“ยิ่งลักษณ์-บุญทรง” โต้ “โกร่ง” รบ.ไม่เจ๊งเพราะจำนำข้าว “อภิสิทธิ์”เตือนดันทุรัง ปท.พัง
“ยิ่งลักษณ์-บุญทรง” แถลงโต้ “โกร่งฉะรัฐบาลจะพังเพราะจำนำข้าว” ยืนยันเดินหน้าต่อ “อภิสิทธิ์”เตือนดันทุรัง ปท.เจ๊ง สัญญาณข้าวล้นโกดัง-ไม่มีเงินจ่ายชาวนา นักวิชาการแนะจำกัดปริมาณจำนำ-เน้นเกษตรกรรายย่อย
วันที่ 3 ต.ค.55 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันชี้แจงกรณีนายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจนายกรัฐมนตรีและกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ออกมาเตือนให้ยุติโครงการการรับจำนำข้าวก่อนที่รัฐบาลจะพัง
โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวต้องการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้สูงขึ้น และจะสะท้อนกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ ที่ผ่านมาราคาไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงทั้งๆที่ข้าวไทยมีคุณภาพ ส่วนประเด็นราคารับจำนำสูงกว่าราคาตลาดจะทำให้เกิดปัญหาการระบายข้าว ขอชี้แจงว่าหากคำนึงถึงการระบายข้าวในประเทศก็อาจจะได้ราคาไม่สูงมากนัก จึงใช้วิธีระบายออกต่างประเทศขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล(จีทูจี)ในราคาที่เหมาะสมดูจากราคาตลาด ทั้งนี้การระบายออกไปที่ไหนจะดูฐานราคาที่ดีที่สุดเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายรัฐบาล และคำนึงถึงการบริโภคในประเทศ เพื่อไม่ให้ข้าวเหลือจนราคาตก
“รัฐบาลพยายามสร้างความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานรวมถึงราคา มอบหมายให้นายบุญทรงนัดประชุมผู้ส่งออกหารือแนวทางช่วยเหลือแก้ไข ทุกอย่างที่เริ่มต้นก็ย่อมมีปัญหาอุปสรรคบ้าง พยายามเก็บข้อมูลต่างๆเพื่อนำไปแก้ไขตรวจสอบ ต้องขอเวลาที่จะค่อยๆทำงานไป” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ส่วนที่นายวีรพงษ์ระบุว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ไม่ใช่เกษตรกรแต่เป็นนักการเมืองและเจ้าของโรงสี น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่าต้องถามเกษตรกรว่าวันนี้การรับจำนำข้าวครอบคลุมเกษตรกรเท่าไหร่ ส่วนโรงสีเป็นเพียงกลไกทำงานที่จะได้ค่าใช้จ่ายเท่านั้น ส่วนที่นายวีระพงษ์ระบุว่าหากเดินหน้าต่ออาจทำให้รัฐบาลพังเพราะการตรวจสอบทุจริตลำบาก น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่าโครงการนี้ไม่ใช่นโยบายใหม่เคยได้รับการตอบรับจากประชาชน อยากให้สื่อมวลชนลงไปถามเกษตรกรในพื้นที่ว่ามีความต้องการและได้ประโยชน์อย่างไร
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อมีการระบายข้าวเสร็จ รมว.พาณิชย์ จะเป็นผู้แถลง อย่างไรก็ตามรายได้กลับมาจากการส่งออกนั้นบางส่วนจะมาจากการขายแบบจีทูจีซึ่งทยอยส่งมอบ จะโชว์ตัวเลขต่อเมื่อมีการส่งมอบจริง ซึ่งที่ รมว.พาณิชย์ระบุถึงจำนวนที่จำหน่ายได้ก็เป็นตัวเลขที่มีการทำสัญญาแล้ว แต่เป็นการทยอยส่งมอบไม่ได้ส่งครั้งเดียวทั้ง 7 ล้านตัน ซึ่งจะดูได้จากตัวเลขที่กระทรวงจ่ายเงินคืนเข้าคลังเป็นรอบๆ
ส่วนที่นายวีระพงษ์ ระบุว่านโยบายจำนำจะทำลายโครงสร้างข้าวภายในประเทศ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะข้าวทั้งหมด 30 กว่าล้านตัน รัฐบาลรับจำนำ 20 ล้านตัน ที่เหลือก็อยู่ในมือพ่อค้า เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะขาดทุนกำไรหรือไม่ นายกฯโยนให้นายบุญทรงตอบว่าต้องกลับไปดูโครงสร้างราคาที่ผ่านมาว่าสะท้อนคุณภาพข้าวที่แท้จริงหรือไม่ ข้าวไทยมีคุณภาพดีแต่ราคาขายไม่ได้สูงขึ้น รัฐบาลจึงพยายามทำให้ข้าวไทยนั้นกลับเข้าไปสู่ราคาที่เหมาะสมสะท้อนความเป็นจริง
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ออกมายอมรับว่ามีการทุจริตสวมรอยข้าวไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าต้องดำเนินการตามกฎหมาย การทุจริตนั้นส่วนใหญ่เกิดขึ้นเฉพาะจุดซึ่งต้องไปดูรายละเอียด นายบุญทรงกล่าวต่อว่ารัฐบาลมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นหัวหน้าทีมตรวจสอบทุจริตอย่างละเอียดอยู่แล้ว ส่วนข้อสังเกตที่ว่าไทยไม่สามารถขายข้าวได้เลยหลังโครงการจำนำข้าวนั้นยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์ขายไปได้มากแล้ว 7 ล้านกว่าตัน และที่ฝ่ายค้านระบุว่าตัวเลขการส่งออกกับข้อมูลที่มีการนำเสนอไม่ตรงกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขายข้าวในประเทศไม่ได้มีการส่งออก นายบุญทรงกล่าวว่าการส่งออกวันนี้เป็นตัวเลขการขายแบบจีทูจี ซึ่งขณะนี้มีหลายประเทศที่ทำสัญญาแล้ว
ส่วนการดำเนินโครงการจำนำข้าวทำให้เกิดการขาดทุนกำไรหรือไม่ นายบุญทรง กล่าวว่า การระบายข้าวในโครงการดังกล่าวจะจบในปีหน้า ดังนั้นตัวเลขที่รัฐบาลต้องรับภาระก็ไม่มากไปกว่าโครงการในปีที่ผ่านมา เมื่อถามว่ามีความเป็นห่วงว่าจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจตามมา นายบุญทรงกล่าวปฏิเสธว่าเป็นไปไม่ได้เพราะรอบที่แล้วรัฐบาลใช้เงินไป 8 หมื่นล้านจากโครงการประกันรายได้ ปีนี้ไม่เกินกว่านี้แน่นอน
วันเดียวกัน นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย(หอการค้าโพลล์) เปิดเผยว่าระยะยาวรัฐบาลจะมีปัญหาจากการแบกสต๊อกข้าวมากเกินไปไม่สามารถระบายออกได้หมด เพราะการประกาศรับจำนำแบบไม่จำกัดปริมาณหรือทุกเมล็ดและตั้งราคารับจำนำสูง เพื่อเป็นแรงจูงใจเกษตรกรนำข้าวเข้าโครงการเกือบหมด อีกทั้งยังทำให้เกิดการสูญเสียงบประมาณบริหารจัดการข้าวปริมาณมากๆ
ทั้งนี้ยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่างบประมาณที่ใช้สูงถึง 405,000 ล้านบาทจะคุ้มค่าหรือไม่ จะก่อหนี้สาธารณะสูงขึ้นหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลน่าจะเจียดงบประมาณส่วนนี้ 100 ล้านบาทไปทำวิจัยว่าโครงการดังกล่าวคุ้มค่าหรือไม่ คือทำให้เกษตรกรขายข้าวได้สูงขึ้นจริง นำเงินนั้นไปซื้อสินค้าได้เท่าไร ก่อการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกี่รอบ และทำให้เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวได้เท่าไร รวมถึงเกษตรกรปลดหนี้ได้จริงหรือ นอกจากนี้ผลผลิตข้าวไทยปีละกว่า 30 ล้านตัน เป็นของเกษตรกรไทยทั้งหมดหรือมาจากประเทศเพื่อนบ้าน
ผอ.หอการค้าโพลล์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลน่าจะปรับปรุงหลักเกณฑ์รับจำนำข้าวใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระกับงบประมาณมากเกินไป โดยจำกัดปริมาณรับจำนำของเกษตรกรแต่ละรายให้น้อยลง เช่น ไม่เกิน 15-20 ตัน โดยเน้นช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่ยากจนมากกว่าจะช่วยเหลือเกษตรกรรายใหญ่ รวมถึงน่าจะจำนำแบบจำกัดปริมาณ เช่น อาจจะ 30% ของปริมาณผลผลิตข้าวทั้งประเทศเหมือนที่ผ่านมา .
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน ออกมาเห็นด้วยกับนายวีรพงษ์ โดยกล่าวว่าอยากให้รัฐบาลยอมรับความจริงทบทวนนโยบาย โดยช่วยเหลือเกษตรกรด้วยวิธีอื่นที่ไม่สูญเปล่างบประมาณมหาศาลกว่าแสนล้านบาท โดยเม็ดเงินเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่ตกถึงชาวนา ซึ่งหลายฝ่ายก็เห็นตรงกันและเตือนถึงผลเสียต่อประเทศ รวมทั้งต่อชาวนาเองเพราะจะไม่มีใครซื้อข้าวในอนาคต แต่ไม่แปลกใจที่ ครม.มีมติให้ทำโครงการนี้ต่อเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเพิ่งให้สัมภาษณ์ว่าจะต้องทำโครงการต่อไปอีกกี่ปี ส่วนที่ ครม.อนุมัติงบโครงการจำนำข้าวนาปีไม่ครอบคลุมถึงข้าวนาปรัง ก็สะท้อนปัญหาสภาพคล่องด้านงบประมาณ ซึ่งจะสะสมไปเรื่อยๆ เพราะขณะนี้เกิดปัญหาเรื่องเงินกับที่เก็บข้าวแล้ว คือชาวนาหลายพื้นที่ไม่สามารถเข้าโครงการได้หรือเอาข้าวไปจำนำแล้วแต่ยังไม่ได้เงิน
น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รมช.พาณิชย์เงาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นชาวนาเดินทางไปประท้วงที่หน้าสหาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) ที่มีนักวิชาการออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการจำนำข้าวและยื่นฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ว่าไม่ใช่พฤติกรรมชาวนาจริงๆ แต่เป็นเครือข่ายจัดตั้งทางการเมือง เพราะคนนำไปคือนายโกตี๋ ที่เคยนำม็อบมาคุกคามนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ เป็นมวลชนเสื้อแดงของรัฐบาลที่ต้องการดิสเครดิตนักวิชาการนิด้า ทั้งนี้ความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวทุกเม็ดยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาสายพันธุ์ข้าว จึงขอส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาลว่าผลกระทบของโครงการนี้นอกจากสูญเสียแชมป์การส่งออกให้เวียดนามยังเสียแชมป์ข้าวหอมะลิที่ดีที่สุดในโลกให้กับกัมพูชาด้วย
ที่มาภาพ :::
http://bit.ly/SxHWu0
http://bit.ly/b3D2Du
http://bit.ly/SCk8kq