จ่อยิงกลางตลาดเด็กม.5ดับ-ชาวบ้านเจ็บ 2 เชื่อจงใจตอกลิ่มศาสนา
เกิดเหตุร้ายขึ้นจนได้ในวันอาสาฬหบูชา ทั้งๆ ที่ฝ่ายความมั่นคงตรึงกำลังเข้ม คนร้ายฉวยจังหวะเช้าตรู่จ่อยิงนักเรียน ม.5 ดับคาตลาดนัดที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ชาวบ้านถูกลูกหลงบาดเจ็บอีก 2 ราย ตำรวจสงสัยล้างแค้นส่วนตัว แต่ผู้ว่าฯ-นายอำเภอฟันธงหวังตอกลิ่มให้เกิดความขัดแย้งระหว่างศาสนา ใต้ระอุต่อเนื่องช่วงสุญญากาศรัฐบาล คนร้ายสุดอุกอาจบุกยิงอาสาสมัครทหารพรานดับคาร้านน้ำชากลางวันแสกๆ ดอดวางระเบิดทหาร ควบมอเตอร์ไซค์ประกบยิงสองพี่น้องช่างก่อสร้างเสียชีวิตคาถนน
เกิดเหตุการณ์รุนแรงรับวันอาสาฬหบูชาที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนักเรียนวัย 16 ปีกลางตลาดใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ท่ามกลางการตรึงกำลังเข้มป้องกันเหตุร้ายช่วงเข้าพรรษาของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง
โดยเมื่อเวลา 06.30 น.วันศุกร์ที่ 15 ก.ค.2554 ร.ต.ท.ปริญญา ขวัญแก้ว ร้อยเวร สภ.ปะนาเระ รับแจ้งเหตุยิงกันที่ตลาดนัดในหมู่บ้าน หมู่ 5 บ้านกลาง ต.บ้านกลาง อ.ปะนาเระ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง 3 ราย พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลปะนาเระแล้ว
รายชื่อผู้บาดเจ็บประกอบด้วย นายณรงค์ ยอดศรี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 4 ต.บ้านกลาง เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 นายเจริญ ปานศรีแก้ว อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 9 ต.บ้านกลาง เป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทั้งคู่ถูกยิงที่แขน แพทย์ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลปัตตานี และนายวรพจน์ แดงสุข อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 4 ต.บ้านกลาง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนท่าข้ามวิทยาคาร อ.ปะนาเระ มีบาดแผลถูกยิงบริเวณศีรษะ อาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบสวนทราบว่า ที่เกิดเหตุเปิดเป็นตลาดนัดวันศุกร์ ก่อนเกิดเหตุ นายวรพจน์ พร้อมด้วยมารดาได้ไปซื้อกับข้าวที่ตลาด จากนั้นมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์มาจอด แล้วคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้เดินตามหลังนายวรพจน์ เมื่อสบโอกาสจึงชักปืนออกมาจ่อยิงที่ศีรษะ 1 นัดจนนายวรพจน์ล้มลง คนร้ายจึงกราดกระสุนซ้ำในบริเวณใกล้เคียง กระสุนถูก นายณรงค์ กับ นายเจริญ ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ท่ามกลางความตื่นตระหนกของประชาชนทั้งไทยพุทธและมุสลิมที่จับจ่ายซื้อของกันอยู่ในตลาดเป็นจำนวนมาก หลังก่อเหตุคนร้ายวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดรออยู่ขับหลบหนีไป
เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นที่เป็นชนวนสังหารไว้ 2 ประเด็น คือ อาจเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบที่เลือกก่อเหตุในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ขณะที่อีกสาเหตุหนึ่งอาจเป็นความขัดแย้งส่วนตัว เนื่องจากโรงเรียนของนายวรพจน์เคยมีปัญหายกพวกตีกับโรงเรียนคู่อริ จึงอาจถูกตามล้างแค้น
ผู้ว่าฯ-นายอำเภอประสานเสียงจงใจ"ตอกลิ่ม"
เจ้าหน้าที่ระดับสูงในพื้นที่เห็นตรงกันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะมีสาเหตุจากเรื่องส่วนตัวหรือการสร้างสถานการณ์ จะส่งผลต่อความหวาดระแวงระหว่างพี่น้องประชาชนสองศาสนาอย่างแน่นอน โดย นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เป็นความพยายามจงใจสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่โดยมีเป้าหมายทำร้ายชาวบ้านที่เป็นคนไทยพุทธเพื่อสร้างแรงกดดันให้เกิดเป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชน 2 ศาสนา เนื่องจากในพื้นที่ อ.ปะนาเระ เป็นพื้นที่ที่มีชาวไทยพุทธอาศัยอยู่ในสัดส่วน 60% ของประชากรทั้งหมด ส่วนอีก 40% เป็นพี่น้องมุสลิม จะเห็นได้ว่าอำเภอนี้เคยเกิดเหตุรุนแรงเชิงสัญลักษณ์เพื่อตอกลิ่มคนสองศาสนาบ่อยครั้ง
"พฤติกรรมของคนร้ายคือใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านไทยพุทธที่เพิ่งเดินทางออกจากชุมชนเพื่อไปจับจ่ายซื้อของในช่วงเช้า ซึ่งเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ สะท้อนให้เห็นว่าคนร้ายน่าจะสะกดรอยและติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวบ้านไทยพุทธมาก่อนแล้ว เพื่อหวังก่อเหตุความรุนแรง โดยเลือกห้วงเวลาเช้าตรู่ที่ชาวบ้านไปตลาดก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบ"
ขณะที่ นายปรีชา ชนะกิจกำจร นายอำเภอปะนาเระ กล่าวว่า เป็นความพยายามของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่จ้องทำร้ายชาวบ้านทั้งไทยพุทธและมุสลิมเพื่อสร้างสถานการณ์ความขัดแย้งหวาดระแวงซึ่งกันและกัน เพราะเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งเกิดเหตุคนร้ายบุกยิงครูอัตราจ้างโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม เสียชีวิตที่ ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ
สำหรับการก่อเหตุรุนแรงกลางตลาดนั้น นายอำเภอปะนาเระ กล่าวว่า จะนัดหารือกับผู้ประกอบการเจ้าของตลาดนัดในการวางระบบดูแลความปลอดภัยให้รัดกุมขึ้น และขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้าตลอดจนชาวบ้านไม่ให้นำรถทุกชนิดเข้าไปจอดภายในตลาด
แม่ทัพ-ผู้ว่าฯร่วมตักบาตร-เวียนเทียนอาสาฬหบูชา
ด้านบรรยากาศในพื้นที่ชายแดนใต้วานนี้ ซึ่งเป็นวันอาสาฬหบูชา เจ้าหน้าที่ระดับสูงในพื้นที่ อาทิเช่น พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้พร้อมใจกันออกมาร่วมพิธีทำบุญตักบาตรและเวียนเทียนกับพี่น้องพุทธศาสนิกชน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษของเจ้าหน้าที่ และเปลี่ยนเวลาเวียนเทียนมาเป็นช่วงกลางวัน
จ่อยิงทหารพรานดับคาร้านน้ำชา
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 11.50 น.วันพฤหัสบดีที่ 14 ก.ค. พ.ต.อ.อุทัย ทิพย์เสภา ผู้กำกับการ สภ.บ้านโสร่ง ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต ภายในร้านน้ำชาไม่มีชื่อ ตั้งอยู่สามแยกถนนลาฆูนิง หมู่ 5 บ้านจาเราะบองอ ต.เขาตูม จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบศพ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) อัดนัน มามะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/3 หมู่ 5 ต.เขาตูม มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกขนาด .38 เข้าที่กลางหลัง 5 นัด และที่หน้าผาก 1 นัด นอกจากนั้นยังพบตู้กระจกภายในร้านแตกเสียหายหลายบาน
สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นอาสาสมัครทหารพราน สังกัดกรมทหารพรานที่ 41 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา และถูกย้ายไปอยู่ที่กองร้อยที่ 1 อ.บังนังสะตา จ.ยะลา ที่ผ่านมามักกลับบ้านนานๆ ครั้ง ช่วงเกิดเหตุ อส.ทพ.อัดนัน ลาพัก 1 สัปดาห์เพื่อไปเยี่ยมบ้านภรรยาในหมู่บ้านจาเราะบองอ และได้ไปดื่มน้ำชาที่ร้านโดยมีลูกค้านั่งอยู่ประมาณ 2-3 คน
ขณะที่ดื่มน้ำชามีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ไม่มาจอด จากนั้นคนที่ซ้อนท้ายได้ลงจากรถเดินเข้าไปหา อส.ทพ.อัดนัน แล้วใช้อาวุธปืนพกกระหน่ำยิงทันที ทำให้ อส.ทพ.อัดนัน ฟุบลงกับโต๊ะ แต่คนร้ายยังเดินเข้าไปจิกผมที่ศีรษะขึ้นมา แล้วจ่อยิงเข้าที่กลางหน้าผากอีก 1 นัดจนมั่นใจว่าเสียชีวิตจึงเดินออกจากร้านไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนสตาร์ทรออยู่ขี่หลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือเหตุล้างแค้นส่วนตัว
ดักบึ้มรถหุ้มเกราะ-ทหารปลอดภัย
เวลา 14.15 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 35 กำลังพล 5 นาย ขณะเดินทางโดยรถกระบะหุ้มเกราะมุ่งหน้ากลับที่ตั้ง เหตุเกิดบนถนนสาย 4115 (แว้ง-สุคิริน) บ้านกรือซอ หมู่ 4 ต.แว้ง อ.แว้ง จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้รถได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และพบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ยังไม่ทราบวิธีการจุดชนวน โดยคนร้ายนำระเบิดไปวางดักไว้ริมถนนแบบเร่งด่วน สันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
รวบเครือข่ายค้ายาเสพติดสั่งการจากเรือนจำ
ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (บก.ภ.จว.ปัตตานี) พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.จีรวัฒน์ อุดมสุด รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่เชื่อมโยงกับนักค้ายาเสพติดจากภาคเหนือ และห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน
โดยผู้ต้องหามี 3 ราย คือ นายกูมะอัซฮา หรือ ฮา นาราวงศ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 หมู่ 6 ต.กะดูนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี น.ส.แสงเดือน สงคราม อายุ 28 ปี ภรรยาของนายกูมะอัชฮา อยู่บ้านเลขที่ 8/13 หมู่ 7 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต และ นักโทษชาย (นช.) ต่วนโซ๊ะ เจะอูเซ็น อายุ 30 ปี เป็นนักโทษเรือนจำกลางจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยของกลางยาบ้ารวม 121,000 เม็ด และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดย นช.ต่วนโซ๊ะ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เป็นผู้สั่งการให้มีการขนย้ายยาบ้า จึงติดตามจับกุมได้ยกแก๊ง
ฆ่าสองพี่น้องคนงานก่อสร้างที่หนองจิก
สำหรับสถานการณ์เมื่อวันพุธที่ 13 ก.ค. เวลา 08.25 น. พ.ต.ต.วีระชาติ คูหามุข สารวัตรเวร สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนประกบยิงสองพี่น้องบนถนนในหมู่บ้าน ระหว่างบ้านท่าด่าน-บ้านดอนรัก ท้องที่หมู่ 2 บ้านท่าด่าน ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิสีเขียวอ่อน หมายเลขทะเบียน กพฉ 702 ปัตตานี ล้มคว่ำอยู่ข้างถนน ข้างๆ กันพบศพ นายเจิบ ชูแว่น อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/1 หมู่ 3 บ้านท่าด่าน ต.ดอนรัก ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ที่กลางหลัง 2 นัด เสียชีวิตคาที่ ส่วน นายวรศักดิ์ ชูแว่น อายุ 32 ปี น้องชายของนายเจิบ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดและขนาดเดียวกันเข้าที่กลาง ได้รับบาดเจ็บสาหัส พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลปัตตานีไปก่อนแล้ว แต่นายวรศักดิ์ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนพกขนาด 9 มม.จำนวน 3 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ผู้ตายทั้ง 2 คนมีอาชีพทำงานก่อสร้าง ก่อนเกิดเหตุนายเจิบได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน โดยมีนายวรศักดิ์น้องชายนั่งซ้อนท้ายเพื่อไปทำงานในเขต อ.เมืองปัตตานี เมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ เมื่อได้จังหวะคนที่นั่งซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ออกมากระหน่ำยิงใส่ทั้งคู่ ทำให้รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ และสองพี่น้องเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนคนร้ายได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร โดยตั้งประเด็นไว้ว่าอาจเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบหรือเหตุขัดแย้งส่วนตัว
มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนยะลาเหยื่ออุบัติเหตุ
ด้านความคืบหน้าเด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครยะลา เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลดรถตู้โดยสารชนประสานงากับรถบรรทุกไม้ยางพารา บนถนนสายเอเซีย ท้องที่หมู่ 9 ต.คลองฉนวน อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต 7 ราย คนขับรถตู้ 1 ราย และมีนักเรียนได้รับบาดเจ็บอีก 12 คน ซึ่งล่าสุดทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตไปอีกคนนั้น
เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ก.ค.54 ที่ห้องประชุมโรงเรียนเทศบาล 5 (บ้านตลาดเก่า) ในเขตเทศบาลนครยะลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นางขนิษฐา บุญราช นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา นายพงศักดิ์ ยิ่งชนเจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา นางสิริกร หวังธรรมวงศ์ ผู้แทนบริษัท ดานอน เนชั่น คลับ ไทยแลนด์ จำกัด นายศุภชัย ตัณฑสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามสปอร์ตมีเดีย แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้ร่วมกันทำพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด
------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 เจ้าหน้าที่ทหารเข้าประจำจุดรักษาความปลอดภัยรอบบริเวณวัดทั่วทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษา
2 พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร
3 นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา มอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวนักเรียนเหยื่ออุบัติเหตุที่สุราษฎร์
ขอบคุณ : ข่าวจาก จ.ปัตตานี โดย ปาเรซ โลหะสัณห์ ผู้สื่อข่าวเครือเนชั่นประจำจังหวัดปัตตานี