กรมชลฯลงพื้นที่คลองโผงเผง-บางบาล ชาวบ้านชี้ปีนี้น้ำขึ้นเร็ว
กรมชลฯเร่งลงพื้นที่สำรวจน้ำท่วม เฝ้าระวังคลองโผงเผง-บางบาล ชี้บางระกำโมเดลช่วยบรรเทาสุโขทัย ชาวบ้านฟันธงปีนี้น้ำขึ้นเร็ว
วันที่ 11 ก.ย. 55 นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขณะลงพื้นที่สำรวจน้ำในอ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยาว่า ตลอด 3-4 วันโดยเฉพาะในวันที่ 6-7 ก.ย.ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะบริเวณจ.กำแพงเพชร ซึ่งวัดปริมาณฝนสูงสุดได้ 161.40 มิลลิเมตร ส่งผลให้น้ำปริมาณมากไหลลงสู่แม่น้ำปิงและแม่น้ำเจ้าพระยาที่จ.นครสวรรค์ตามลำดับ ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้กรมชลประทานได้ควบคุมให้น้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 1,800 ลูกบาศก์เมตร/วินาที(เขื่อนเจ้าพระยามีขีดจำกัดในการรับน้ำได้สูงสุด 2,840 ลูกบาศก์เมตร/วินาที) โดยปริมาณน้ำดังกล่าวนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางด้านท้ายเขื่อน ยกเว้นในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณคลองโผงเผง และอำเภอบางบาลซึ่งน้ำไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนจริงแต่เป็นลักษณะของการไหลเอ่อตามปกติ อย่างไรก็ดีชาวบ้านในพื้นที่บางบาลและคลองโผงเผงเข้าใจถึงผลกระทบจากการระบายน้ำ โดยมีการแจ้งเตือนชาวบ้านล่วงหน้าแล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่าน้ำไม่ล้นข้ามถนนคันคลองชลประทานและไม่ท่วมพื้นที่การเกษตร ในเขตชลประทาน
โดยกรมชลประทานจะระบายน้ำในเกณฑ์ดังกล่าวอีกประมาณ 1-2 วัน และจะลดปริมาณการระบายน้ำลงในเกณฑ์ 1,200-1,300 ลูกบาศก์เมตร/วินาทีและเตรียมรอรับมือน้ำฝนระลอกใหม่ในระหว่างวันที่13-14 ก.ย. ตามที่กรมอุตุฯคาดการณ์ไว้ว่าร่องความกดอากาศต่ำจากประเทศเวียดนามจะพัดผ่านมาสมทบซึ่งจะทำให้มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งการระบายน้ำต่อจากนั้นจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อย่างไรก็ดีหากไม่มีฝนตกมาเพิ่มสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคกลางจะไม่รุนแรงไปมากกว่านี้
ขณะที่พื้นที่ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิต์ในขณะนี้ยังรองรับน้ำได้อีก 1.2 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร/วินาทีหาก ซึ่งหากฝนตกท้ายอ่างเก็บน้ำก็จะจัดการให้น้ำไหลลงแม่น้ำในปริมาณที่เหมาะสมที่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ได้เตรียมพื้นที่บริเวณทุ่งเจ้าพระยาไว้รองรับการระบายน้ำแล้ว โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่กรมชลประทานให้รีบแจ้งเตือนภัยชาวบ้านโดยเร่งด่วนหากรู้ว่าน้ำจะเอ่อท่วมพื้นที่อื่นๆเมื่อใด
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันพื้นที่ในจ.นครสวรรค์ปริมาณน้ำมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ปัญหาน้ำท่วมจ.สุโขทัย ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากคันกั้นน้ำของเทศบาลทรุดทำให้น้ำทะลักไหลท่วมตัวจังหวัดได้ โดยบางระกำโมเดลได้ช่วยชะลอน้ำที่เข้าท่วมจ.สุโขทัยไว้ในระดับหนึ่งด้วย
ด้านนายฏรงค์กร สมตน ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่ริมคลองโผงเผงน้ำไหลเอ่อเข้าท่วมชุมชนริมตลิ่งมามากว่า 1 สัปดาห์ โดยมีระดับน้ำสูงที่ประมาณ60เซนติเมตร ทั้งนี้กรมชลประทานทำได้เพียงหน่วงน้ำไว้ในอัตราที่เหมาะสม โดยสามารถป้องกันน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรไว้ได้ 7.8 ล้านไร่ อย่างไรก็ดีหากมีฝนตกเพิ่มขึ้น อาจระบายน้ำเพิ่มขึ้นมากกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งอาจทำให้พื้นที่คลองโผงเผงมีระดับน้ำเอ่อท่วมสูงขึ้นอีกราว 50 เซนติเมตร
ขณะที่นายถวิล ขาวเงินยวง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่5 ต.สะพานใหม่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยากล่าวว่า คืนที่ผ่านมา(10 ก.ย.)ปริมาณน้ำในหมู่บ้านเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะนี้น้ำเอ่อท่วมบ้านชาวบ้าน 13 หลังคาเรือนในจำนวน 60 หลังคาเรือนของหมู่บ้านแล้ว โดยน้ำเอ่อท่วมอยู่ที่ระดับพื้นบ้าน ซึ่งเป็นการท่วมตามปกติเหมือนทุกปีที่ผ่านมา เพียงแต่ครั้งนี้น้ำเพิ่มระดับขึ้นเร็วเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้มีการแจ้งเตือนจากทางอำเภอตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนแล้ว ซึ่งชาวบ้านได้เตรียมตัวเก็บของล่วงหน้าไว้แล้ว
ด้านนางบังอร กัลลปวิทย์ ครูชั้นประถมศึกษา โรงเรียนประชากรรังสฤษฎ์ ต.บางหลวง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้น้ำจากแม่น้อยไหลเข้าท่วมโรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งประมาณ 1 เมตร โดยระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากเมื่อวาน(10ก.ย.)ซึ่งอยู่ที่ระดับ 60 เซนติเมตรเท่านั้น แม้โรงเรียนจะเผชิญกับปัญหาน้ำไหลเอ่อเข้าท่วมเป็นปกติทุกปี แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าปีนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเร็วกว่าปีก่อนๆ ทั้งนี้ยังคงเปิดการเรียนการสอนตามปกติโดยย้ายขึ้นมาสอนบนชั้นสองของอาคาร
ภาพประกอบข่าว :::