สั่งยธ.ช่วย93สมาชิกป่วนใต้ - คลี่คดีบึ้มป่วนนราฯ ที่แท้"วางเอง-เหยียบเอง"
ผบ.ทบ.เผย นายกฯมอบกระทรวงยุติธรรมหาช่องทางช่วย 93 แนวร่วมป่วนใต้ที่ยอมแสดงตัวยุติก่อเหตุรุนแรง วอนเครือข่ายที่ยังหลงผิดเข้ามอบตัวเพิ่ม "ยุทธศักดิ์" ลั่นพร้อมให้ความเป็นธรรม เล็งใช้กระบวนการตามมาตรา 21 พ.ร.บ.ความมั่นคง เร่งถกแม่ทัพภาค 4 ให้ได้ข้อสรุปก่อน 18 ก.ย. ขณะที่ "อภิสิทธิ์" นัดหารือ ส.ส.ประชาธิปัตย์ก่อนร่วมวงคุยรัฐบาล ลุยเสนอยุบ ศปก.จชต. รวบแล้วมือวางกับระเบิดนราธิวาส ที่แท้วางเอง-เหยียบเอง
ความคืบหน้ากรณีที่กลุ่มผู้คิดเห็นต่างจากรัฐ ซึ่งเป็นสมาชิกขบวนการแบ่งแยกดินแดนจำนวน 93 คนจาก จ.นราธิวาส เข้าแสดงตัวและพบปะกับ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2555 เพื่อประกาศจุดยืนยุติการต่อสู้ด้วยความรุนแรง และหาแนวทางกลับมาอยู่ในสังคมอย่างปกติสุข โดยเสนอให้รัฐบาลถอนหมายจับในคดีความมั่นคงนั้น
ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ก.ย.2555 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ขอยกย่องว่าคนกลุ่มนี้เป็นสุภาพบุรุษ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นจะมีเหตุผลบางอย่างทำให้หลงผิด แต่เมื่อเข้ามาทำความเข้าใจกันได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ขณะเดียวกันขอฝากไปถึงกลุ่มก่อความไม่สงบที่ยังหลงผิดอยู่ อยากให้ตระหนักว่าเป็นคนไทยด้วยกัน อย่าทำร้ายคนในชาติเดียวกันอีกเลย ขอให้เข้ามามอบตัวกันได้แล้ว
ส่วนการแสดงตัวของแนวร่วมกลุ่มแรกนั้น ผบ.ทบ.ระบุว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาหาแนวทางดูแลคนกลุ่มนี้แล้ว
ยันรัฐให้ความยุติธรรมแนวร่วมแสดงตัว
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวเรื่องเดียวกันว่า พล.ท.อุดมชัย รายงานว่ายังมีแนวร่วมก่อความไม่สงบจำนวนมากเป็นหลักร้อยที่อยากขอเข้าแสดงตัว โดยแต่ละคนมีคดีแตกต่างกัน ฉะนั้นทางการต้องพิจารณาเป็นรายกรณีว่าจะดูแลแต่ละคนอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลจะให้ความยุติธรรมมากที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีผู้คัดค้านหากไม่ดำเนินดคีอาญากับกลุ่มคนดังกล่าว เพราะเคยกระทำความผิดอย่างร้ายแรงนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน โดยมีทหาร ตำรวจ และอัยการที่เป็นผู้สั่งฟ้องร่วมกันพิจารณาตามหลักกฎหมาย ซึ่งถ้าเป็นกรณีที่ให้ความเป็นธรรมได้เราก็จะทำ และเป็นไปตามกลไกมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 (พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ) แต่ต้องมีพยานหลักฐาน
"รัฐบาลยืนยันว่าจะให้ความยุติธรรม และผมเชื่อว่าเมื่อกลุ่มคนเหล่านี้ได้รับความมั่นใจแล้ว ก็จะกลับไปบอกกับแนวร่วมของตัวเองให้เข้ามามอบตัวด้วย" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ระบุ และว่า จะเร่งหารือเรื่องนี้กับแม่ทัพภาคที่ 4 ให้เสร็จสิ้นก่อนที่รัฐบาลจะประชุมหารือกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 18 ก.ย.
ผู้นำศาสนาหนุนเปิดพื้นที่ถกแนวร่วม
นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิอิสลามจังหวัดยะลา ผู้นำศาสนาชื่อดัง กล่าวว่า กรณีแนวร่วมก่อความไม่สงบจำนวน 93 คนเข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 นั้น โดยข้อเท็จจริงแล้วไม่ใช่การมอบตัวหรือนำคนมามอบตัวใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นการประสานเบื้องต้นเพื่อพบปะพูดคุยกัน อีกทั้งยังไม่ใช่การเจรจา แต่เป็นการเปิดพื้นที่เสนอความคิดเห็นให้กับผู้ที่มีความเห็นแตกต่างเพื่อนำไปสู่สันติในพื้นที่
"การพบปะกันครั้งนี้เป็นเรื่องดีที่ต่างฝ่ายต่างเปิดพื้นที่ เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นกัน โดยเฉพาะในส่วนของ 93 คน สามารถนำข้อคิดจากการพูดคุยในวันนั้น (11 ก.ย.) ไปพิจารณากับญาติมิตร เมื่อเห็นลู่ทางที่ดีก็สามารถเผยแพร่สู่บุคคลอีกหลายคนที่เจอสภาพปัญหาอย่างเดียวกัน คือความหวาดระแวงหวาดกลัวจากการที่ถูกอออกหมายจับคดีต่างๆ และมีรางวัลนำจับ โดยที่ตัวเขาไม่รู้ว่ามีความผิดในส่วนใด หรือบางคนทำผิดบ้างแต่ไม่หนักตามที่มีหมายประกาศนำจับ ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดประตูสู่การเจรจาในอนาคต" ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา ระบุ
นายนิมุ ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า ในอนาคตจะมีผู้แสดงตัวในระดับต่างๆ มากขึ้นตามลำดับ ฉะนั้นรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐจะต้องสร้างความมั่นใจในเรื่องความยุติธรรม และเจ้าหน้าที่รัฐต้องไม่สร้างเงื่อนไขใหม่ รวมทั้งรัฐบาลควรเร่งสร้างนโยบายให้สอดคล้องตามวิถีชีวิตของชาวมุสลิม เพราะหากเข้าใจกัน เชื่อว่าไม่นานสันติสุขจะเกิดขึ้น
"อภิสิทธิ์"นัดหารือ ส.ส.ปชป.ก่อนถกรัฐบาล
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ เชิญ ส.ส.ฝ่ายค้านเข้าหารือถึงการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า พร้อมเข้าร่วมหารือ โดยจะนัดประชุม ส.ส.ของพรรคก่อนเดินทางไป เพื่อที่จะได้เรียบเรียงและนำเสนออย่างเป็นระบบ
"ผมคงต้องขอดูหนังสือเชิญด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับ เพื่อดูรูปแบบการหารือให้เหมาะสม จะได้ไม่ไปสร้างปัญหา ไม่อยากให้เป็นปัญหาเรื่องการเมือง เพราะเรามุ่งช่วยแก้ปัญหา แต่ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายรัฐบาลเจอกับฝ่ายค้านแล้วจะทุกอย่างสงบ เพราะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล และไม่ได้หมายความว่ามีเวทีนี้แล้วรัฐบาลก็จะไม่มาทำหน้าที่ในสภา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เตรียมเสนอ"ยิ่งลักษณ์"ยุบ ศปก.จชต.
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพุธที่ 12 ก.ย.นางสาวยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ส่งหนังสือเชิญ นายอภิสิทธิ์ และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้เข้าร่วมหารือในวันที่ 18 ก.ย.เวลา 13.30 น. ที่ห้อง 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยเธอจะเป็นประธานการประชุมเอง
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อได้พบกับนายกฯก็จะเสนอหลายเรื่อง โดยเฉพาะโครงสร้างการบริหารจัดการ ตลอดจนบทบาทของนายกฯ และการกำหนดทิศทางให้ชัด รวมถึงการป้องกันไม่ให้เกิดเงื่อนไขใหม่ที่จะทำให้เกิดปัญหามากขึ้นด้วย โดยเห็นว่าควรยุบศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) เพราะถ้ายังมีอยู่ยิ่งทำให้เกิดความสับสน จึงควรให้โครงสร้างเดิมได้ทำงานอย่างเต็มที่จะดีกว่า
ดันมาตรา 21 เปิดช่องแนวร่วมมอบตัวเพิ่ม
วันพุธที่ 12 ก.ย. ที่ห้องประชุมชั้น 3 อาคารอำนวยการ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) พร้อมด้วยนายทหารระดับสูงในพื้นที่ ได้เข้าพบหารือกับคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ โดยมี นายไกรสร ศรีไตรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และคณาจารย์เข้าร่วมประชุมกว่า 300 คน
พล.ท.อุดมชัย กล่าวว่า จากกรณีที่ นายแวอาลีคอปเตอร์ วาจิ หรือ เจ๊ะอาลี แกนนำผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เคยมีรางวัลนำจับถึง 1 ล้านบาท นำสมาชิกขบวนการเกือบร้อยรายเข้าแสดงตัวเพื่อยุติเหตุรุนแรงนั้น ขณะนี้ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มที่อยากออกมาพูดคุยและร่วมสร้างสันติสุขสามารถประสานมาได้อย่างเต็มที่ ส่วนการดูแลกลุ่มบุคคลที่ออกมาแสดงตัวกับทางเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะให้การดูแลอย่างเต็มที่ตามความต้องการ
สำหรับเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับหมายจับ ป.วิอาญา (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) นั้น ทางกองทัพจะอำนวยความสะดวกในการนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และได้พยายามเสนอให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) เพราะเมื่อยกเลิกแล้ว ก็จะมีกฎหมายเปิดช่องทางให้ผู้ที่ทำผิดได้ออกมารายงานตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการของศาล เช่น มาตรา 21 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยขณะนี้ดำเนินการอยู่ 2 รายที่ จ.สงขลา อันจะเป็นช่องทางให้สามารถยุติความรุนแรงได้
ไขคดีกับระเบิด"ระแงะ"ที่แท้วางเอง-เหยียบเอง
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเฉพาะความคืบหน้ากรณี นายวอหะ แบเลาะ อายุ 42 ปี เหยียบกับระเบิดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันจันทร์ที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ในท้องที่ ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
ล่าสุด พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายนายวอหะ เจ้าตัวได้ยอมรับสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ประกอบระเบิดแสวงเครื่องใส่ในกระป๋องปลากระป๋อง น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยกระเดื่องแบบเหยียบ โดยได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพร้อมกับนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางไว้ที่ใต้ต้นกระถินณรงค์ ริมถนนสายตันหยงมัส-ยี่งอ ท้องที่หมู่ 2 ต.ตันหยงมัส และได้ใช้ลวดผูกธงชาติแขวนไว้บนต้นไม้เพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเหยียบกับระเบิด แต่เกิดพลาดเหยียบกับระเบิดเสียเองจนได้รับบาดเจ็บ
จากการตรวจสอบยังพบว่า นายวอหะเป็นสมาชิกแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.ระแงะ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯแล้ว โดย นายวอหะ ยังให้การว่า ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.2555 (วันที่มีการปักธงมาเลเซียทั่วสามจังหวัด) ได้นำระเบิดไปวางจำนวน 7 ลูกในพื้นที่ อ.ระแงะ สำหรับระเบิดที่ เด็กชายมูฮัมมัดซาฟิก ลาเต๊ะ อายุ 9 ขวบ เดินไปเหยียบจนขาขวาขาดในท้องที่ อ.ระแงะ เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ก็เชื่อว่าเป็นระเบิดที่นายวอหะนำมาฝังไว้เช่นกัน
สำหรับเหตุการณ์ที่ นายวอหะ เหยียบกับระเบิดจนได้รับบาดเจ็บนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 10 ก.ย.2555 บริเวณริมถนนบ้านวัดร่อน หมู่ 2 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ โดยนายวอหะอ้างว่ากำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ระหว่างทางเกิดปวดปัสสาวะจึงจอดรถลงไปปัสสาวะข้างทางและเหยียบกับระเบิดที่คนร้ายฝังเอาไว้
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไม่เชื่อคำให้การของนายวอหะมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะมีประวัติของนายวอหะว่ามีพฤติกรรมเป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบ โดย นายวอหะ มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่บ้านโต๊ะแม หมู่ 5 ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ส่วนที่อยู่ปัจจุบันที่บ้านกาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นบ้านของภรรยา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นและยึดโทรศัพท์มือถือของนายวอหะที่บ้านภรรยาด้วย
ยิงรายวันตาย 1 เจ็บ 1 – เผากล้องวงจรปิดอีก 7 ตัวที่ยะรัง
สำหรับเหตุรุนแรงอื่นๆ ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมานั้น เมื่อเวลา 21.00 น.วันอังคารที่ 11 ก.ย.คนร้ายจำนวน 3 คนมีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายอับดุลรอเซะ บือแน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/2 บ้านปูลากาซิง หมู่ 4 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เสียชีวิตบริเวณริมถนนสายชนบท ท้องที่บ้านกอลำ
สอบปากคำลูกชายของผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้าย 3 คน ขับรถกระบะมาจอดบริเวณหน้าบ้าน โดยแสดงตัวอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นได้ควบคุมตัวนายอับดุลรอเซะ โดยมัดมือไพล่หลังก่อนพาขึ้นรถขับออกไป ต่อมาได้รับแจ้งว่านายอับดุลรอเซะถูกสังหารและทิ้งศพบริเวณริมถนนสายชนบท บ้านกอลำ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
วันจันทร์ที่ 10 ก.ย.เวลา 16.00 น. นายอาซูวัน โตะโลนา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/2 หมู่ 2 ต.เจะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นางคอบือเสาะ สะอุ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/1 หมู่ 4 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะที่นางคอบือเสาะกำลังนั่งคุยกับลูกสาวบริเวณหน้าบ้าน โดยก่อนเกิดเหตุ นายอาซูวัน ได้เดินเข้าไปถามหารถจักรยานยนต์ของตนเองซึ่งอ้างว่าจอดไว้ข้างบ้านที่เกิดเหตุ แต่เมื่อนางคอบือเสาะไม่ได้ตอบอะไร นายอาซูวันจึงชักปืนออกมายิงใส่ ก่อนชิงรถจักรยานยนต์ของนางคอบือเสาะหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
วันอังคารที่ 11 ก.ย.เวลาประมาณ 02.30 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบเผาทำลายกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี รวม 2 จุด ได้แก่ ที่บ้านพงสะตา หมู่ 5 ต.ยะรัง ทำให้กล้องเสียหาย 3 ตัว และที่บ้านบือแนกือบง หมู่ 3 ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ทำให้กล้องเสียหาย 4 ตัว รวมกล้องโทรทัศน์วงจรปิดได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 7 ตัว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ขณะเดินสายพบปะและรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
ขอบคุณ : สำนักข่าวเนชั่น เอื้อเฟื้อข่าวจากส่วนกลาง