ชี้โครงการอุ้มยางพาราตกถึงชาวสวน 30% ถาม รบ.ส่วนต่างราคา 1.6พันล้านบ.ใครรับ
พรรคยางพาราฯ ชี้โครงการรักษาเสถียรภาพยาง 1.8 หมื่นล้านบ. ตกถึงชาวสวนจริงแค่ 5หมื่นตัน 30% ถามรัฐบาลอีก 70%ใครรับ ระบุส่วนต่างราคาถึง 1.6พันล้านบ.
นายเพิก เลิศวังศ์พง หัวหน้าพรรคยางพาราไทย (ยพท.) เปิดเผยว่าโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางไทยของรัฐบาลที่ใช้เงินไปแล้ว 15,000 ล้านบาท และได้รับอีก 30,000 ล้านบาทในโครงการรักษาเสถียรภาพที่องค์การสวนยาง (อสย.) เพื่อรับซื้อยางแผ่นดิบอยู่ที่ 100 บาท/กก. รมควัน 104 บาท/กก. โดยขณะนี้ซื้อยางไปแล้ว 1.2 แสนตัน โดยประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ไม่รู้ว่าเป็นของกลุ่มสถาบันเกษตรกรใด แต่อีก 30 เปอร์เซ็นต์หรือ 50,000 ตันเป็นของเกษตรกรชาวสวนยางจริง
“ยางประมาณ 80,000 ตันเป็นของกลุ่มใด จะต้องถามรัฐบาลว่ายางพาราเป็นรายได้เข้าประเทศมหาศาล ตอนนี้มีปัญหาคือมีการตั้งเป็นกลุ่มๆทั่วประเทศโยงใยมากมาย เพราะมีประโยชน์อยู่ที่ส่วนต่างซื้อยางจากเกษตรกรกว่า 80 บาท/กก. แต่นำไปขายกับ อสย.ได้ราคาที่ตั้งไว้ 100 บาท สำหรับยางแผ่นดิบและรมควัน 104 บาท/กก. จะเกิดส่วนต่าง 20 บาท / กก. เงินส่วนต่างประมาณ 1,600 ล้านบาท และยังมีรายการจากโรงงานยางอีก 1 บาท/กก.ประมาณ 80 ล้านบาท” นายเพิกกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าราคาซื้อขายยางท้องถิ่นวันที่ 22 ต.ค.55 น้ำย่างสดอยู่ที่ 78 บาท/กก. สำหรับบางราย ยางแผ่นดิบ 81 บาท/กก. ทั้งนี้แหล่งข่าวจากวงการยางเปิดเผยว่าสถานการณ์ยางจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ด้วยปัจจัยการฟื้นตัวของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ส่วนจีนเริ่มมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการที่ไทยงดส่งออกยางเก็บไว้ในสต๊อกเพื่อดันราคา ตลอดจนโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง 15,000 ล้านบาท จึงทำให้ราคายางพารากระเตื้องขึ้น โดยแนวโน้มปลายปีนี้ราคายางแผ่นดิบจะขยับขึ้นไม่ต่ำกว่า 100 บาท / กก.
ที่มาภาพ ::: http://www.thealami.com/main/content.php?page=news&category=2&id=683