‘ปลอดประสพ’ สั่งตรวจสอบประตูระบายน้ำอ่างทอง สิงห์บุรี นครสวรรค์ รับมือน้ำ
กบอ.ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและซ่อมแซมพนังกั้นน้ำใน จ.สุโขทัย พร้อมสั่งสำรวจตรวจสอบประตูระบายน้ำสำคัญภายใน 48 ชม. ด้านอภิสิทธิ์ ค้าน ค้านแนวคิด ปลอดประสพ จะเอาน้ำผ่านกรุงเทพฯ เป็นหลักเพื่อลงทะเล บอกให้ดูสภาพความเป็นจริง
วันที่ 12 กันยายน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวภายหลังป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ กบอ. ในการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำที่จังหวัดสุโขทัย
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ได้รายงานความคืบหน้าการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำของจังหวัดสุโขทัยที่โดนกระแสน้ำ จนทำให้พังเป็นรูรั่ว ว่า จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ในการซ่อมแซมเพิ่มเติม คือ ตะแกลงเหล็กใส่หิน มาใช้ซ่อมแซมควบคู่กับการใช้ Big Bag หรือ ถุงทรายขนาดใหญ่ และต้องเปิดแนวซ่อมแซมพนังกั้นน้ำให้กว้างขึ้นจะใช้วิธีอุดรอยรั่วอย่างเดียวไม่ได้ เพื่อทำให้น้ำนิ่ง ด้วยการทำให้ระดับน้ำบริเวณภายในแนวที่กั้นน้ำและนอกแนวกั้นน้ำมีระดับน้ำเท่ากัน ซึ่งจะช่วยให้การซ่อมแซมง่ายขึ้น ทั้งนี้ จะติดตามบริษัทรับเหมาที่เคยซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรี จังหวัดสิงห์บุรี มาซ่อมแซมพนังกั้นน้ำของจังหวัดสุโขทัย หลังจากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อให้พนังกั้นน้ำมีความแข็งแรงขึ้น ด้วยการตอกเสาเข็มและใส่ชิพพลาย หรือ แผ่นเหล็ก
จากนั้น นายปลอดประสพ ได้สอบถามว่า มีวิธีการซ่อมแซมให้เร็วที่สุดได้หรือไม่ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวย้ำว่า ขณะนี้กระแสน้ำยังคงทะลักเข้าท่วมในจุดเดิมอยู่ แต่จะเร่งควบคุมให้เร็วที่สุด ซึ่งเชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหาและเรียบร้อยโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม นายปลอดประสพ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจตรวจสอบประตูระบายน้ำในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง สิงห์บุรี และนครสวรรค์ ว่ามีความพร้อมรับมือน้ำหรือมีจุดที่ต้องเร่งแก้ไขหรือไม่แล้วรายงานมายังตนเองภายใน 48 ชั่วโมง
ส่วนสถานการณ์ที่อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า จะมีน้ำท่วมประมาณ 1 เดือนครึ่ง - 2 เดือน จึงจะกลับเขาสู่ภาวะปกติ เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่ชุ่มน้ำ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค, นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายอลงกรณ์ พลบุตร ,นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค และคณะ เดินทางลงพื้นที่ ต.บางโผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เพื่อเยี่ยมชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม จากนั้นได้เดินทางต่อไปตรวจศาลากลางน้ำท่วม ที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพบว่า ระดับน้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของประชาชนเป็นวงกว้าง โดยระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ขณะที่ชาวบ้านต้องอพยพออกจากบ้าน โดยบางส่วนอาศัยศาลาและจับจองที่บริเวณริมถนนเพื่อเป็นที่พักชั่วคราว
ทั้งนี้ชาวบ้าน เล่าว่า แม้น้ำฝนจะไม่ตกหนักเท่าปีที่แล้ว แต่ปริมาณน้ำกลับเพิ่มอย่างรวดเร็ว โดยบางคืนสูงถึง 50 ซม. ทำให้ขนย้ายสิ่งของไม่ทัน ประกอบกับไม่มีการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานใดทั้งสิ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวภายหลังพบชาวบ้านและมอบถุงยังชีพว่า 2 จุดที่ตนได้ลงพื้นที่ ชาวบ้านได้สะท้อนมาว่า สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือ อยากให้รัฐเร่งคลี่คลายสถานการณ์ก่อนที่น้ำจะมาอีกระลอกหนึ่ง เพราะจากสภาพการทางเหนือ น้ำจะมาสมทบอีก ซึ่งพรรคจะติดตามการทำงานเพื่อสะท้อนปัญหาไปยังรัฐบาล โดยปัญหาที่พบตรงกันทั้งสองจุดคือ แม้ปริมาณน้ำจะน้อย แต่น้ำขึ้นเร็วมาก ชาวบ้านเตรียมตัวไม่ทัน นอกจากนี้ยังต้องติดตามว่างบประมาณจำนวนมาก 1.2 แสนล้านบาท ที่ขอจากรัฐสภาไป โดยเฉพาะงบกลางในเรื่องน้ำท่วม ได้นำมาลงทุนเพื่อแก้ปัญหาและป้องกันน้ำท่วมอย่างไร เพราะทั้งสองจุดนี้ไม่ได้รับงบประมาณเลย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการที่รัฐบาลพูดมาโดยตลอดว่า มีการแก้ปัญหาทั้งระบบแล้ว จึงไม่สอดคล้องกับความจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์จะเป็นตัวสะท้อนว่า รัฐบาลมีความพร้อมจริงหรือไม่ เพราะหากจ.สุโขทัยเป็นเหตุสุดวิสัยหรืออุบัติเหตุ แต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็ยังไม่เห็นว่า เงินที่ใช้ลงทุนจะนำมาช่วยแก้ไขอย่างไร เช่นเดียวกับการพูดถึงแผนต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ,การเตือนภัยและการอพยพ แต่พอเกิดเหตุการณ์จริงระบบการบริหารก็ไม่แตกต่างจากปีที่แล้ว ทั้งๆที่ปริมาณน้ำน้อยกว่า แต่ประชาชนก็ยังได้รับความเดือดร้อนและเสียหายไม่ต่างจากเดิม
ส่วนวิธีคิดของนายปลอดประสพ ที่จะใช้แนวทางผันน้ำเหนือผ่านกทม.ออกสู่ทะเลนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปีที่แล้วที่เกิดปัญหา ก็เกิดจากแนวคิดเช่นนี้ ทั้งที่ไม่ใช่แนวทางที่ระบบวางไว้ เนื่องจากระบบที่มีอยู่ไม่ได้วางไว้เพื่อให้ผันน้ำเหนือเข้ามา จึงควรทบทวนเรื่องนี้
ส่วนกรณีที่นายปลอดประสพ ระบุว่า จะไม่ดำเนินการตามข้อเสนอของนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. ที่เสนอให้ผันน้ำออกไปทางฝั่งตะวันออก โดยระบุว่าเป็นการวางยานั้น กรณีดังกล่าวนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากให้นายปลอดประสพ พิจารณาจากสภาพความจริง และน่าจะทราบดีว่าการลงทุนในอดีตที่ผ่านมาระบบการระบายน้ำและการชลประทาน เชื่อมโยงกันอย่างไร ไม่เคยมียุคไหนที่จะเอาน้ำผ่านกรุงเทพฯ เป็นหลักเพื่อลงทะเล
“ กทม.และรัฐบาลไม่ควรเกิดความขัดแย้งกัน โดยตนอยากให้ทั้งสองฝ่ายหารือทำความเข้าใจกัน เพื่อบริหารงานร่วมกัน โดยยึดตามหลักวิชาอย่าสร้างประเด็นการเมือง ซึ่งผมยืนยันว่า กทม.ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯ หรือนายธีระชน ไม่เคยเอาเรื่องการเมืองเป็นตัวตั้ง อย่างเช่นสัปดาห์ที่แล้วมีกระทู้ถาม เรื่องการบริหารจัดการน้ำ ฝ่ายค้านถามในเรื่องเทคนิควิชาการไม่มีเรื่องการเมือง แต่ฝ่ายรัฐบาล กลับตั้งกระทู้ถามเพื่อให้เกิดการกล่าวหากทม. และใช้คำพูดว่า คลองลาดพร้าว คลองเดียวจะเป็นจะตาย ทั้งที่มีหลักวิชารองรับว่าเป็นเส้นทางที่อาจเกิดปัญหา จึงอยากขอเรียกร้องรัฐบาลให้หยุดเลิกเล่นการเมือง เพราะกทม.ต้องการแก้ปัญหา และผมเชื่อว่าผู้ว่าฯกทม.พร้อมให้ความร่วมมือ รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ที่มาภาพ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.10151085222346144.437038.17171146143&type=1