กมธ.พัฒนาสังคมฯ เผยค่าใช้จ่ายแฝงแจกแท็บเล็ต ดันงบฯ พุ่งมหาศาล

ปธ.กมธ.การพัฒนาสังคมฯ เผยโครงการแท็บเล็ตส่อล้มเหลว มากกว่า 50% จี้รัฐปรับปรุงนโยบาย สร้างความพร้อม รับฟังเสียงท้วงติง ปูดค่าใช้จ่ายแฝง โครงการแท็ลเล็ต ดันงบพุ่ง

วันที่ 25 กันยายนที่อาคารรัฐสภา 2 นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา กล่าวภายหลังการเสวนาหัวข้อ “มองไปข้างหน้าร่วมแก้ปัญหาแจกแท็บเล็ตเด็ก ป.1 ภาค 2” ว่า ในฐานะที่ตนเป็นทั้งประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมฯ และประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 มีข้อสังเกตต่อโครงการนี้ว่า ในส่วนของการจัดซื้อแท็บเล็ตจำนวนประมาณ 850,000 เครื่อง ในราคาเครื่องละประมาณ 2,400 บาทนั้นจะใช้เม็ดเงิน 2,000 กว่าล้านบาท แต่หากพิจารณาถึงการใช้งบโครงการแฝงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ การจัดอบรมครูต่างๆ จะพบว่าเบ็ดเสร็จแล้วโครงการนี้ใช้งบประมาณมหาศาล

นายอโณทัย กล่าวต่อว่า หากพิจารณาวัตถุประสงค์ของโครงการ จะพบว่ารัฐบาลต้องการให้เด็ก ป.1-ป.3 ได้เรียนรู้จากแท็บเล็ตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั่นหมายความว่าการสั่งซื้อแท็บเล็ตจะต้องมีขึ้นทุกปี แต่ขณะนี้จากที่ได้เปิดรรับฟังความคิดเห็นในหลายภาคส่วน ยังพบปัญหาและขาดความพร้อมอีกมาก โดยเฉพาะในด้านบุคลากร เนื่องจากการอบรมในช่วงระยะเวลาสั้น ภายใน 1 วันนั้น ไม่สามารถทำให้เกิดความรู้ที่เพียงพอได้ ขณะเดียวกันยังปัญหา ในหลายโรงเรียนขณะนี้ไม่กล้าที่จะให้เด็กนำแท็บแล็ตกลับไปใช้ที่บ้าน

“จริงอยู่ว่า แท็บเล็ตมีข้อดีต่อการศึกษา ใช้เป็นเครื่องมือเสริมในการเรียนการสอนปกติ  แต่หากรัฐไม่ยอมปรับปรุงแก้ไข  หรือมีการเตรียมความพร้อมให้มากขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นที่นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กทวงติง ปล่อยเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมพูดได้เลยว่า โอกาสล้มเหลว (fail) มีมากกว่า 50% และน่าเป็นห่วงว่าจะเป็นการสูญเสียงบประมาณโดยใช่เหตุ” นายอโณทัย กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ปกครอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย จะมีการสรุปเป็นข้อเสนอแนะ เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชนและรัฐบาลให้รับทราบถึงข้อห่วงใยดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับในส่วนการจัดซื้อแท็บเล็ตนั้น ได้รับการเปิดเผยจาก นางอาทิตยา สุธาธรรม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพิ่มเติมว่า ได้มีการลงนามจัดซื้อแท็บเล็ตตามนโยบายนี้ไปแล้วด้วยกัน 3 ครั้ง

- ครั้งแรกมีจำนวน  400,000 เครื่อง ซึ่งขณะนี้ได้แจกจ่ายไปยังที่ต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย

- ส่วนครั้งที่สอง มีจำนวน  403,941 เครื่อง

-และครั้งที่สาม จัดซื้ออีกจำนวน 54,945 เครื่อง

รวมแล้วในปีงบประมาณ 2555 จัดซื้อแท็บเล็ตทั้งสิ้น  858,886 เครื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับในช่วงของการเสวนามีตัวแทนผู้ปกครอง นักเรียนชั้นป. 1 ที่ได้รับแจกแท็บเล็ต ตลอดครูอาจารย์ร่วมรับฟังจำนวนหนึ่ง ซึ่งจากการสอบถามจากครู โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง สะท้อนความคิดเห็นว่า นโยบายการแจกแท็บเล็ตของรัฐบาลเป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วยตอบสนองการเรียนรู้ของเด็กได้ดีในวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ เพราะมีภาพเคลื่อนไหว เสียงที่ได้รับความสนใจจากเด็ก ส่วนในวิชาที่มีเนื้อหาวิชาการ มีตัวหนังสือมากๆ เด็กจะไม่เปิดเข้าไปอ่านเลย อีกทั้งในบางหลักสูตรที่บรรจุลงในแท็บเล็ตนั้น บางโรงเรียนต้องยอมรับว่า ใช้ตำราเล่มที่ต่างกัน ทำให้ไม่ได้ใช้งาน ไม่ก่อให้ประโยชน์แต่อย่างใด

นอกจากนี้ยังคำถามอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ขณะนี้บางโรงเรียนพบว่า มีการสูญหายของแท็บเล็ตเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งทางผู้ปกครองยินดีที่จะชดใช้ ซื้อแท็บเล็ตมาคืน จึงอยากทราบว่าจะหาซื้อได้ที่ไหนอย่างไร อยากให้กระทรวงไอซีทีเผยแพร่ข้อมูลเผยแพร่เหล่านี้ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ด้วย เป็นต้น