แจ้งให้ทราบ
Current Item Layout Template is 'default-thaireform' does not exist
- Please correct this in the URL or in Content Type configuration.
- Using Template Layout: 'default'
'เอ็นนู' ยันติดเบรกจำนำข้าวกระทันหันไม่ได้ เหตุชาวนาเสพติดราคาสูงแล้ว
'เอ็นนู' ยันติดเบรกจำนำข้าวกระทันไม่ได้ ชาวนาเสพติดราคาสูงแล้ว แนะ รบ.ชวนสมาคมชาวนาฯ หาทางออกใหม่ ให้เกษตรกรพึ่งตัวเองได้
ภายหลังที่กลุ่มนักวิชาการ คณาจารย์ บุคลากรและนักศึกษา รวม 127 คน ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้ายื่นร้องเรียนต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาใช้อำนาจตามกฎหมาย เพื่อขอให้ยับยั้งหรือยุติโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ด้วยเพราะการดำเนินการดังกล่าวเป็นการดำเนินงานที่ขัดกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ในมาตรา 84 วงเล็บหนึ่ง ซึ่งทางศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งให้กลับไปแก้คำร้องคัดค้านโครงการรับจำนำข้าวและยื่นเข้ามาเพิ่มเติม เนื่องจากในคำร้องเดิมไม่ได้มีการระบุว่ายื่นตามรัฐธรรมนูญ มาตราใด หรือช่องทางใด
จากนั้น ทางอุปนายกสมาคมชาวนาไทยได้เตรียมทำหนังสือเปิดผนึกถึงนักวิชาการนิด้า คณะเศรษฐศาสตร์ มธ. และรัฐบาล เพื่อขอให้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกต่อ เนื่องจากเห็นว่าสร้างประโยชน์ต่อชาวนา กรณีนี้ นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ อดีตรองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือ ธ.ก.ส. กล่าวกับศูนย์ข่าวสารนโยบายสาธารณะ สำนักข่าวอิศรา ว่า เป็นข้อเท็จจริงที่ปัจจุบันนี้เกษตรกรยังมีความต้องการโครงการรับจำนำข้าวอยู่ ขณะนี้ยังขาดไม่ได้ เนื่องจากได้ราคาดี โดยที่หากมีการยกเลิกกะทันหันจะเกิดปัญหาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม จากนี้รัฐบาลควรฟังเสียงทั้งเกษตรกร นักวิชาการและสมาคมที่เกี่ยวข้อง แล้วปรับโครงการให้ดีขึ้น โดยที่เชิญชาวนาและสมาคมชาวนาเข้ามาหารือ เพื่อทำความเข้าใจและหาแนวทางที่เป็นทางออกที่ดีร่วมกัน
นายเอ็นนู กล่าวต่อว่า แนวทางที่ควรจะเป็นหลังจากนี้ รัฐบาลควรกำหนดราคาใหม่ให้เหมาะสม ปรับปรุงการระบายใหม่ ให้มีวิธีที่ไม่เป็นภาระต่อภาคส่วนใด ในส่วนวิธีการรับจำนำจะต้องไม่มีให้เกิดการรั่วไหล หรือมีช่องโหว่ให้พ่อค้าหรือผู้ที่เกี่ยวข้องหาประโยชน์จากชาวนาได้
"หากอยู่ดีๆ จะยกเลิกไปเลยชาวนาจะมีปัญหาอย่างแน่นอน เหมือนรถจอดต้องค่อยๆ ชะลอ แล้วมาเริ่มกันใหม่ว่าจริงๆ แล้วชาวนาต้องการอะไร นโยบายจากนี้ควรให้ชาวนาพึ่งพาตัวเองได้ ไม่ใช่หวังพึ่งรัฐบาลอย่างเดียว หากปรับแก้ไปในทิศทางนั้นย่อมดีกว่าดำเนินนโยบายจำนำข้าวอย่างแน่นอน"
เมื่อถามถึงกรณีนายกสมาคมชาวนาได้ออกมาระบุว่า มีชาวนาเกินกว่าร้อยรายที่ได้รับใบประทวนแล้ว แต่ไม่สามารถเบิกเงินจาก ธกส.ได้ และต้องรอรัฐบาลโอนเข้ามาให้นั้น นายเอ็นนู กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า ธกส.คงไม่ถึงขั้นที่ขาดสภาพคล่องในการเบิกจ่าย ขณะนี้ยังมีเงินอยู่ และภาระหนี้สิน เนื่องจากเป็นภาระของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง แต่เหตุที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ น่าจะเป็นเรื่องเงื่อนไข หรือใบประทวนที่ไม่ถูกต้อง
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงโครงการรับจำนำข้าวเปลือกว่า นโยบายดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อชาวนา แต่ก็พบข้อเสียว่า ต้องใช้จำนวนเงินมหาศาล ซึ่งจะก่อให้เกิดการทุจริตในทุกขั้นตอน รวมถึงส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อยที่จะได้รับเงินล่าช้า สิ่งเหล่านี้จะทำให้รัฐบาลได้รับผลกระทบต่อปัญหาการเงินในอนาคตอย่างแน่นอน ตนจึงอยากให้รัฐบาลมุ่งให้ความช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรรายย่อยโดยจัดโควต้าพิเศษให้ 5 ตันต่อรายในราคารับจำนำมากกว่า 15,000 บาทต่อตัน จัดให้การจ่ายเงินในโควต้าดังกล่าวโดยวิธีที่รวดเร็วที่สุด ส่วนที่เกินจาก 5 ตันก็จำนำในราคาตลาดขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินเป็นไปตามปกติ
นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า วุฒิสภามีหน้าที่ตรวจสอบเพื่อให้เกิดการถ่วงดุล ดังนั้นหากรัฐบาลทำสิ่งใดให้เกิดความเสียหายตนจะหารือกับกลุ่ม 40 ส.ว.เพื่อตักเตือนไปยังรัฐบาล แต่หากยังไม่รับฟัง ก็จะต้องมีการดำเนินการต่อไป