สหพันธ์วชช. เสนอแบ่ง 20% กำไรประมูลคลื่นตั้งกองทุนอุ้มวิทยุชุมชน
เลขาสหพันธ์วชช. เสนอรูปแบบกองทุนอุดหนุนวิทยุชุมชนอยู่รอดจาก 20% กำไรประมูลคลื่น ตอก กสทช.ยิ่งทำงานยิ่งเป็นราชการ กรรมการยังถูกปิดปาก จะพัฒนาสื่อได้อย่างไร
เกือบ 1 ปี กับการบริหารจัดการวิทยุชุมชนภายใต้การขับเคลื่อนของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บอร์ดกสท.) มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังเกิดปัญหาด้านการอุดหนุนเงินทุนบริหารจัดการสถานีวิทยุชุมชนทั่วประเทศที่บอร์ดกสท. ยังไม่ขานรับจริงจัง
ศูนย์ข่าวเพื่อชุมชน สำนักข่าวอิศรา จึงสัมภาษณ์นายวิชาญ อุ่นอก เลขาธิการสหพันธ์วิทยุชุมชนแห่งชาติ (สวชช.) โดยกล่าวว่า ปัจจุบันสถานีวิทยุชุมชนเกิดปัญหาขาดเงินทุนบริหารจัดการองค์กร เพราะตามระเบียบได้กำหนดห้ามโฆษณาสินค้า แต่สามารถรับบริจาคได้ อย่างไรก็ตามยังไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน โดยเฉพาะค่าไฟ จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากบอร์ดกสท. ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ช่วยเหลือ
ซึ่งขณะนี้กสทช. ได้เร่งจัดทำระเบียบกองทุนกสทช. ในการสนับสนุนวิทยุชุมชนอยู่แล้ว โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ แต่หากต้องการสนับสนุนสื่อชุมชนจริงน่าจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการที่มาจากทุกภาคส่วนด้วย เพื่อการดูแลอย่างทั่วถึง และจะทำให้เกิดความอิสระในการเข้าถึงกองทุนเงินดังกล่าว ส่วนปัญหางบประมาณที่ส่วนใหญ่จะได้รับการจัดสรรมาจากการอุดหนุนเงินทุนของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (บอร์ดกทค.) โดยอ้างว่าบอร์ดกสท. ไม่มีเงินทุนอุดหนุนให้ เพราะยังไม่เปิดประมูลคลื่นนั้น เราไม่สนใจว่าจะนำเงินจากแหล่งใด แต่เสนอว่าเมื่อมีเงินในกองทุนจะต้องจัดสรรให้กลุ่มวิทยุชุมชนอย่างน้อย 20% ของจำนวนเงินทั้งหมดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่
“มีเงิน 100 บาท ต้องจัดตั้งเป็นกองทุนวิทยุชุมชน 20 บาท ตามจำนวนคลื่นที่กสทช. จัดสรรมา ไม่ใช่จัดสรรเงินมาน้อย แล้วใช้ส่วนต่างที่เหลือไปบริหารจัดการเรื่องอื่นแทน เพราะหากมองว่าวิทยุชุมชนเป็นสื่อขนาดเล็กแล้วยังนำเงินจำนวนน้อยมาให้อีก เมื่อไหร่จะเติบโต”
ทั้งนี้ เลขาธิการสวชช. ยังกล่าวตำหนิการทำงานของกสทช. ด้วยว่าจำเป็นต้องปฏิรูปการทำงานในองค์กรให้ฟังเสียงประชาชนมากขึ้น ไม่ยึดติดกับระบบราชการ เช่น การเปิดเวทีประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมายต่าง ๆ กลับไม่ให้ความสำคัญกับการนำข้อเสนอภาคประชาชนบรรจุในกฎหมาย เสมือนว่าการดำเนินการดังกล่าวเพียงเพื่อให้ครบองค์ประกอบทางกฎหมายเท่านั้น ส่วนกรณีหนึ่งในกรรมการกสทช. ถูกสั่งห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่จำเป็น อยากให้หันกลับไปมองว่าบทบาทหน้าที่ของกสทช. แท้จริงคือ การสนับสนุนทุกภาคส่วนให้มีเสรีภาพในการสื่อสาร หากแต่กลับปิดกั้นเสรีภาพในองค์กรตนเอง แล้วจะพัฒนาวงการสื่อสารมวลชนเมืองไทยให้เติบโตได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม วันที่ 27 ก.ย. 55 สวชช. จะจัดสัมมนา ‘ทิศทางกองทุนกสทช. กับการสนับสนุนวิทยุชุมชน’ ที่โรงแรมรามา การ์เด้นท์ เวลา 9.00-15.00 น. เพื่อยื่นข้อเสนอต่อกสทช. ต่อไป.