วัดระดับคอร์รัปชั่นไทย “วิชา” ยันมะเร็งระยะสุดท้าย
กรรมการ ป.ป.ช. ยันสถานการณ์คอร์รัปชั่นในไทย หนักที่สุดลุกลามจากระดับชาติ ลงลึกถึงท้องถิ่น กระตุ้นสังคมไทยไม่ควรอยู่เฉย ขณะที่พระรักเกียรติ ห่วงการตรวจสอบตามไปไม่ทัน หลังคอร์รัปชั่น วิวัฒนาการก้าวไปไกลมาก กลายเป็นทุจริตครบวงจร
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดงานสัมมนาเรื่อง “พ.ศ. 2567: ประเทศไทย...เขตปลอดคอร์รัปชัน” ณ ห้องประชุมนนทบุรี 2 อาคาร 4 ชั้น 2 สำนักงาน ป.ป.ช. (สนามบินน้ำ) โดย นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ (ป.ป.ช.) ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ทิศทางยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2556 - 2560)” ตอนหนึ่งถึงเรื่องคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประเทศชาติ ทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วนต้องร่วมแก้ไข พร้อมกับตั้งความหวังว่า อีก 12 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะปลอดภัยจากเรื่องนี้
นายปานเทพ กล่าวเปรียบเทียบประเทศเปรียบเหมือนร่างกาย ซึ่งกำลังถูกกัดกร่อนด้วยโรคมะเร็งร้ายแรง ระบาด และซึมลึก ทำลายประเทศ กัดเซาะติดอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ฉะนั้น เราต้องเร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น ให้หยุดให้ได้ เพราะหากหยุดไม่ได้ นั่นก็หมายถึงชีวิต
ขณะที่นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า สถานการณ์คอร์รัปชั่นในประเทศไทย เป็นเหมือนมะเร็งระยะสุดท้าย หนักที่สุด เพราะได้ลุกลามจากระดับชาติ ลงไปที่ระดับท้องถิ่นแล้ว ดังนั้นสังคมไทยไม่ควรอยู่นิ่งเฉย โดยเฉพาะกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย (law enforcement) นั้น ถือเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญมาก ไม่ว่า องค์กรอิสระ ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ต้องมีจิตสำนึกสูงมาก โดยทุกคนต้องมีจริยธรรมที่สูงกว่าคนปกติ
“กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย ต้องแยกผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวมออกจากกัน เพราะถ้าคุณจัดการผลประโยชน์ทับซ้อนไม่ได้ คุณอย่าได้คิดจะทำอะไรเลย”
ด้านพระรักเกียรติ รักขิตะธัมโม อดีต รมว. กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงวิวัฒนาการคอร์รัปชั่นก้าวไปไกลมาก จากที่กินเปอร์เซ็นต์ เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน กลายเป็นทุจริตเชิงนโยบาย กระทั่งกลายเป็นการทุจริตครบวงจร (one stop corruption) ดังนั้นจึงห่วงการตรวจสอบจะตามไปไม่ทัน
“ประเทศไทยปราบวงจรอุบาทว์ไม่ได้เลย ข้าราชการไม่เคยถูกจับ นักการเมืองตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง จับนักการเมืองติดคุกได้คนเดียว คือนายรักเกียรติ สุขธนะ แตกต่างจากต่างประเทศ ประธานาธิบดี พ่อค้า ข้าราชการยังคิดคุก หากตรวจพบทุจริต” พระรักเกียรติ กล่าว และว่า ดังนั้นการปราบคอร์รัปชั่น ไม่ใช่ปราบอย่างเดียว ต้องส่งเสริมการปลูกจิตสำนึกประชาชน ร่วมด้วย
ส่วนนายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการถอนรากถอนโคนคอร์รัปชั่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฮ่องกงใช้เวลา 36 ปี กว่าจะปราบปรามคอร์รัปชั่นสำเร็จ วันนี้เราควรคิด ทำอย่างไรจำกัดจำนวนการคอร์รัปชั่นอย่าให้เพิ่มขึ้น หรือไม่ให้มีมากจนเกินไป
ด้านตัวแทนภาคประชาชน นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด กล่าวถึงทัศนคติคนไทยยอมรับทุจริตคอร์รัปชั่น หากตัวเองได้ประโยชน์ คือ ความจริงที่เจ็บปวด และที่ตกใจมากก็คือ เยาวชนเป็นช่วงวัยที่ยอมรับได้มากที่สุด ดังนั้น การจะแก้ไขคอร์รัปชั่น ต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน จิตสำนึกต้องเข้มแข็งด้วย ขณะเดียวกันกฎหมายก็ต้องศักดิ์สิทธิ์ด้วย
“ผมอยากจะถามผู้ใหญ่ เรากำลังส่งมอบประเทศไทยในสภาพเช่นนี้ สภาพที่อ่อนแอ บอบช้ำ ยับเยินให้ลูกหลานของเราเช่นนั้นหรือ”