สรุปรอบสัปดาห์บึ้มถี่ยิบ พลาดเป้า 2 ครั้ง เด็ก-นักเรียน-ชาวบ้านรับเคราะห์
ใต้ป่วนหนักตลอดสัปดาห์ ลอบวางระเบิดถี่ยิบแต่พลาดเป้า 2 ครั้งทำให้นักเรียนหญิง-เด็ก 4 ขวบและชาวบ้านบาดเจ็บระนาว กับระเบิดแบบเหยียบโผล่อีก 2 จุด ลูกจ้างการทางฯ-วัวของชาวสวนยางรับเคราะห์ ขณะที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ายันจับ 6 ผู้ต้องหายิงทหาร 4 ศพที่มายอ สารภาพแล้ว 4 ราย เชื่อแก๊งเดียวกับที่ก่อเหตุคาร์บอมบ์สายบุรี
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลอบวางระเบิด แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ามีหลายครั้งที่เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น เพราะผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้รับบาดเจ็บคือประชาชนและเด็กนักเรียน
บึ้มพลาด-ชาวบ้านเจ็บ 4 เด็ก 4 ขวบโดนด้วย
วันศุกร์ที่ 28 ก.ย.2555 เวลา 18.10 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดบริเวณใต้สะพานลอยข้ามถนน บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ท้องที่บ้านบาตู หมู่ 6 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เป็นประชาชนทั้งหมด ประกอบด้วย
1.นายซอบรี สาและ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 335 หมู่ 6 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ
2.นางไซก๊ะ รอแง อายุ 28 ปี ภรรยาของนายซอบรี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 1 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ
3.ด.ช.อีสกานดาร์ สาและ อายุ 4 ปี บุตรของนายซอบรีและนางไซก๊ะ อยู่บ้านเลขที่ 93/2 หมู่ 1 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ
4.นายหมัดฮาซัน บิง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 4 ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และสอบสวนจนทราบว่า ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 กำลังอยู่ระหว่างการซ่อมแซมโดยเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง หลังจากเสร็จงานเจ้าหน้าที่ได้นำรถไปจอดบริเวณใต้สะพานลอย จากนั้นมีคนร้ายลอบนำวัตถุระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกล่องเหล็กขึ้นรูปไปวางไว้ใกล้ๆ กับจุดจอดรถดังกล่าวเพื่อลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่
ต่อมาชุดปฏิบัติตำรวจ สภ.ปะลุกาสาเมาะ นั่งรถกระบะสายตรวจผ่านจุดเกิดเหตุ เพื่อไปตั้งด่านตรวจบริเวณป้อมจุดตรวจต้นไทร เมื่อรถแล่นผ่านคนร้ายได้พยายามใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิด แต่ระเบิดทำงานผิดพลาดล่าช้า ทำให้ชาวบ้านที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมาโดนสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บแทน โดยเฉพาะครอบครัวของนายซอบรีซึ่งมีลูกเล็กๆ อายุเพียง 4 ขวบด้วย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ดักระเบิด จนท.แต่โดนรถนักเรียนเจ็บ 2
เช้าวันพฤหัสบดีที่ 27 ก.ย.2555 พ.ต.ต.วันชัย นนท์อ่อน สารวัตรเวร สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดบริเวณคอสะพาน บนถนนในหมู่บ้านบูเก๊ะปาลัส หมู่ 4 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ ทำให้นักเรียนโรงเรียนร่มเกล้าที่นั่งมาในรถรับส่งนักเรียนได้รับบาดเจ็บ 2 ราย จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถบัส 6 ล้อยี่ห้ออีซูซุ สีเหลืองตัดชมพู หมายเลขทะเบียน ม-0655 นราธิวาส ซึ่งเป็นรถรับส่งนักเรียนของโรงเรียนร่มเกล้า จอดเสียหลักห่างจากคอสะพานประมาณ 10 เมตร สภาพรถถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหาย ยางหน้าด้านซ้ายแตก และตัวถังมีรูพรุน ภายในรถพบกองเลือดบริเวณประตูหน้า โดยผู้ได้รับบาดเจ็บมีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลยี่งอไปก่อนแล้ว ส่วนระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่องแบบเครโม ประกอบใส่ในกล่องเหล็กน้ำหนัก 10 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ วางไว้บนกองทรายใกล้ราวสะพาน และยังมีการเขียนข้อความเย้ยหยันเจ้าหน้าที่เอาไว้ด้วย
ทั้งนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 รายเป็นนักเรียนโรงเรียนร่มเกล้าทั้งคู่ ทราบชื่อคือ ด.ญ.สีตีนูรียะ บากา อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ น.ส.นาเดีย เจ๊ะฮามะ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แพทย์โรงพยาบาลยี่งอทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
สอบสวน นายเอกพงศ์ สามุ อายุ 58 ปี คนขับรถโรงเรียน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถบัสออกจากโรงเรียนเพื่อตระเวนรับนักเรียนจำนวน 70 คนเพื่อไปส่งเข้าโรงเรียน โดยมีรถกระบะของทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ขับนำหน้า เมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซึ่งแฝงตัวอยู่ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่นำไปวางไว้บริเวณคอสะพานเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร แต่ระเบิดพลาดเป้าไปสร้างความเสียหายให้กับรถบัสรับส่งนักเรียนแทน ทำให้นักเรียน 2 คนที่นั่งบริเวณประตูหน้าถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เผยผู้ช่วยครูใหญ่เคยถูกยิงดับ-ผอ.เจ็บ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บริหารโรงเรียนร่มเกล้าประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวทันที โดยบุคลากรของโรงเรียนแห่งนี้เคยมีประวัติถูกลอบทำร้ายมาแล้ว คือกรณีของ นางวรุณ ทองเอียด อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนร่มเกล้า ถูกคนร้ายประกบยิงเสียชีวิตขณะขับรถยนต์ออกจากโรงเรียนไปทำธุระ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2554 โดยมี นายสกุล ทองเอียด อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนร่มเกล้า ผู้เป็นสามีนั่งไปด้วย และถูกยิงได้รับบาดเจ็บ
กับระเบิดโผล่อีก "คน-วัว" พลาดเหยียบเจ็บระนาว
เช้ามืดของวันพฤหัสบดีที่ 27 ก.ย.เกิดระเบิดขึ้นในสวนยางพารา ท้องที่หมู่ 4 บ้านลีเซ็ง ต.จะกว๊ะ อ.รามัน แรงระเบิดทำให้วัวของชาวบ้านบาดเจ็บ 1 ตัว ต่อมาในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและพบว่าสวนยางพาราที่เกิดเหตุเป็นของ นายถาวร พุฒนิล อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 252 หมู่ 5 ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2553 นายทวัณ พุฒนิล อายุ 30 ปี บุตรชายของนายถาวร ก็เคยพลาดเหยียบกับระเบิดของคนร้ายขณะไปกรีดยางจนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว
ส่วนที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส วันอังคารที่ 25 ก.ย.เวลา 13.30 น.ขณะที่ นายมะนาปี หามะ อายุ 40 ปี ลูกจ้างหมวดการทางอำเภอรือเสาะ พร้อมพวกอีก 4-5 คนกำลังตัดหญ้าบริเวณสองข้างทางริมทางหลวงหมายเลข 4067 สายบ้านท่าเรือ-บ้านบาตง ท้องที่บ้านท่าเรือ หมู่ 1 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ อยู่นั้น ปรากฏว่า นายมะนาปี ได้พลาดไปเหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายนำไปฝังไว้โคนต้นไม้ แรงระเบิดทำให้นายมะนาปีได้รับบาดเจ็บสาหัส ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกระป๋องปลากระป๋อง คาดว่านำมาวางไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2555 ที่มีการปักธงชาติมาเลเซียและวางวัตถุต้องสงสัยเกือบ 300 จุดในพื้นที่
บึ้มในโรงเรียน "ครู-ทหาร" หวิดสิ้นชื่อ
วันจันทร์ที่ 24 ก.ย.เวลา 09.20 น.เกิดระเบิดขึ้นภายในโรงเรียนบ้านบาตู ตั้งอยู่หมู่ 6 ต.ต้นไทร อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนและเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บรวม 4 ราย
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ซุกไว้ใต้ม้านั่งหินอ่อนในศาลาที่พักภายในโรงเรียน จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ โดยขณะเกิดเหตุ นายกอเดร์ แลแมแน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบาตู นายมะ ดือราแม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบือแนปีแย ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ พลทหารวัฒนา ศรีเดช และ พลทหารภานุวัฒน์ ชินรักษ์ สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 กำลังนั่งคุยกันอยู่ที่ม้านั่งหินอ่อน ทำให้ทั้งหมดถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ยิงดับสามีภรรยาในกระท่อมกลางป่ายางรามัน
สำหรับเหตุรุนแรงอื่นๆ ในรอบสัปดาห์ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ โดยเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 28 ก.ย.เจ้าหน้าที่พบศพ นายมูดอ มะลี อายุ 60 ปี และ นางสะมา โซ๊ะสู อายุ 61 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน อยู่บ้านเลขที่ 298/2 หมู่ 3 ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในกระท่อมกลางสวนยางพารา ในท้องที่บ้านบาลอ หมู่ 1 ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา คาดว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.คืนวันพฤหัสบดีที่ 27 ก.ย.เบื้องต้นตำรวจยังไมสรุปสาเหตุการสังหาร
ค่ำวันเดียวกัน คนร้ายลอบวางระเบิดตู้ควบคุมไฟฟ้าส่องสว่างริม ตรงข้ามกับร้านอาหารตามสั่งฟรีดาวน์ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่แรงระเบิดทำให้ตู้ควบคุมไฟฟ้าส่องสว่างถนนได้รับความเสียหาย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ประกบยิง อรบ.ดับคาถนน-ชิงปืน
วันอังคารที่ 25 ก.ย.เวลา 14.20 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดประกบยิง นายเจะหยอ ดา อายุ 59 ปี ลูกจ้างโครงการสร้างงานและจ้างงานเร่งด่วน ทั้งยังเป็นอาสารักษาความสงบเรียบร้อยหมู่บ้าน (อรบ.) อยู่บ้านเลขที่ 110 บ้านตูกู หมู่ 2 ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิตคาที่ขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายอูแบ–บาลูกา บ้านปาแลใต้ หมู่ 4 ต.ยะต๊ะ หลังจากไปส่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านยะต๊ะ กำลังมุ่งหน้ากลับโรงเรียน โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ของนายเจะหยอหลบหนีไปด้วย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 20.30 น.วันเดียวกัน คนร้าย 3 คนมีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มบ้านเลขที่ 62/3 บ้านโคกโหนด หมู่ 3 ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นของ นายยูโซ๊ะ สาแม อายุ 57 ปี ได้รับความเสียหาย โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ
รวบ 6 ผู้ต้องหายิงทหารมายอ-แฉแก๊งเดียวกับคาร์บอมบ์สายบุรี
ด้านผลการปฏิบัติของฝ่ายความมั่นคง เมื่อวันอังคารที่ 25 ก.ย.2555 พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.) แถลงความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบยิงเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 เสียชีวิต 4 นายที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อวันเสาร์ที่ 28 ก.ค.2555 ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีกลุ่มคนร้ายใช้รถกระบะ 3 คันเป็นพาหนะ จากการรวบรวมพยานหลักฐานและวัตถุพยาน รวมทั้งขยายผลจากการซักถามทำให้ทราบจำนวนผู้ที่ร่วมในการก่อเหตุแล้วอย่างน้อย 19 คน ได้ขออนุมัติออกหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) แล้วจำนวน 11 คน และสามารถควบคุมตัวได้แล้ว 6 คน ดังนี้
1.นายมะซาฮาพี มีทอ 2.นายกอร์เด เจะแต 3.นายนิมูหัมมัด นิเซ็ง 4.นายฮิซบุลอฮ บือซา 5.นายอิสมาแอ ดาโอง และ 6.นายมุสรอ ยาลา ทั้งนี้ผู้ต้องหา 4 ใน 6 รายดังกล่าวได้ให้การรับสารภาพว่าร่วมก่อเหตุจริงๆ พร้อมกับสำนึกผิดและขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ไม่ใช้ความรุนแรงในการจับกุม
สำหรับผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 ราย ประกอบด้วย นายมะรูดิน ตาแฮ นายปาตะ ลาเต๊ะ นายอับดุลฮาดี ดาหะเล็ง นายนิอิดือเระ เจะแห และ นายอาหาหมัด ดือราแม
ส่วนการติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุคาร์บอมบ์ในเขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า เป็นเครือข่ายเดียวกับคนร้ายที่ก่อเหตุยิงทหารที่ อ.มายอ
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันจันทร์ที่ 24 ก.ย.ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้แจกจ่ายภาพของ นายอับดุลฮากิม ปูตะ อายุ 36 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 12 หมู่ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงอย่างน้อย 5 คดี และทางการเชื่อว่าเป็นหนึ่งในทีมคนร้ายที่ลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ในเขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี ทั้งนี้เพื่อเฝ้าระวังหากผู้ต้องหารายนี้ลอบเข้าไปกบดานใน อ.หาดใหญ่
ยึดระเบิด 10 กิโลฯรอส่งให้แนวร่วมที่ศรีสาคร
วันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย.เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจากหน่วยเฉพาะกิจอโณทัย เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยบริเวณโคนเสาไฟฟ้า บ้านคอลอกาเว หมู่ 1 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และใช้ปืนน้ำแรงดันสูงยิงทำลาย พบเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในท่อพีวีซี จำนวน 2 ลูก น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม คาดว่าคนร้ายนำวัตถุระเบิดไปวางไว้เพื่อส่งต่อให้เพื่อนสมาชิกก่อความไม่สงบนำไปก่อเหตุในพื้นที่อื่น เนื่องจากไม่พบการต่อวงจรระเบิด
วันเสาร์ที่ 22 ก.ย.เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 สนธิกำลังกับตำรวจ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี และฝ่ายปกครอง เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายในท้องที่หมู่ 6 บ้านระแว้ง อ.ยะรัง และสามารถตรวจยึดยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ ทั้งอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด ประทัดยักษ์ วิทยุสื่อสาร และเครื่องแบบลายพรางทหาร จึงคุมตัวเจ้าของบ้านส่งซักถามยังหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 เนื่องจากยังไม่มีประวัติทางคดี
วันเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายในท้องที่หมู่ 3 ต.วังพญา อ.รามัน จ.ยะลา พบเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง จึงยึดไปตรวจสอบ
ใช้เครื่องบินติดกล้องตามรวบผู้ต้องสงสัยปล้นรถ
วันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย.เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องบินตรวจการณ์ติดกล้องขึ้นบินไล่ล่าและสามารถควบคุมตัว นายอับดุลฮาดี อับดุลเลาะห์ ซึ่งเป็นผู้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ แซดเอ็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎผ 4637 กรุงเทพมหานคร และจอดรถทิ้งไว้ที่ ต.ไพรวัน จ.นราธิวาส ก่อนจะวิ่งหลบหนีเข้าป่าพรุ
ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องติดตามจับกุมนายอับดุลฮาดี ก็เนื่องจากรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าคันดังกล่าว ถูกคนร้าย 4 คนแต่งกายคล้ายทหารพรานปล้นมาจาก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ 19 ก.ย.ขณะที่ นางอุดมลักษณ์ ชาน อายุ 41 ปี ตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทเบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กำลังขับพานางสาวนา (ไม่ทราบนามสกุล) ไปพบสมาชิกที่เป็นเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายสินค้า และหลังเกิดเหตุน้องสาวของ นางอุดมลักษณ์ ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนราธิวาส
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เจ้าหน้าที่เข้าตรวจจุดเกิดเหตุลอบวางกับระเบิดในสวนยางพารา ในท้องที่ อ.รามัน จ.ยะลา โดยในสวนยางมักเป็นป่ารกทึบ ง่ายแก่การลอบทำร้ายด้วยระเบิด (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)