นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังเก็บข้าว ที่พิษณุโลก รับปากจะดูแล ข้าว –พืชผลทางการเกษตรชนิดอื่น ด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม เล็งประกาศปรับรอบรับจำนำข้าวให้ตรงกับฤดูบริหารจัดการน้ำ
วันที่ 14 กันยายน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะลงพื้นที่โรงสี ส. ธนวัฒน์พืชผล อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2555/56 โดยได้ดูขั้นตอนการรับจำนำข้าวตั้งแต่การยืนยันความเป็นเกษตรกรเข้าสู่ขั้นตอนชั่งน้ำหนักข้าว และการตรวจวัดคุณภาพและความชื้นเพื่อหาค่าเฉลี่ย และสุดท้ายคือการรับใบประทวนสินค้ายื่นรับเงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบใบประทวนให้เกษตรที่มารับจำนำข้าว พร้อมย้ำถึงโครงการรับจำนำข้าวว่า รัฐบาลมุ่งสร้างรายได้ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมกับดูแลพืชผลทางการเกษตรชนิดอื่นด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรมนอกจากนี้จะปรับรอบการรับจำนำข้าวให้ตรงกับฤดูหรือการบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าโครงการรับจำนำได้ 2 ครั้ง ไม่เกิดความกังวลใจ และในช่วงเวลา 4 เดือนที่ไม่ได้เก็บเกี่ยวแล้ว รัฐบาลจะได้เข้าไปบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มที่
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่จังหวัดพิษณุโลก ระหว่างตรวจการจัดเก็บข้าวเปลือกในโครงการรับจำนำข้าว ที่คลังสินค้ากลาง อตก. ,คลัง หจก.เกษตรไพศาลธัญญกิจ สาขาบ้านชาน ในพื้นที่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ว่าจะมีการพัฒนาการจัดเก็บข้าวให้มีประสิทธิภาพ ไม่ให้มีความชื้น ซึ่งรับประกันว่า ข้าวจะไม่เสียหายและสามารถเก็บได้นานเป็นปี และมีระบบตรวจสอบที่โปร่งใสก็สามารถเป็นแหล่งอาหารของโลก นอกจากนี้ยังยืนยันว่า สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ดีอยู่แล้ว แต่ยอมรับอาจมีคนใช้ขั้นตอนในการปฏิบัติหาช่องทางทุจริตซึ่งจะทยอยปราบปรามการทุจริตดังกล่าว โดยให้ทางเจ้าหน้าที่ ต้องพยายามหาหลักฐาน เพื่อจะเอาผิดให้ได้
ส่วนคำถามเรื่องอันดับการส่งออกข้าวไทย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มี 2 ส่วนที่ต้องพิจารณา หากใช้การขายแบบรัฐต่อรัฐหรือ G2G จะสามารถกำหนดเวลาการส่งออกได้ แต่หากต้องการราคาที่ดี ต้องเลือกขายข้าวในช่วงเวลาที่เหมาะสม จึงต้องดูที่สาเหตุว่าเลือกขายข้าวประเภทใด