ธ.ก.ส. เผย รบ.คืนเงินระบายข้าว 4.1 หมื่นล. คาดสิ้นปี 55 จ่ายครบตามเป้า
ธ.ก.ส. รับคืนเงินจำนำข้าวจากรบ. เกือบแสนล้านบาท ยันดำเนินโครงการรับจำนำ ไม่กระทบสภาพคล่องธนาคาร
วันที่ 8 ตุลาคม ที่กระทรวงการคลัง นายบุญไทย แก้วขันตี รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงวงเงินที่ได้รับชำระคืนจากการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่า ขณะนี้ ธ.ก.ส.ได้รับเงินคืนจากการระบายข้าวสารจากโครงการรับจำนำแล้วจำนวน 41,950 ล้านบาท จากที่มีการตกลงกันไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีการชำระเงินคืนจำนวน 85,000 ล้านบาท และได้รับเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 ที่จัดสรรมาให้อีก 49,877 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้ ธ.ก.ส. มีเงินที่จะนำมาใช้หมุนเวียนในการดำเนินงานตามนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล เป็นวงเงินจำนวน 91,827 ล้านบาท
“ขอยืนยันว่า การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว ไม่มีผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือการดำเนินงานตามปกติของ ธ.ก.ส. เนื่องจาก ธ.ก.ส. ได้มีการแยกบัญชีโครงการหรือธุรกรรมตามนโยบายของรัฐบาล (Public Service Account : PSA) เป็นบัญชีเฉพาะ แยกจากบัญชีการดำเนินงานตามปกติของธนาคาร ทำให้สามารถทราบผลการดำเนินงานในแต่ละบัญชีชัดเจน ขณะเดียวกันการดำเนินงานตามโครงการรัฐบาลทุกโครงการ จะมีมติคณะรัฐมนตรีรองรับเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและภาระการขาดทุนจากโครงการของรัฐทั้งหมด”
ทั้งนี้ รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. ยังกล่าวถึงผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ณ ปัจจุบันว่า แบ่งเป็นโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 จำนวน 6.95 ล้านตัน มีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 1,142,587 ราย จำนวนเงิน 118,576 ล้านบาท ขณะที่โครงการรับจำนาข้าวเปลือกนาปรัง ปีการผลิต 2555 มีจำนวน 12.82 ล้านตัน เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 1,021,018 ราย จำนวนเงิน 190,013 ล้านบาท รวมวงเงินรับจำนำขณะนี้อยู่ที่ 308,589 ล้านบาท และในวันพรุ่งนี้ (9 ต.ค.) กระทรวงพาณิชย์จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อขอขยายกรอบปริมาณและวงเงินสำหรับโครงการรับจำนาข้าวเปลือกนาปรัง ปีการผลิต 2555 รอบพิเศษเพิ่มเติมอีก ซึ่งคาดว่าน่าจะมีปริมาณไม่ต่ำกว่า 14 ล้านตัน วงเงินเพิ่มอีกประมาณ 21,000 ล้านบาท
“ส่วนการรับจำนำในปี 2556 รัฐบาลได้มีแนวนโยบาย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2555 ออกมาแล้วว่า จะมีการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2555/56 โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 15 ล้านตัน วงเงินรับจำนำอยู่ที่ 240,000 ล้านบาท โดยการรับจำนำจะใช้หลักเกณฑ์ตามแนวทางการดำเนินโครงการในปีที่ผ่านมา”
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการระบุว่า ชาวนาบางส่วนยังไม่ได้รับเงินจากโครงการนี้ นายบุญไทย กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้มีข้าวนับล้านตันที่รับจำนำแล้ว แต่เกษตรกรยังไม่ได้เงิน เนื่องจากการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปีการผลิต 2555 พบว่า ชาวนามีการเร่งปลูกข้าวติดกันสองรอบ ทำให้ต้องมีการขยายกรอบปริมาณและวงเงินรับจำนำเพิ่มถึงสองครั้ง และในระหว่างที่รอ ค.ร.ม.อนุมติ การจ่ายเงินต่างๆ ก็ต้องชะลอตามไปด้วย
เมื่อถามอีกว่า ทำไมปริมาณข้าวถึงมีจำนวนเพิ่มขึ้น จนกระทั่งมีการขายกรอบปริมาณรับจำนำหลายรอบ นายบุญไทยกล่าวว่า ปัจจุบันพบว่า เกษตรกรสามารถผลิตข้าวได้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น จากเดิมอยู่ประมาณ 70-80 ถังต่อไร่ เพิ่มขึ้นเป็น100 กว่าถังต่อไร่ ทั้งนี้จากการสอบถามพบว่าปริมาณข้าวที่เพิ่มขึ้นนั้น มาจากผลผลิตข้าวที่มีคุณภาพ เมล็ดพันธุข้าวดีขึ้น ทำให้น้ำหนักข้าวเพิ่มขึ้น