นิด้าเปิดเวทีชาวนาพูด จี้รัฐเร่งระบาย หวั่นเก็บไว้นาน ข้าวเสื่อม ราคาตก!!
เวทีนิด้าพบชาวนา สะท้อนเกษตรกรชอบจำนำข้าว บอกรบ.บริหารสต็อกให้ดี ด้านที่ปรึกษา ป.ป.ช.เผย ไม่แปลกชาวนาหนุนนโยบาย เปรียบยกเลิก VAT ใครบ้างไม่ชอบ แนะห่วง ศก.ไทยระยะยาวด้วย
วันที่ 12 ตุลาคม ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ นิด้า จัดเสวนาในหัวข้อ "เสวนาเรื่องข้าว : นิด้าพบชาวนา" เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจระหว่างนักวิชาการและชาวนาในเรื่องการรับจำนำข้าว โดยมี รศ.ดร.อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ เหล่านักวิชาการ และตัวแทนชาวนาในจังหวัดกรุงเทพมหานครฯ เช่น เขตคลองสามวา และเขตหนองจอก กว่า 30 คน ร่วมเสวนา
รศ.ดร.อดิศร์ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลควรต้องทำภายใต้โครงการรับจำนำข้าวปัจจุบันนี้ คือ ลดราคาจำนำให้ใกล้เคียงกับราคาตลาด และจำกัดปริมาณและมูลค่าที่รับจำนำ ควรปรับให้เป็นนโยบายที่ช่วยให้เกษตรกรมีผลผลิตที่สูงขึ้น แต่ต้นทุนลดลง เพื่อให้ชาวนามีกำไรเพิ่ม เพราะขณะนี้สิ่งที่ชาวนาต้องการไม่ใช่ราคาซื้อข้าวที่สูง แต่ต้องการกำไร โดยที่การเพิ่มราคาซื้อข้าว จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และเกษตรกรไม่ได้กำไรอย่างที่ควรได้
"ต่อจากนี้อาจมีไปลงพื้นที่ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลจากเกษตรกร แล้วสรุปประเด็นเพื่อสะท้อนปัญหาให้รัฐบาลเกี่ยวกับการจำนำข้าวต่อไปเรื่อยๆ อาจเป็นรูปแบบบทความวิชาการ เป็นที่ชัดเจนว่าเกษตรกอยากลืมตาอ้าปาก อยากปลอดหนี้ แต่ก็ยังมีปัญหาด้านราคา ต้นทุนและหนี้สินที่การรับจำนำยังไม่ตอบโจทย์ การจะขายข้าวได้ราคาดี คุณภาพข้าวจะต้องดีด้วย แต่ทุกวันนี้คุณภาพยังด้อย สต็อกยังเต็มประเทศดูแล้วคงไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก"
ชาวนาบอกรัฐบาลเร่งระบายข้าว สต๊อกไว้นานเสื่อม
ขณะที่ตัวแทนชาวนา นายจำลอง แก้วกระจ่าง ชาวนาในเขตคลองสามวา เห็นต่างว่า สำหรับชาวนาแล้วการรับจำนำทุกเมล็ดดีที่สุด และราคานี้เป็นราคาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว พอให้มีกำไรได้บ้าง จากเดิมที่ขาดทุนอย่างเดียว แต่ก็ยอมรับว่ามีผลกระทบที่ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลต้องจัดการให้ ส่วนที่ยังเป็นห่วงและอยากให้รัฐบาลปรับปรุงที่สุด คือ การระบายข้าว ที่ไม่ควรสต็อกไว้นาน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและไม่ทำให้คุณภาพข้าวเสียหายขายไม่ได้ราคา
"สำหรับข้อเสนอที่ว่าเกษตรกรควรปรับพื้นที่บางส่วนไปทำการเกษตรอื่นๆ นั้น ในกรณีนาเช่าคงไม่สามารถทำได้ หากปรับเปลี่ยนพื้นที่หรือขุดดินเลี้ยงปลาก็คงถูกแจ้งจับ นี่เป็นปัญหาสำหรับผู้เช่านา ที่ทำนาได้เพียงอย่างเดียวและต้องทำเต็มพื้นที่ ไปเพาะปลูกหรือเลี้ยงสัตว์ไม่ได้"
ด้านดร.สิริลักษณา คอมันตร์ ที่ปรึกษากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ศึกษาเกี่ยวการรับจำนำข้าว กล่าวว่า จากการติดตามศึกษา พบว่าการรับจำนำข้าวมีการทุจริตในทุกขั้นตอน แต่ระดับชาวนามีน้อยกว่า ช่วงที่ซื้อข้าวมาเก็บเอาไว้และช่วงระบายข้าวออก ที่พบปัญหาการทุจริตมากกว่า ทั้งนี้ นโยบายรับจำนำข้าวควรปรับเพื่อให้ประโยชน์ตกอยู่กับชาวนารายเล็กที่เดือดร้อนจริง ให้เงินมากหรือน้อยไม่ขอแย้ง แต่หากให้ไม่ตรงกลุ่มที่มีความต้องการก็คงไม่เป็นธรรมแก่สังคม อย่างไรก็ตาม หากสามารถจำกัดการรับจำนำให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมได้ เช่น 50 ตัน ก็จะช่วยลดพื้นที่ หรือนำที่นาไปเพาะปลูก ทำการเกษตรอื่นๆ ได้
"โครงการนี้ทำให้ประเทศไทยมีการปลูกข้าวมาก มีผลผลิตมาก เพิ่มพื้นที่เพาะปลูกมาก ซึ่งเป็นการทำลายคุณภาพข้าวทางอ้อม เนื่องจากเกษตรกรเร่งทำผลผลิตจึงปลูกข้าวระยะสั้นเพียง 3-4 เดือนเท่านั้น และยังกระทบต่อตลาดข้าวที่ส่งออกได้น้อยลง และที่ชาวนายังชื่นชอบในนโยบายไม่เห็นค้านก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ต่างไปจากหากประเทศไทยยกเลิก VAT ก็คงไม่มีใครที่ไม่ชอบ เพราะทุกคนได้ประโยชน์ แต่ประโยชน์ที่แลกกับสถานะความมั่นคงทางการเงินและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวจะคุ้มค่ากันหรือไม่ ต้องพิจารณาด้วย"