"ประชา"คุมความมั่นคง-สั่งลุยเจรจา "ยุทธศักดิ์"เดินหน้าคุยลับดับไฟใต้
"ประชา พรหมนอก" นั่งเก้าอี้รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงคนใหม่ หนุนเจรจาบีอาร์เอ็น ชี้เป็นอีกหนึ่งช่องทางแก้ไขปัญหา ขณะที่ "ยุทธศักดิ์" เชียร์พูดคุยทางลับ พร้อมลุ้นเก้าอี้ใน ศปก.กปต.หวังมีบทบาทในภารกิจดับไฟใต้ ที่ปรึกษา สมช.แย้มคุยลับอีกหลายกลุ่มไม่ผ่านมาเลย์ ใต้ป่วนรายวัน บึ้ม 2 ลูกซ้อนที่บันนังสตาโชคดีกู้ได้ 1 จุด
นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงแทน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกฯ ที่ถูกปรับไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากการแบ่งงานให้รองนายกรัฐมนตรีภายหลังปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีถึง 7 คน
รายนามรองนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง
พล.ต.อ.ประชา ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลงานด้านความมั่นคงโดยรวม ส่วนการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ได้รับมอบหมายจากนายกฯให้กำกับดูแล ศอ.บต. และพื้นที่ห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ผอ.ศปก.กปต.นั้น ยังไม่ได้รับมอบหมาย ต้องรอนายกฯเรียกประชุม ศปก.กปต.ก่อน
สำหรับการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นจะยังคงเดินหน้าต่อไปหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า การพูดคุยเป็นเรื่องที่ดี และน่าจะพูดคุยกันต่อไป ส่วนจะสำเร็จหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคต อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.ประชา ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นว่าการพูดคุยควรดำเนินการแบบเปิดเผยหรือปิดลับ โดยบอกว่าต้องหารือรายละเอียดกับผู้รับผิดชอบก่อน รวมถึงข้อเสนอให้เปลี่ยนตัวบุคคลที่จะพูดคุยด้วย
ต่อข้อถามถึงเหตุการณ์รุนแรงรายวัน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ทางใต้เกิดขึ้นมานานแล้ว จึงเป็นเหตุปกติที่จะเกิดขึ้น แต่เรามี 2 ส่วนที่จะแก้ปัญหา ส่วนแรกคือพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ กับส่วนที่สองคือการระงับยับยั้ง ซึ่งภาครัฐก็ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
"ยุทธศักดิ์"เดินหน้าคุยลับ-ลุ้นเก้าอี้ ศปก.กปต.
ด้าน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (รมช.กลาโหม) กล่าวว่า การพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นเรื่องระดับนโยบายที่ ศอ.บต.กับ สมช.รับผิดชอบ ส่วนรัฐบาลจะพิจารณาอีกครั้งภายหลังเดือนรอมฎอน แต่คงต้องยึดไว้ เพราะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะนำไปสู่เป้าหมายคือความสงบสุข
"คิดว่าจะต้องมีการพูดคุยทางลับด้วย ไม่ใช่คุยทางเปิดอย่างเดียว เพราะถ้าคุยทางเปิดจะได้แค่บางกลุ่ม ถ้าคุยทางลับจะได้หลายกลุ่ม แต่ต้องให้ผมเข้าไปทำงานก่อน เพราะไม่รู้ว่าเมื่อเข้าไปทำงานที่กระทรวงกลาโหมแล้วเขาจะตั้งให้เป็นตำแหน่งอะไรใน กอ.รมน. (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร) แต่ถ้ามีตำแหน่งใน ศปก.กปต.ก็จะดี" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ระบุ
ส่วนเหตุลอบวางระเบิดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า นายกฯได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานเปลี่ยนถังแก๊สจากโลหะเป็นอย่างอื่นเพื่อป้องกันการนำไปประกอบระเบิด นอกจากนี้ ท่อระบายน้ำต่างๆ ตามถนนก็สั่งให้ปิดทั้งหมด รวมทั้งสั่งให้กระทรวงคมนาคมถางหญ้าข้างถนนทุกสายให้มีพื้นที่กว้างประมาณ 10 เมตรด้วย
ที่ปรึกษา สมช.อ้างคุยลับหลายกลุ่มไม่ผ่านมาเลย์
พ.อ.จรูญ อำภา ที่ปรึกษา สมช. กล่าวถึงเงื่อนไขใหม่ 7-8 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็นว่า ขณะนี้ สมช.อยู่ในระหว่างการปรึกษาหารือ โดยได้นำข้อเรียกร้องของกลุ่มบีอาร์เอ็นทั้งหมดไปหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อยุติให้ลงตัวมากที่สุด โดยหลังเดือนรอมฎอนจะมีคำตอบต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว แต่เรื่องถอนทหารคงไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นผืนแผ่นดินไทย
ส่วนการพูดคุยสันติภาพนั้น สมช.ยินดีเปิดรับพูดคุยกับกลุ่มอื่นเพิ่มเติม เพราะบางกลุ่มอาจไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของบีอาร์เอ็น ซึ่งขณะนี้ในทางลับก็ได้พูดคุยกับหลายกลุ่มแล้วโดยไม่ผ่านตัวกลางอย่างประเทศมาเลเซีย
วางบึ้ม 2 ลูกซ้อน-กู้ได้ 1 ที่บันนังสตา
ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันพุธที่ 3 ก.ค.2556 เวลาประมาณ 06.30 น. พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัย ลักษณะเป็นกล่องกระดาษห่อด้วยผ้ามิดชิด วางอยู่บริเวณใต้เพิงขายข้าวยำหน้าร้านเอสอิเลคทรอนิกส์ ซึ่งเป็นร้านของ นายประเสริฐ ตอแลมา อายุ 55 ปี เลขที่ 178 ถนนสุขยางค์ ในเขตเทศบาลตำบลบันนังสตา ซึ่งเป็นปากทางเข้าวัดเนรัญชลาวาส จึงได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เข้าเก็บกู้
อย่างไรก็ดี ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังปิดล้อมพื้นที่ ได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดทำให้เพิงขายข้าวยำพังเสียหาย สะเก็ดระเบิดกระเด็นไปถูก ส.ต.ท.ประวิทย์ อินทร์ไหม อายุ 27 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม (ผบ.หมู่ ป) สภ.บันนังสตา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางสาวียะ ตอแลมา อายุ 51 ปี เจ้าของเพิงขายข้าวยำ ซึ่งเป็นภรรยาของนายประเสริฐ ได้นำหม้อข้าวและอุปกรณ์ต่างๆ ออกจากบ้านมาเตรียมขายข้าวยำในช่วงเช้า และสังเกตเห็นวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ จึงได้เข้าไปขยับ พบว่าหนักผิดปกติ จึงรีบแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบจนเกิดระเบิดขึ้นดังกล่าว โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 3-5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ
ห่างจากจุดเกิดเหตุจุดแรกประมาณ 150 เมตร คนร้ายได้นำระเบิดชนิดแสงเครื่องน้ำหนัก 3-5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือเช่นกัน ซุกไว้ในกระสอบทรายสีเขียวขี้ม้า วางปะปนกับกระสอบทรายบริเวณบังเกอร์ของทหารบริเวณด้านข้างธนาคารกรุงไทย สาขาบันนังสตา เจ้าหน้าที่จึงเก็บกู้เอาไว้ได้อย่างปลอดภัย โดยระหว่างนั้นคนร้ายพยายามโทรศัพท์เข้ามายังตัวจุดชนวนหลายครั้งหวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ตัดวงจรเรียบร้อยแล้วจึงไม่เกิดการระเบิด
บึ้ม อส.เจาะไอร้องบาดเจ็บ 2 นาย
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอังคารที่ 2 ก.ค.เวลา 11.15 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส บนถนนจารุเสถียร ท้องที่รอยต่อบ้านศาลา หมู่ 4 กับ บ้านโคก หมู่ 5 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ขณะกำลังพลของ อส.กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับฐานหลังเสร็จภารกิจลาดตระเวนเดินเท้าเพื่อรักษาความปลอดภัยเส้นทางให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสที่เดินทางไปเปิดการแข่งขันกีฬาที่ อ.เจาะไอร้อง
ทั้งนี้ แรงระเบิดทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 นาย คือ นายอีซอ ลาเต๊ะ อายุ 57 ปี และ นายยูฮารี วาหลง อายุ 28 ปี โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง บรรจุในกล่องเหล็ก จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร วางแบบเร่งด่วนข้างถนน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ส่วนเมื่อวันจันทร์ที่ 1 ก.ค. เวลา 21.50 น. เกิดระเบิดบริเวณฝั่งตรงข้ามโรงเรียนบ้านแป๊ะบุญ หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายวางดักทำร้ายเจ้าหน้าที่ แต่เกิดทำงานก่อนเวลา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯความมั่นคงคนใหม่
2 ระเบิดแสวงเครื่องที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้สำเร็จที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
ขอบคุณ :
1 เนื้อหาข่าวบางส่วนจากสำนักข่าวเนชั่น
2 ภาพ พล.ต.อ.ประชา จากศูนย์ภาพเนชั่น