ด่วน! ศาลรธน.ไม่รับคำร้อง อ.นิด้า ขอยับยั้งจำนำข้าว-ชี้ไม่ใช่ผู้ถูกละเมิด
ในวันที่ 10 ต.ค.ศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณาคำร้องที่นักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และคณะ ยื่นเรื่องขอให้ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากเป็นการที่รัฐเข้าไปทำตัวเป็นพ่อค้าข้าว อันอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 84 (1) ก่อนมีคำสั่งไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา เพราะเห็นว่าผู้ร้องไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212
ทั้งนี้ ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว เห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องใดไว้พิจารณาวินิจฉัยจะต้องมีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายให้อำนาจไว้ แต่คำร้องนี้เป็นการขอให้ศาลฯ ยับยั้งหรือยุติโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งเป็นกรณีที่ไม่อยู่ในอำนาจของศาลฯ
ประกอบกับผู้ร้องยังมิใช่เป็นบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพอันสืบเนื่องมาจากบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และมิใช่เป็นการขอให้ศาลฯ พิจารณาวินิจฉัยว่า บทบัญญัติแห่งกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ คำร้องนี้จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 212
ศาลฯ มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
อย่างไรก็ตาม สำหรับคำร้องนี้ รศ.ดร.อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา กับคณะ ยื่นหนังสือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญใช้อำนาจตามกฎหมาย เพื่อยับยั้งหรือยุติโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลอันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ซึ่งผู้ร้องเรียนและคณะ รวมทั้งสิ้น 146 รายชื่อ เห็นว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลจากเกษตรกร หรือผู้มีสิทธิ์ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการมาแล้ว และจะเริ่มรอบใหม่ ใช้เงินไปแล้วจำนวนหลายแสนล้านบาท และมีต้นทุนอีกมากมาย โดยปกติหลักของการจำนำข้าว คือการให้ราคาจำนำต่ำกว่าราคาตลาดในระดับที่เหมาสะม เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรมาไถ่ถอน เพื่อนำไปขายในตลาด เมื่อข้าวราคาสูงขึ้น
แต่โครงการรับจำนำฯ รัฐบาลจงใจตั้งราคารับจำนำให้สูงกว่าราคาตลาดอย่างชัดแจ้ง โดยมิได้มีเจตจำนงให้เกษตรกรไถ่ถอนคืนแต่อย่างใด อันเป็นการผูกขาดตัดตอน ทำลายระบบการค้าของไทย และส่งผลต่อระบบการผลิตข้าวที่บิดเบือนกลไกตลาด ซึ่งประโยชน์ที่เกษตรกรได้รับไม่คุ้มค่ากับทรัพยากรส่วนรวมของชาติที่เสียไป
การกระทำของรัฐบาลในโครงการดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 84 (1)
ผู้ร้องเรียนและคณะ จึงยื่นหนังสือต่อศาลฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 212 ขอให้อำนาจตามกฎหมาย เพื่อยับยั้งหรือยุติโครงการรับจำนำของรัฐบาล