กสทช. จี้ไทยคมโฆษณาเกินจริง ยา – อาหารเสริม ระบุวิทยุชุมชนคุมยาก
กสทช.-สคบ.-อย.-บป.ปคบ. ทวงถามฐานข้อมูลวิทยุ ทีวี ดาวเทียม โฆษณาเกินจริง เกร็กคู-ซันคลาร่า-เอนไซม์เจนิฟู๊ด กม.ระบุโทษอาญา ส่วนอำนาจกสทช.ถอนใบอนุญาต ต้องรอกติกาอนาคต ยอมรับวิทยุชุมชนคุมยาก
วันที่ 29 ส.ค. 55 ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ และนพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ในฐานะกรรมการกสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชาชน แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหาโฆษณาอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายและเกินจริง
น.ส.สุภิญญา เปิดเผยว่า ภายหลังที่ประชุมกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (บอร์ดกสท.) มีมติออกมาตรการชั่วคราวให้ระงับการเผยแพร่โฆษณาเกินจริงในผลิตภัณฑ์เอนไซม์เจนิฟู๊ด ซันคลาร่า และเกร็กคู เมื่อ 23 เม.ย. 55 โดยส่งหนังสือแจ้งระงับการโฆษณาไปยังสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุทุกรายการ โดยเฉพาะบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมกับผู้ประกอบการกิจการดาวเทียม และยังเป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมภายใต้กำกับของกสทช. แม้ไทยคมจะชี้แจงว่าได้ส่งหนังสือขอให้ระงับการออกอากาศโฆษณาไปยังช่องดาวเทียมที่เกี่ยวข้อง 6 แห่งแล้ว ได้แก่ บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท กานต์มณี จำกัด กรมประชาสัมพันธ์ บริษัท เอ็มวี เทเลวิชั่นลาว จำกัด และบริษัท มีเดียทัช จำกัด
อย่างไรก็ตามขณะนี้ผ่านมา 4 เดือนแล้ว สำนักงานกสทช. ภายใต้คณะทำงานความร่วมมือตามบันทึกข้อตกลงของ 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บป.ปคบ.) และกสทช. ยังไม่ได้รับฐานข้อมูลผู้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียมตามที่ไทยคมรับปากจะส่งให้ เพื่อร่วมมือตรวจสอบการกระทำผิดด้านการโฆษณาเกินจริงต่อไป
“หากเราไม่ได้ฐานข้อมูลผู้เช่าช่องสัญญาณ อย.จะไม่สามารถตรวจสอบดำเนินคดีตามกฎหมายได้ เนื่องจากไม่รู้ว่ารายการที่ออกอากาศนั้นใครเป็นเจ้าของ ดังนั้นหากยังไม่ได้รับความร่วมมือ สำนักงานกสทช.จะเชิญไทยคมมาหารืออีกครั้งหนึ่ง ส่วนจะมีมาตรการถอนใบอนุญาตหรือไม่ต้องรอกติกาอนาคตก่อน เพราะตอนนี้บอร์ดกสท.ยังไม่มีอำนาจกำกับดูแลไทยคม”
สำหรับมาตรการรองรับการควบคุมโฆษณาเกินจริงในสถานีวิทยุชุมชนต้องรอร่างประกาศกสทช. เกี่ยวกับการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หลังจากนั้นจะเปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนอยู่ในระบบ เพื่อกสทช.จะกำกับโดยตรงหนึ่งต่อหนึ่ง เพราะวิทยุชุมชนไม่มีตัวกลางควบคุมเหมือนทีวีดาวเทียมที่มีบริษัท ไทยคม จำกัด ดูแล และมีจำนวนมากกว่า 6 พันแห่งจึงควบคุมยาก
ส่วนความคืบหน้าการจัดการคลื่นสัญญาณวิทยุชุมชนรบกวนการสื่อสารการบินนั้น ขณะนี้กสทช.ได้ร่วมมือบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อตรวจสอบและควบคุมอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว ซึ่งจะจับ ปรับ ตามกฎหมาย โดยหลังจากนี้วิทยุการบินจะสื่อสารกับกสทช. เป็นระยะ หากพบความผิดปกติอย่างไรจะเร่งส่งเจ้าหน้าที่ดูแลตามกฎหมายทุกขั้นตอน
ด้านนพ.ประวิทย์ กล่าวว่า ไทยคมเป็นบริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมสื่อสาร ได้รับใบอนุญาตโดยตรงจากกสทช. คือดาวเทียมไทยคม 7 จึงมั่นใจว่าจะสามารถกำกับดูแลได้ ซึ่งมีเงื่อนไขห้ามนำบริการไปประกอบผิดกฏหมาย สำหรับกรณีดังกล่าวมีการควบคุม 2 ช่องทาง คือ 1.หากดำเนินการตามกฎหมายของอย. จะมีโทษทางอาญาทันที 2.กรณีอย.ขอความร่วมมือให้ไทยคมส่งฐานข้อมูลผู้ประกอบการ แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยง อย.สามารถดำเนินคดีกับไทยคมได้ในฐานะผู้สนับสนุนการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย และหากอย. แจ้งการกระทำผิดมายังกสทช. ใช้อำนาจทางปกครองดูแลผ่านระบบเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบกิจการ
ส่วนไทยคมเสนอให้วางกรอบกติการ่วมกันเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องคำนึงถึงปัญหาเฉพาะหน้าในการโฆษณาผิดกฎหมายที่ไทยคมต้องให้ความร่วมมือได้ทันที ส่วนการร่างกติกาควรอยู่ในขั้นตอนหลังจากนี้
“หากอย.ดำเนินคดีกับไทยคมในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำผิด กสทช.จึงจะมีอำนาจดำเนินการทางปกครองกับไทยคมได้ แต่หากอย.ยังใช้การเจรจาขอความร่วมมือ เราจะช่วยสนับสนุนความร่วมมือให้สำเร็จ” นพ.ประวิทย์กล่าว.