ทุนเกษตรยักษ์ใหญ่ ‘มอนซานโต้’ โปรยยาหอมดึงไทยเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์โลก
ทุนเกษตรข้ามชาติมอนซานโต้ ชี้วิกฤตอาหารโลกจะรุนแรงขึ้น มองไทยไปโลดในเวทีเออีซี ดันพัฒนาเกษตรต้นน้ำ-เพิ่มมูลค่าและผลผลิตต่อไร่ ร่วมผลิตเมล็ดพันธุ์ส่งออก
นายเครก ดันน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทมอนซานโต้ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรในปัจจุบันว่ามีความสำคัญอย่างมาก ถือเป็นปัจจัยหลักกำหนดอนาคตในการผลิตอาหารซึ่งต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้นให้เพียงพอต่อประชากรโลก โดยจากการประชุมองค์กรเกษตรโลกระดับภูมิภาคเอเชียชี้ว่าโลกกำลังอยู่ในความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุ่นแรง เนื่องจากปัจจุบันมีประชากรราว 6,000 ล้านคน จำนวนนี้ขาดแคลนอาหารเกือบ 1,000 ล้านคน และในปี 2050 หรืออีกเพียง 38 ปีคาดว่าประชากรโลกจะเพิ่มเป็น 9,000 ล้านคน
นายเครก กล่าวว่าขณะที่โลกกำลังประสบปัญหาภูมิอากาศแปรปรวน ภัยแล้ง ทำให้ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ แต่วิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นโอกาสของประเทศไทย ซึ่งมีข้อได้เปรียบกว่าหลายประเทศ เพราะมีภูมิประเทศเหมาะสมต่อการเกษตรที่ถือว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ประกอบกับเกษตรกรไทยมีทักษะความสามารถสูง ซื่อสัตย์และมีคุณภาพ ทำให้ผลผลิตจากไทยมีคุณภาพดีเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก
แต่จากปัญหาพื้นที่การเพาะปลูกในประเทศไทยมีอยู่จำกัด จากการขยายตัวของพื้นที่เศรษฐกิจและที่อยู่อาศัยอย่างรวดเร็ว ประกอบกับค่าแรงที่สูงขึ้นทำให้ทิศทางในการพัฒนาเกษตรไทยจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มผลผลิตต่อไร่และสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้น โดยการพัฒนาเป็นเกษตรต้นน้ำ
ซึ่งมอนซานโต้ มีนโยบายช่วยผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางผลิตเมล็ดพันธุ์พืชส่งขายทั่วโลก โดยเป็นเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงผลผลิตดีมีความต้านโรคและแมลง เพื่อลดการใช้สารเคมีและต้นทุนการผลิต มอนซานโต้มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีชีวภาพและการใช้เมล็ดพันธุ์ไฮบริด ปัจจุบันมี 29 ประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรชั้นนำทั่วโลกที่เกษตรกรเลือกปลูกพันธุ์พืชที่ปรับปรุงพันธุ์ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ป้อนสู่ตลาดโลก และอีก 54 ประเทศเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเหล่านั้นรวมทั้งประเทศไทยด้วย
สำหรับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน(AEC) ถือเป็นโอกาสก้าวสำคัญให้ประเทศในกลุ่มอาเซียนเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก มีความแข็งแกร่งและความสามารถในการแข่งขันด้านผลิตภัณฑ์การเกษตรในระดับสูง ซึ่งหากไทยสามารถเป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชตามความต้องการของโลกแล้ว จะทำให้ผลผลิตและรายได้ภาคการเกษตรไทยมีมูลค่าสูงขึ้น ปลอดภัยจากการใช้สารเคมีลดลง ลดการปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม ดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้าทำการเกษตรมากขึ้น
ที่มาภาพ ::: http://www.siamproplants.com/forums/1834.html