นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย จี้ รมต.ให้ข่าวต้องรับผิดชอบ ชี้ ‘จีทูจี’ ยังเงียบฉี่
“กอบสุข เอี่ยมสุรีย์” ชี้ จำนำ ฉุดยอดส่งออกหด ย้ำไม่ได้ดึงราคาข้าวในประเทศให้สูงขึ้น แจงผู้ใหญ่ในประเทศหยุดให้ข่าวโป้ปดไปวันๆ แนะวัดผลการทำงานตัวเองด้วย
เมื่อเร็วๆ นี้ นางกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวในเวทีสัมมนา เรื่อง "โครงการรับจำนำสินค้าเกษตร" ในงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่น : รวมพลังเปลี่ยนประเทศไทย ประจำปี 2555 ที่จัดโดยภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น (ภคต.) ถึงนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 10 เดือน ว่า ส่งผลให้ยอดส่งออกหดหาย ราคาข้าวตกต่ำ และเพิ่งขยับสูงขึ้นในช่วงปลายฤดูเท่านั้น
"นโยบายจำนำข้าวมีข้อดีต่อผู้ส่งออกเพียงอย่างเดียว คือ ช่วยทำให้เห็นภาพชัดว่า เมื่อยอดส่งออกหดหาย ผู้ส่งออกตกงาน แต่ราคาข้าวก็ยังคงตกต่ำอยู่ ดังนั้น ก็ควรเลิกโทษผู้ส่งออกว่าเป็นตัวการอยู่ตลอดเวลาได้แล้ว เนื่องจากนโยบายนี้ก็ไม่ได้ทำให้ราคาข้าวในประเทศสูงกว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านๆ มา อีกทั้งไม่ได้ทำให้สภาพข้าวสารในประเทศดีขึ้นด้วย"
นางกอบสุข กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้พูดถึงนโยบายจำนำมาตลอด ซึ่งทางผู้ส่งออกมีความกังวลว่า รัฐบาลจะพูดโกหกเสียมาก การพูดของภาครัฐก็มีน้ำหนักกว่าผู้ส่งออกที่ต้องแขวนป้ายผู้ร้ายอยู่ตลอดเวลา ขณะที่สาธารณะชนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทราบข้อมูลที่แท้จริง
"ล่าสุดมีการให้ข่าวจากผู้ใหญ่ว่ามีการเปิดขายข้าวในรูปแบบจีทูจี และเสริมการพูดปดด้วยว่ากำลังส่งมอบสินค้าที่ประเทศจีน ทั้งที่ หากมีการส่งมอบจริง ผู้ส่งออกจะต้องรู้ก่อนเพื่อน ทั้งการจองเรือ การเซอร์เวย์ การขายข้าวตอนนี้ยังเงียบฉี่ แต่กลับพูดว่ามีการส่งมอบ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่ผู้หลักผู้ใหญ่สามารถพูดปดไปเรื่อยๆ"
นางกอบสุข กล่าวด้วยว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศนี้ ทั้งระดับรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี เมื่อพูดหรือให้ข่าวแล้วก็ควรจะให้ KPI (วัดผลการดําเนินงาน) ตัวเองด้วย รวมทั้งสังคมจะต้องวัดผลจากคำพูดเหล่านั้นด้วย หากพูดแล้วทำไม่ได้ ก็ไม่ควรพูด เพราะยิ่งจะทำให้เกิดความไขว้เขวมาก โดยเฉพาะคำพูดที่บอกว่า รัฐบาลจะขายข้าวได้ราคาแพง ก็อยากให้ทำให้ดู ไม่ใช่โป้ปดไปวันๆ