"ยิ่งลักษณ์"ล่องใต้อยู่แต่ในศาลากลาง บึ้มทหารขาขาด-เจ็บระนาว
ใต้ป่วนรับนายกฯล่องใต้ กลุ่มก่อความไม่สงบเขียนป้ายด่าทหารลวงบึ้ม กำลังพลเหยียบกับระเบิดขาขาด-เจ็บระนาว ขณะที่ "ยิ่งลักษณ์" ไปนราฯอยู่แต่ในศาลากลาง นิมนต์พระ-ระดมชาวบ้านเข้าพบ แม่ทัพภาค 4 ยันสถานการณ์ดีขึ้น ด้าน "อภิสิทธิ์-ปชป." ปัดคำเชิญรัฐตั้งวงถกดับไฟใต้ ลุยยื่นญัตติเข้าสภา บี้นายกฯเข้าฟัง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีอีกหลายคน เดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันพุธที่ 5 ก.ย.2555 โดยมุ่งตรงไปที่ศาลากลางจังหวัดซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ ผู้นำศาสนา แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แกนนำสตรี และนักเรียน รอให้การต้อนรับ
ทันทีที่ไปถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปยังห้องรับรอง และพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนั้นได้ร่วมถวายจตุปัจจัยไทยทานแด่พระสงฆ์ 50 รูป จากวัดต่างๆ ในพื้นที่ โดยมี พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส รับประเคนและอำนวยพร
เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีได้เข้าประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายความมั่นคงที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัด โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 4 บรรยายสรุปถึงความคืบหน้าการทำงานแก้ปัญหาความไม่สงบ ซึ่งแม่ทัพยืนยันว่าสถานการณ์ในภาพรวมของปี 2555 ดีขึ้นกว่าปี 2554
หลังเสร็จสิ้นการประชุมซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับศาลากลางจังหวัด เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชนที่มารอต้อนรับ พร้อมกล่าวว่าการเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการลงมาเพื่อให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ และเพื่อติดตามการทำงาน รวมถึงรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ ซึ่งรัฐบาลมีความยินดีที่จะนำแนวทางต่างๆ ที่ได้รับฟังไปปรับใช้เพื่อให้พื้นที่เกิดความสันติสุขโดยเร็ว
โอกาสนี้ ได้มีประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาค่าครองชีพและราคายางพาราตกต่ำ ตลอดจนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบและยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกฯด้วย
ทั้งนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ได้เดินทางกลับกรุงเทพฯในเวลาประมาณ 16.00 น.โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชนในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีเดินทางถึง จ.นราธิวาส ล่าช้ากว่ากำหนดการประมาณ 2 ชั่วโมง โดยหลังจากลงเครื่องบินที่ท่าอากาศยานบ้านทอน อ.เมืองนราธิวาส ก็ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ไปลงใกล้ๆ ศาลากลางจังหวัด เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยรถยนต์ เนื่องจากช่วงสายวันเดียวกัน เกิดเหตุระเบิดขึ้นในเขต อ.เมืองนราธิวาส จนมีทหารได้รับบาดเจ็บหลายนาย ส่วนขากลับนายกฯและคณะขึ้นรถยนต์ไปต่อเครื่องบินที่ท่าอากาศยานบ้านทอน
เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรีแถลงว่า การเดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อต้องการให้กำลังใจประชาชนและรับฟังปัญหา เพื่อให้ส่วนกลางได้ข้อมูลเพิ่มเติมในการสนับสนุน และได้มีโอกาสพบปะพูดจาให้กำลังใจพระสงฆ์ ผู้นำศาสนา ประชาชนทั้งไทยพุทธและมุสลิม รวมทั้งมีโอกาสได้รับฟังปัญหา และเห็นว่าบรรยากาศต่างๆ ในพื้นที่มีค่อนข้างดี มีความรักกัน เห็นแล้วรู้สึกดีใจ พร้อมทั้งย้ำว่าการทำงานแก้ไขปัญหาจะใช้โครงสร้างเดิม คือ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทำงานร่วมกัน โดยมีศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) เป็นองค์กรประสานงานขับเคลื่อน
ลวงบึ้มทหาร รปภ.ถนนขาขาด-เจ็บอีก 3
ด้านสถานการณ์ใน จ.นราธิวาส เกิดเหตุรุนแรงขึ้นหลายเหตุการณ์ช่วงก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเข้าพื้นที่ โดยเมื่อเวลา 10.39 น. ขณะที่ทหารจากกองร้อยปืนเล็กที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 33 นำโดย จ.อ.สุทิน สีม่วง อายุ 45 ปี หัวหน้าชุด นำกำลังพลรวม 6 นายออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเส้นทางบนทางหลวงหมายเลข 4055 โดยใช้รถกระบะเป็นพาหนะอยู่นั้น
ปรากฏว่าเมื่อถึงสี่แยกบายพาส ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส พบป้ายผ้าพ่นสีเขียนข้อความด่าทอเย้ยหยันเจ้าหน้าที่ทหารถูกผูกติดทับป้ายไวนิลประชาสัมพันธ์งานของดีเมืองนราฯ จ.อ.สุทิน จึงสั่งให้หยุดรถเพื่อลงไปตรวจสอบ และพลาดเหยียบกับระเบิดที่คนร้ายฝังดินไว้บริเวณโคนเสาตั้งป้ายจนเกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้ จ.อ.สุทิน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขาดทั้งสองข้าง ส่วนลูกน้องได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ทราบชื่อคือ พลทหารอติพล แซ่จิว พลทหารวัชรพงษ์ นัสดา และ พลทหารเปรมอนันต์ ขวัญทองยิ้ม
ปะทะเดือดรือเสาะ-ผู้ต้องสงสัยดับ 1
ก่อนหน้านั้น ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ได้สนธิกำลังกับทหารพรานจากกรมทหารพรานที่ 49 เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านพัฒนาชาติไทย หมู่ 7 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพื่อติดตามจับกุมสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบ หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีความเคลื่อนไหวอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว ผลการปิดล้อม พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยซ่อนตัวอยู่ในบ้านไม่มีเลขที่ และมีการยิงปะทะกันราว 10 นาที
หลังเสียงปืนสงบ เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ และพบศพ นายอุสมาน บือแต ภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ 6 ต.โคกสะตอ พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้อีก 3 ราย รวมทั้งยึดของกลางเป็นอาวุธปืนพก 2 กระบอก ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก
ปชป.ปัดถกร่วมรัฐบาลหากไร้เงานายกฯ
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านอื่นๆ นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้นำทีม ส.ส.จังหวัดชายแดนภาคใต้ 10 คนของพรรค แถลงเรียกร้องให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ เข้าร่วมเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและบูรณาการด้านการข่าวเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันที่ 7 ก.ย.ตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือเชิญ โดยระบุว่าหาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่ไปร่วม ส.ส.ประชาธิปัตย์ก็จะไม่เดินทางไป
นายถาวร ให้เหตุผลระหว่างการแถลงว่า ร.ต.อ.เฉลิม รวมถึง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ไม่ถือเป็นผู้นำหน่วยงานที่รับผิดชอบ ผิดกับนายกฯ ที่เป็นทั้งผู้อำนวยการ ศอ.บต. และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) ถือเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุด
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ส.ส.ภาคใต้จะยื่นญัตติเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบเพื่อบรรจุเป็นวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 6 ก.ย.นี้ จึงอยากให้นายกฯเข้าร่วมรับฟังด้วย โดยเฉพาะการก่อเหตุปักธงมาเลเซียกว่า 100 จุดเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้เดินทางเข้าพบ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหารือให้ช่วยประสานให้นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาญัตติปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากนายกฯ พร้อมรับฟังเมื่อไร ก็ให้แจ้งมายังประธานวิปฝ่ายค้าน เพื่อนำญัตติดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภา จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาต่อว่ากัน ส่วนในวันที่ 7 ก.ย.ที่ ร.ต.อ.เฉลิม เชิญไปร่วมหารือนั้น ติดภารกิจเดินทางไป อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทั้งนี้เห็นว่าการใช้เวทีสภาเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นเรื่องที่ถูกต้อง และไม่มีเหตุผลที่นายกฯจะหนีการประชุม
ยิงรายวันยังเพียบ – วางระเบิดปลอมป่วนรามัน
สำหรับเหตุรุนแรงอื่นๆ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เมื่อวันอังคารที่ 4 ก.ย.เวลา 01.05 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวน มีรถกระบะสีดำเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ประกบยิง นายมะเซ็ง สาแมดา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/3 บ้านบานา หมู่ 2 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ขณะกำลังขับรถยนต์เก๋งส่วนตัวอยู่บนถนนภายในหมู่บ้านนาค้อเหนือ หมู่ 5 ต.ป่าบอน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว
ที่ อ.รามัน จ.ยะลา คนร้ายลอบวางวัตถุต้อง 2 แห่งบริเวณรอยต่อหมู่ 1 กับหมู่ 2 บ้านตอแล ต.กายูบอเกาะ ริมถนนสายรามัน-ยะลา เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) เข้าไปตรวจสอบ พบว่าจุดหนึ่งเป็นระเบิดปลอม ส่วนอีกจุดหนึ่งไม่ชัดเจน จึงใช้ปืนแรงดันน้ำยิงทำลายจนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว
วันอาทิตย์ที่ 2 ก.ย.เวลา 20.00 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนลูกซองประกบยิง นายสุกรี สะมะแอ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/1 บ้านบูกิตจือแร หมู่ 9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตคาที่ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านมุ่งหน้าไปตลาดรือเสาะ เหตุเกิดบนถนนสายพิธานอำนวยกิจ-บ้านสะโลบูกิตยือแร บ้านตะโละตอแล หมู่ 1 ต.รือเสาะออก เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ตามรวบผู้ต้องหาที่หนองจิก-จับผู้ใหญ่บ้านแว้งค้ายาบ้า
ด้านผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ก.ย.หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 ได้จัดกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย บ้านเกาะเปาะเหนือ หมู่ 1 ต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย คือ นายกะรียา สาเมาะ อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 6 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มีหมายจับที่ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) ของศาลจังหวัดสงขลา เมื่อปี 2551 ส่วนอีกคนเป็นชายอายุ 31 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในหมู่บ้านที่เข้าทำการตรวจค้น แต่ไม่มีประวัติถูกออกหมายจับ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวส่งเข้ากระบวนการซักถาม
วันเดียวกัน ที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ทหารหลักจากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 35 และทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 11 สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 2/4 บ้านกรือซอ หมู่ 4 ต.แว้ง อ.แว้ง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านของ นายซำซูดิง สารียอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.แว้ง พบยาบ้า 1 หมื่นเม็ด เงินสด 1 แสนบาท กัญชา 3 ห่อ และอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง จึงคุมตัวนายซำซูดิงส่ง สภ.แว้ง เพื่อดำเนินคดีต่อไป
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 นายกฯยิ่งลักษณ์ ทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส
2 จุดเกิดเหตุระเบิดที่ทำให้ทหารขาขาดและได้รับบาดเจ็บหลายนาย บริเวณหน้าป้ายประชาสัมพันธ์งานของดีเมืองนราฯ (ภาพทั้งหมดโดย สุเมธ ปานเพชร)
ขอบคุณ : สำนักข่าวเนชั่น เอื้อเฟื้อข่าวความเคลื่อนไหวในส่วนกลาง