ส.ป.ก.สำรวจพบใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ 5 หมื่นไร่ เร่งกระจายการถือครองให้เกษตรกร
ส.ป.ก. พบใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ทั่วประเทศ 5 หมื่นไร่ ระบุเร่งกระจายการถือครอง 38 ล้านไร่ภายใน 3 ปี อนุมัติปฏิรูปที่ดินแก้ปัญหาสมัชชาเกษตรกร4ภาค 130 ไร่
วันที่ 12 ก.ย. 55 นายวีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อรองรับความต้องการของสมัชชาเกษตรกร4ภาค โดยอนุมัติการดำเนินการปฏิรูปในที่สาธารณประโยชน์ห้วยเพี้ย ในเขตดำเนินการปฏิรูปที่ดินโครงการป่าน้ำปาดหมู่ 2 และหมู่ 7 ตำบลม่วงเจ็ดต้น อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ เนื้อที่ 61 ไร่ เนื่องจากพบว่าประชาชนในพื้นที่เลิกใช้ประโยชน์แล้ว และมีสภาพพื้นที่เหมาะสมกับการดำเนินการปฏิรูปที่ดิน ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบล อำเภอและจังหวัดเสนอความเห็น จึงได้มอบให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำมาดำเนินการปฏิรูปที่ดิน โดยจัดให้กับเกษตรกรตามความเหมาะสม และให้อำเภอหรือจังหวัดได้นำไปใช้ประโยชน์สร้างศูนย์ราชการ โดยอนุญาตให้ใช้ที่ดินส.ป.ก.ต่อไป
โดยที่ประชุมยังได้มีมติอนุมัติให้ ส.ป.ก.ดำเนินการจัดซื้อที่ดินในพื้นที่ตำบลวังเพลิง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี จำนวน 3 แปลง เนื้อที่ 66-0-74 ไร่ ในราคาไร่ละ 58,000 บาท วงเงิน 3,838,370 บาท ตามที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดลพบุรี (คปก.ลพบุรี) เรียบร้อยแล้ว โดยที่ดินดังกล่าวมีความอุดมสมบูรณ์สูง เหมาะแก่การประกอบอาชีพเกษตรกรรม สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินได้หลากหลายตลอดทั้งปี สามารถขุดเจาะน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ในฤดูแล้งได้ และอยู่ใกล้กับฝายน้ำล้นของกรมชลประทาน และมีลำห้วยธรรมชาติ การคมนาคมมีความสะดวกกับการสัญจร อย่างไรก็ตาม การดำเนินการจัดซื้อที่ดินดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามระเบียบซึ่งมีหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการจัดหาและจัดที่ดินให้แก่กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับความช่วยเหลือด้านที่ดินทำกิน ตามมติคณะรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553 เพื่อจัดสรรเป็นที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินโดยเร่งด่วนต่อไป
นอกจากนี้ ตามที่ส.ป.ก.ได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้นำภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียมมาตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ผิดวัตถุประสงค์ของที่ดิน จากการตรวจสอบพบว่าในที่ดินจำนวน 8 ล้านไร่มีการใช้ที่ดินซึ่งอาจผิดวัตถุประสงค์ประมาณ 5 หมื่นไร่ ซึ่งจะส่งมอบให้ทางจังหวัดตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ต่อไป เนื่องจากการตรวจสอบด้วยภาพถ่ายเป็นเพียงการจำกัดวงการตรวจสอบให้แคบลงเพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วแก่เจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าพื้นที่เหล่านั้นใช้ประโยชน์ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เช่น พื้นที่ที่เห็นเป็นอาคาร ผู้ประกอบการอาจสร้างขึ้นเพื่อเก็บผลผลิตทางการเกษตรซึ่งเป็นไปตามระเบียบของส.ป.ก.
ทั้งนี้สำหรับการดำเนินงานต่อไปจะเร่งรัดให้มีการจัดการที่ดินของรัฐที่หลงเหลืออยู่ให้หมดตามที่ได้ประกาศไว้ว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี โดยขณะนี้ ส.ป.ก.ได้รับที่ดินมาจำนวน 38 ล้านไร่ จัดที่ดินไปแล้ว 34 ล้านไร่ เหลืออีก 4 ล้านไร่ซึ่งจะเร่งดำเนินการต่อไป ทั้งนี้หากมีพื้นที่ใดที่ไม่สามารถจัดได้หรือไม่มีผู้ครอบครองจะส่งมอบให้กรมป่าไม้เพื่อปลูกป่าต่อไป
ที่มาภาพ ::: http://www.ddteedin.com/real-estate/16636.html