบาลเอกชน ผู้ป่วยจึงได้รับผลกระทบต่อคุณภาพการรักษา จึงเสนอให้รัฐสร้างแรงจูงใจด้านความมั่นคงและสวัสดิการด้วย.
ที่มาภาพ : http://www.enn.co.th/uploads/contents/20120619220423.jpg