ศาลผู้ดีชี้"จีที 200"ลวงโลก ไทยสูญพันล้าน "อังคณา"จี้ขอโทษคนสามจังหวัด
นักธุรกิจชาวอังกฤษเจ้าของบริษัทผู้ผลิตและจำหน่าย "จีที 200" ถูกศาลตัดสินมีความผิดฐานฉ้อโกง ดีเอสไอเผยสำนักงานสืบสวนสอบสวนของอังกฤษ ยัน บริษัทแม่ปลอมหนังสือรับรองคุณภาพหลอกขายไทย แฉความเสียหาย 13 หน่วยงานซื้อ 1,358 เครื่อง มูลค่า 1.1 พันล้าน ราคาจริงแค่ 600 ป.ป.ช.ขอ 2 เดือนสรุปแจ้งข้อหาใครบ้าง "อังคณา" จี้กองทัพขอโทษคนสามจังหวัด
นักธุรกิจชาวอังกฤษที่ทำเงินได้หลายล้านดอลลาร์จากการขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดและสารประกอบระเบิดปลอมให้แก่ประเทศต่างๆ อาจถูกลงโทษจำคุกในเดือนหน้า หลังจากถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกง 3 กระทง
นายเจมส์ แมคคอร์มิก วัย 65 ปี ผลิตและจำหน่ายเครื่อง เอดีอี 651 หรือที่เรียกกันว่า "จีที 200" ให้แก่ประเทศต่างๆ อย่างอิรัก รวมทั้งประเทศไทย โดยอ้างว่าสามารถตรวจจับระเบิด ยาเสพติด และสารอื่นๆ ได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าจริงๆ แล้วเครื่องดังกล่าวทำมาจากอุปกรณ์ตรวจหาลูกกอล์ฟ ไม่มีหลักการด้านวิทยาศาสตร์ และไม่ได้ทำงานตามกฎฟิสิกส์
อัยการระบุว่า นายแมคคอร์มิกซึ่งเคยเป็นตำรวจและเซลส์แมนทราบดีว่าอุปกรณ์ดังกล่าวใช้ไม่ได้ผล แต่บริษัทของนายแมคคอร์มิกอ้างว่าอุปกรณ์ชนิดนี้สามารถตรวจจับสิ่งต่างๆ ได้ ศาลจะตัดสินโทษของเขาในวันที่ 2 พ.ค.
ระหว่างการขึ้นศาล นายแมคคอร์มิก กล่าวว่า ได้ขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดให้แก่หน่วยตำรวจในเคนยา เจ้าหน้าที่เรือนจำในฮ่องกง กองทัพอียิปต์ และหน่วยตรวจตราชายแดนของไทย ทั้งยังขายให้ไนเจอร์และจอร์เจียด้วย โดยเขาไม่เคยได้รับรายงานแง่ลบจากลูกค้า และว่าอุปกรณ์ดังกล่าวใช้ได้ผล
อุปกรณ์เอดีอี 651 หรือ จีที 200 ถูกตั้งราคาไว้ถึงชิ้นละ 27,000 ปอนด์ หรือ 41,000 ดอลลาร์ (กว่า 1 ล้านบาท) และได้รับการโฆษณาว่าสามารถตรวจจับสิ่งที่ซุกซ่อนทุกชนิดในรัศมี 1 กิโลเมตร รวมทั้งใต้ดิน 5 กิโลเมตรในอากาศ และ 31 เมตรในน้ำ
ช่วงปี 2551-2553 อิรักซื้ออุปกรณ์นี้ไป 6,000 เครื่องในราคามากกว่า 40 ล้านดอลลาร์ นักสืบไนเจล ร็อค กล่าวว่า อุปกรณ์ดังกล่าวถูกนำไปใช้ตามจุดตรวจต่างๆ ในอิรักในช่วงนั้น ชัดเจนว่าการพึ่งพาอุปกรณ์นี้ทำให้ทั้งพลเรือนและทหารตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างยิ่ง
นอกจากนั้น นักสืบร็อค ยังกล่าวบริเวณด้านหน้าศาลว่า นายแมคคอร์มิกเป็นพวกต้มตุ๋น อุปกรณ์ชนิดนี้ถูกนำไปใช้และยังใช้งานตามจุดตรวจต่างๆ เพราะคนที่ใช้อุปกรณ์นี้เชื่อว่าใช้งานได้ ทั้งที่ใช้ไม่ได้
สำนักข่าวเพรสส์แอสโซซิเอชันของอังกฤษ รายงานอ้างคำกล่าวของอัยการที่ว่า เครื่องตรวจจับดังกล่าวยึดต้นแบบมาจากเครื่องหาลูกกอล์ฟซึ่งสามารถซื้อในสหรัฐได้ในราคาไม่ถึง 20 ดอลลาร์ (ราว 600 บาท)
ไทยซื้อ 1.3 พันเครื่อง-สูญ 1.1 พันล้าน
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีฉ้อโกงจัดซื้อเครื่องจีที 200 และอัลฟ่า 6 ว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2556 คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้มีมติรับคดีดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากบริษัทเอกชนได้เสนอขายเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 และ อัลฟ่า 6 ที่ไม่มีประสิทธิภาพให้กับหน่วยราชการของไทย 13 หน่วยงาน จำนวน 1,358 เครื่อง รวมมูลค่าความเสียหาย 1,137,588,990 บาท
ทั้งนี้ ในการสอบสวนของดีเอสไอได้สอบปากคำผู้กล่าวหา พยานบุคคลที่เป็นคณะกรรมการจัดซื้อและคณะกรรมการตรวจรับ ตลอดจนพยานผู้ใช้เครื่องประมาณ 90 ปาก ให้การยืนยันว่าเครื่องมือทั้ง 2 ชนิดไม่มีประสิทธิภาพและไม่สามารถใช้งานได้จริง นอกจากนี้ยังมีรายงานผลการดำเนินงานการทดสอบประสิทธิภาพเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดและยาเสพติดระยะไกลของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ได้ทำการทดสอบยืนยันว่า เครื่องจีที 200 และอัลฟ่า 6 ไม่มีประสิทธิภาพด้วย
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่จัดซื้อเครื่องมือดังกล่าวเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัทจัดจำหน่ายเครื่องจีที 200 และอัลฟ่า 6 ในข้อหาฉ้อโกง แต่กลับไม่ค่อยมีหน่วยงานใดเข้าให้ข้อมูลมากนัก โดยเฉพาะกองทัพที่เป็นลูกค้ารายสำคัญเนื่องจากจัดซื้อเครื่องจีที 200 ไปเป็นจำนวนมาก และนำไปใช้ในภารกิจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
หลักฐานชัดบริษัทจัดฉากหลอกขาย
พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังแยกสำนวนในส่วนการจัดซื้อเครื่องจีที 200 และอัลฟ่า 6 ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนแล้ว ในส่วนดีเอสไอยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานในคดีฉ้อโกงเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงในส่วนของการอนุมัติจัดซื้อ การเขียนทีโออาร์ ซึ่งเป็นการล็อคสเปคซื้อโดยไม่มีสินค้าอื่นมาเปรียบเทียบคุณภาพ รวมถึงการสอบสวนถึงความเชื่อมโยงทางการเงิน
นอกจากนั้นยังพบข้อมูลว่า ในขั้นตอนการตรวจรับอุปกรณ์ บริษัทแม่ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องจีที 200 และอัลฟ่า 6 จะเป็นผู้จัดหาและนำเจ้าหน้าที่เก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) มาเอง เพื่อจัดฉากในขั้นตอนการทดสอบใช้อุปกรณ์ค้นหาวัตถุระเบิด จึงสอดรับว่าบริษัทผู้ผลิตจงใจและเตรียมแผนการเพื่อหลอกลวงขายสินค้ามาตั้งแต่ต้น
ปลอมหนังสือรับรองคุณภาพหลอกขายไทย
ทั้งนี้ ดีเอสไอยังได้ประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสำนักงานสืบสวนสอบสวนของประเทศอังกฤษ หรือ โซก้า (SOKA) โดยที่ผ่านมามีการประชุมร่วมกัน 2 ครั้ง ทางโซการับปากจะส่งรายชื่อบัญชีพยานในคดีให้ดีเอสไอเพื่อแจ้งกลับไปยังโซก้าว่าฝ่ายไทยต้องการพยานหลักฐานในส่วนใดสำหรับนำมาประกอบสำนวนคดีบ้าง เมื่อได้ความชัดเจนดีเอสไอจะใช้ช่องทางความร่วมมือระหว่างประเทศว่าด้วยเรื่องทางอาญา (MLAT) เพื่อขอให้จัดส่งเอกสารหลักฐานอย่างเป็นทางการ
"ล่าสุดโซก้าได้ยืนยันมายังดีเอสไอแล้วว่า หนังสือรับรองคุณภาพเครื่องจีที 200 และอัลฟ่า 6 จากกระทรวงกลาโหมของประเทศอังกฤษและเนเธอร์แลนด์ที่บริษัทคอมส์แทร็ค จำกัด ประเทศอังกฤษ (Comstrac Co., Ltd) นำมาประกอบในการเสนอขายให้กับหน่วยราชการไทยนั้นเป็นเอกสารปลอม นอกจากนี้โซก้ายังติดต่อให้ทางการไทยเดินทางไปเบิกความต่อศาลอังกฤษในฐานะประเทศผู้เสียหายจากการถูก บริษัท คอมส์แทร็คฯ ฉ้อโกงและหลอกลวงขายเครื่องจีที 200 และอัลฟ่า 6 ด้วย"
2 ผู้แทนจำหน่ายยังเปิดกิจการอยู่
พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ กล่าวอีกว่า กรณีที่ศาลอังกฤษตัดสินว่า นายเจมส์ แมคคอร์มิก เจ้าของบริษัทคอมส์แทร็คฯ มีความผิดจริงฐานฉ้อโกงนั้น จริงๆ ยังเป็นแค่คดีแรก เพราะยังเหลือคดีความอีกจำนวนมากที่อัยการอังกฤษยื่นฟ้องดำเนินคดี เนื่องจากมีการหลอกลวงขายอุปกรณ์ให้กับหลายประเทศ
ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินนั้น พบว่าผลประโยชน์ส่วนใหญ่ในการขายเครื่องจีที 200 และอัลฟ่า 6 ถูกส่งไปให้กับบริษัท คอมส์แทร็คฯ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในประเทศอังกฤษ ส่วนตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยได้รับส่วนแบ่งจากการขาย โดยบริษัทคอมส์แทร็คฯได้แต่งตั้งบริษัทเอกชน 2 แห่งเป็นตัวแทนและผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ คือ บริษัท ยูซีจี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และ บริษัท แจ๊คสัน อิเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและผู้นำเข้า ปัจจุบันพบว่าทั้ง 2 บริษัทยังเปิดดำเนินการอยู่ โดยประกอบธุรกิจขายเครื่องมือและอุปกรณ์พิเศษให้กับหน่วยงานต่างๆ
อนึ่ง การตรวจสอบของดีเอสไอพบว่า การจัดซื้อเครื่องจีที 200 และอัลฟ่า 6 มีการกระทำความผิด 4 ลักษณะ คือ ฉ้อโกง ใช้เอกสารเท็จ ฮั้วประมูล และจัดซื้อแพงเกินจริง โดยมี 13 หน่วยงานเป็นผู้จัดซื้อและครอบครองอุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิดดังกล่าว ราคาการจัดซื้อแต่ละครั้งไม่เท่ากัน โดยราคาต่อเรื่องต่ำสุดเครื่องละ 424,800 บาท และสูงสุดเครื่องละ 1,850,588 บาท
ป.ป.ช.ขอ2เดือนสรุปแจ้งข้อหาใครบ้าง
ด้าน นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดจีที 200 และอัลฟ่า 6 กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีว่า มีความคืบหน้าพอสมควร โดย ป.ป.ช.ได้เรียกเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องจีที 200 และอัลฟ่า 6 ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยราชการที่ได้รับความเสียหายจากการจัดซื้อเข้าให้ปากคำไปแล้วเกินครึ่ง คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือนจึงจะพิจารณาได้ว่าสามารถแจ้งข้อกล่าวหาใครได้บ้าง
"ในส่วนของคณะอนุกรรมการไต่สวนฯจะไม่ทำเรื่องขอเอกสารหรือพยานหลักฐานใดๆ จากประเทศอังกฤษ เพราะถ้ามีความชัดเจนถึงขั้นศาลอังกฤษตัดสินแล้วก็ถือว่าไม่จำเป็น มิฉะนั้นคดีจะล่าช้ามากขึ้น แต่ก็พร้อมนำข้อมูลคำตัดสินของศาลมาประกอบการพิจารณาให้เป็นประโยชน์ต่อไป" นายวิชัย กล่าว
"อังคณา"จี้กองทัพรับผิดชอบ-ขอโทษ
นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ซึ่งออกมาเปิดโปงปัญหาของเครื่องจีที 200 เป็นคนแรกๆ กล่าวว่า เรื่องจีที 200 เกี่ยวโยงกับปัญหาความยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะการทุจริตจัดซื้อของหน่วยงานรัฐเพียงอย่างเดียว เพราะทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์สูญเสียเสรีภาพ
"ขณะนี้รัฐบาลกำลังไปเจรจาสันติภาพกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ และมีข้อเรียกร้องเรื่องความยุติธรรม แต่รัฐกลับไปคิดถึงแค่การปล่อยตัวนักโทษหรือการพักโทษ ทั้งๆ ที่มีประชาชนอีกจำนวนมากที่ตกเป็นผู้เสียหายจากเครื่องจีที 200 และรัฐไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆ ไม่เคยแม้แต่ขอโทษ จึงอยากให้รัฐโดยเฉพาะกองทัพออกมาขอโทษประชาชนและแสดงความรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย" นางอังคณา กล่าว
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพได้สั่งระงับการใช้เครื่อง จีที 200 ในภารกิจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปนานแล้ว หลังจากมีการทดสอบประสิทธิภาพเครื่องโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และปัจจุบันได้จัดซื้อจัดหาเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับมาใช้แทน คือ เครื่องไฟโด้ (Fido)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ข่าวทั้งหมดยกเว้นสัมภาษณ์ คุณอังคณา นีละไพจิตร จากสำนักข่าวเนชั่นและหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
อ่านประกอบ :
1 เปิดชื่อ 13 หน่วยงานส่อฮั้วซื้อ"จีที 200"แพงหูฉี่
2 ไหนว่าไม่มี! เปิดหลักฐาน "เหยื่อ" ถูก "จีที 200" ชี้-จับ
http://www.isranews.org/south-news/scoop/item/1644-qq-200.html