“อนุดิษฐ์” โชว์งานครบ 1 ปี โต้ปชป.120 ล้านไม่เเค่บล๊อกเว็บโป๊
“อนุดิษฐ์” โชว์ผลงานครบรอบ 1 ปี แท๊บเล็ต-ไอซีที/ทีวีชุมชน อ้อนคะแนนขึ้นอยู่กับประชาชน โต้ปชป. งบ 120 ล้าน บริหารจัดการเเท๊บเล็ต ไม่ใช่เเค่บล๊อกเว็บโป๊
วันที่ 30 ส.ค. 55 ที่ศูนย์การประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (รมว.ไอซีที) แถลงผลการดำเนินงานครบรอบ 1 ปีว่า บทบาทหน้าที่ของกระทรวงฯ แบ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา และนโยบายเร่งด่วนที่ดำเนินการปีแรก การนำนโยบายไปปฏิบัติ การดำเนินงานอื่น ๆ ของหน่วยงานในกำกับช่วยขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงฯ โครงการที่กระทรวงริเริ่ม การดำเนินงานตามบัญชานายกรัฐมนตรี มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการสร้างความสัมพันธ์ด้านไอซีทีกับต่างประเทศ ภายใต้งบประมาณ 3 พันล้านบาท
หนึ่งในนั้นคือนโยบายเร่งด่วนที่กระทรวงฯ ได้ทำหน้าที่แทนกระทรวงศึกษาธิการที่ได้รับมอบหมายตามมติครม. วันที่ 22 ก.พ. 55 จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท๊บเล็ตให้แก่นักเรียนชั้นป.1 ประจำปี 2555 จำนวนไม่เกิน 1 ล้านเครื่อง ภายใต้งบประมาณไม่เกิน 3 พันล้านบาท และได้ลงนามบันทึกจัดซื้อกับบริษัทเสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลอปเมนต์ จำกัด ซึ่งมีคู่สัญญา 2 ฉบับ ได้แก่ สัญญาที่ 1 สั่งซื้อจำนวน 400,000 เครื่อง เมื่อ 10 พ.ค. 55 และสัญญาที่ 2 สั่งซื้อจำนวน 403,941 เครื่อง เมื่อ 9 ก.ค. 55 โดยมั่นใจว่าภายในสิ้นส.ค.จะดำเนินการส่งมอบล๊อตแรกได้ทัน ส่วนล๊อตสองจะเสร็จสิ้นภายในก.ย. นี้
รมว.ไอซีที กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตำหนิน.อ.สุรพล นะวะมวัฒน์ ที่ปรึกษา รมว. ไอซีที และที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจรับโครงการแท็บเล็ต ป.1 ว่า รัฐบาลจะทุ่มงบประมาณ 120 ล้านบาท เพื่อว่าจ้างให้บริษัท เอส เอ พี (SAP) ผู้ผลิตโปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ จัดทำโปรแกรมป้องกันการเข้าเว็บไซต์ไม่เหมาะสม หรือเว็บไซต์ลามกอนาจาร ผ่านทางแท็บเล็ต ป.1 โดยเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 1 ปีนั้น ขอชี้แจงว่าหลายคนเข้าใจผิด หลายฝ่ายจึงควรนำเสนอข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนรอบด้านว่า ความจริงงบประมาณดังกล่าวใช้ในระบบการบริหารจัดการระบบ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับระบบการใช้โทรศัพท์มือถือที่ต้องการใช้ในต่างประเทศ ปิดบริการ หรือเปิดบริการใหม่ จะต้องโทรไปศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) ซึ่งเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เช่นเดียวกันแท๊บเล็ตจำเป็นต้องมีศูนย์อำนวยความสะดวกดังกล่าวด้วย
“การบล็อกเว็บอนาจารนั้น หลายฝ่ายได้มีระบบจัดการอยู่แล้วโดยเชื่อมต่อกับเครือข่ายทางการศึกษา ฉะนั้นการนำเสนอว่ากระทรวงฯ นำงบ 120 ล้านใช้บล็อกเว็บดังกล่าวจึงไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง”
ส่วนการจัดตั้งศูนย์บริการซ่อมแท๊บเล็ตทั่วประเทศนั้น บริษัท เสิ่นเจิ้นฯ ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับการให้บริการภายหลังจัดส่งแท๊บเล็ตเมื่อเกิดปัญหาเครื่องเสียตามสัญญาว่า บริษัทจะจัดตั้งศูนย์ซ่อมทั่วประเทศ 30 ศูนย์ ครอบคลุม 77 จังหวัด พร้อมยืนยันหากแท๊บเล็ตที่แจกไปไม่มีประสิทธิภาพจริงคงมีผู้ปกครองหลายคนถอดชิ้นส่วนของเครื่องออกมาประจานแล้ว
น.อ.อนุดิษฐ์ ยังกล่าวถึง การดำเนินการอื่น ๆ ของหน่วยงานในกำกับที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบาย หนึ่งในนั้นคือการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนให้ยั่งยืน เพื่อให้บริการและให้ความรู้ด้านไอซีทีแก่คนในชุมชนผ่านผู้ดูแลศูนย์การเรียนรู้ 1,200 คน ก่อนที่จะขยายผลไปสู่ประชาชน 150,000 คน ในปี 55 นอกจากนี้ยังพัฒนาศักยภาพกลุ่มคนทำงานที่บ้านและผู้หญิงผ่านโครงการ E-Women และ E-Shop เพื่อเปิดโอกาสทางการตลาด เข้าถึงข้อมูลความต้องการสินค้า และคนในชุมชนยังสามารถสร้างช่องทางผ่านเว็บร้านค้าชุมชนใน www.Thaitelcentremall.com
“การพัฒนานั้นจะสร้างคุณธรรมจริยธรรมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์แก่เด็กได้เรียนรู้ด้านไอซีทีผ่านกิจกรรม MICT CAMP ด้วยการสร้างเครือข่ายครูไอซีทีแกนนำ 208 คน เพื่อขยายแก่เด็กและเยาวชน 5,000 คน อีกทั้งชุมชนยังสามารถผลิตสื่อองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อแลกเปลี่ยนและจัดกิจกรรมขึ้นเองได้”
สำหรับการพัฒนาศูนย์ฯ ในอนาคต ขณะนี้ได้จัดตั้งโครงการสถานีโทรทัศน์ชุมชนผ่านไอพีทีวี “ทีวีชุมชน” โดยได้รับความร่วมมือจากบมจ.กสท.โทรคมนาคม และหน่วยงานอื่น ๆ อีก 7 แห่ง นำร่องเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนพื้นที่นำร่องต้องรอการพิจารณาจากคณะทำงานอีกครั้ง อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีศูนย์ฯ เกิดขึ้นทั้งหมด 1,881 แห่ง ผู้ดูแลศูนย์ 4,058 คน และมีจำนวนผู้ใช้บริการ/ฝึกอบรม 362,628 คน ซึ่งคาดว่าภายในปี 56 กระทรวงฯ จะจัดตั้งศูนย์ฯ เพิ่มอีก 100 แห่ง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการประเมินคะแนนตนเอง รมว.ไอซีที กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่าคงต้องให้ประชาชนช่วยประเมินแทน.