ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ
ขอยกชื่อเพลงป๊อปที่เคยโด่งดังเมื่อหลายปีก่อนมาเป็นชื่อบทความนี้ เพราะน่าจะตรงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังที่จะเล่าให้ฟังนี้มากที่สุด
ผมเขียนบทความชื่อ "ไอโอล้ำเส้นที่ชายแดนใต้" วิพากษ์การกระทำของบรรดาเพจเฟซบุ๊คไม่ระบุตัวตน ที่เรียกกันว่า "เพจผี" จำนวนหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นของเจ้าหน้าที่รัฐ เรื่องราวเป็นอย่างไรไปย้อนอ่านดูได้ครับ
หลังจากโพสต์บทความขึ้นเว็บไซต์ และเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ ก็มีบุคคล (่ใช้เฟซบุ๊คไม่ระบุตัวตน หรือตัวตนปลอม) มาด่าทอต่อว่าด้วยคำหยาบคายมากพอสมควร ซึ่งผมไม่ได้ใส่ใจ
แต่มีบุคคลหนึ่งใช้นามว่า "แบมะ ฟาตอนี" ซึ่งผมไม่ทราบว่าเป็นใคร เขียนเรื่องราวของผมและบทความที่ชื่อ "ไอโอล้ำเส้นที่ชายแดนใต้" เอาไว้ในเว็บไซต์ชื่อ "ความจริงจากจังหวัดชายแดนใต้" ใช้ชื่อบทความว่า "เมื่อ ปกรณ์ พึ่งเนตร มองต่างมุมไอโอ 'ล้ำเส้น' ที่ชายแดนใต้" วิจารณ์บทความของผม ซึ่งถือว่ามีเนื้อหาสาระพอสมควร ไม่ค่อยใช้อารมณ์ และไม่มีคำหยาบ
ผมอ่านบทความของคุณแบมะแล้ว มีประเด็นที่ควรทำความเข้าใจเพิ่มเติมกับคุณแบมะ และอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจบทความของผม โดยยกข้อสังเกตเป็นประเด็นๆ มาจากบทความของคุณแบมะดังนี้
1.ตั้งคำถามกับผมว่าโจมตีงานไอโอของทหารทำไม เพราะงานไอโอสิ่งดีๆ เรื่องราวดีๆ มีความจำเป็นต่อการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้
เรื่องงานไอโอ หรือการแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ดีๆ จริงๆ ไม่มีใครว่านะครับ บทความของผมก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร ผมต่อว่าเฉพาะ "ไอโอล้ำเส้น" คือเกินความพอดี ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้ว ข้อความในเรื่องที่ยืนยันก็คือ..."เรื่อง 'บนดิน' ไม่มีใครว่า (เช่น การแถลงทันทีหลังเกิดเหตุรุนแรงทุกครั้ง, การจัดกิจกรรมพบปะทำความเข้าใจกับสื่อในสามจังหวัด, การพาสื่อส่วนกลางลงพื้นที่ ฯลฯ)"
2.อ้างว่าสื่อกระแสหลักไม่สนใจนำเสนอข่าวดีๆ ในพื้นที่
ไม่ทราบว่าคุณแบมะไปอยู่ที่ไหนมา เพราะสื่อกระแสหลักเสนอข่าวดีจนชาวบ้านในพื้นที่เขาต่อว่าว่าเข้าข้างรัฐครับ อย่างเมื่อเร็วๆ นี้มีโครงการพาสื่อกระแสหลักส่วนกลางลงพื้นที่ ก็มีข่าว สกู๊ปข่าว รายงานพิเศษเรื่องดีๆ มากมาย เอาเฉพาะในศูนย์ข่าวอิศราก็มี เช่น "รู้จัก ศพฐ.10 ลุยใช้นิติวิทย์ คืนความสุขชายแดนใต้" หรือก่อนหน้านี้ที่ทหารช่วยเด็กจมน้ำ สื่อกระแสหลักทุกแขนงก็เสนอข่าวกันหมด ศูนย์ข่าวอิศราก็เสนอ "ทหารช่วยเด็กจมน้ำ...เรื่องประทับใจ ณ ปลายด้ามขวาน" หมดยุคข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียเงินแล้วครับ
3.ตั้งคำถามว่าทำไมผมไม่ต่อว่าหรือประณามเพจโจรใต้ฟาตอนี
เรื่องเพจโจรใต้ฟาตอนีที่คุณแบมะพูดถึงนั้น กล่าวรวมๆ คือเพจพวกยุยงให้แตกแยก สนับสนุนการก่อความรุนแรง ฯลฯ ผมและสื่อมวลชนทั่วไปก็ทราบครับ แต่ที่เขาไม่พูดถึง เพราะเขาไม่ขยายความต่อ ไม่ได้ช่วยขยายพื้นที่ให้เพจพวกนี้ และการบิดเบือนมากๆ ก็ไม่มีใครเชื่อหรอกครับ
แต่ในทางกลับกัน หลายเรื่องที่เจ้าหน้าที่รัฐพูดอย่างหนึ่ง ต่อมามันเปลี่ยนไปอีกอย่างหนึ่ง เช่น กรณียิงวัยรุ่นอายุ 14 ที่ศรีสาคร เป็นต้น
และประเด็นสำคัญของผมคือ ฝ่ายรัฐไม่ควรใช้วิธีเดียวกับ "โจร" ในการต่อสู้ คือไม่ใช่ว่าพอโจรด่าเจ้าหน้าที่ สร้างความแตกแยก ยุแยง ยุยง หรือแม้แต่ใช้ความรุนแรง ฝ่ายรัฐก็เอาบ้าง ตอบโต้เขาให้หนักขึ้นไปอีก นี่คือสาระสำคัญที่สุดที่ผมนำเสนอครับ รัฐต้องแสดงให้เห็นว่าดีกว่าโจรด้วยวิธีที่ถูกต้อง ไม่ใช่ใช้วิธีเดียวกับโจร (ซึ่งผิด) เพื่อเอาชนะโจร
4.ทำไมผมหรือพวกองค์กรสิทธิในพื้นที่ไม่ประณามพวกใช้ความรุนแรง
การประณามพวกใช้ความรุนแรง หรือสนับสนุนความรุนแรง หรือแม้แต่การใช้สื่อยั่วยุ เขาทำกันอยู่เป็นประจำครับ ทั้งจัดสัมนา แถลงการณ์ ขณะที่สื่อเองก็เขียนถึง รายงานข่าวทุกอย่าง หลายเรื่องก็สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้สังคม เช่น "น้ำท่วมเวทีกับบทกวีรอคิวตาย เสียงจากญาติเหยื่อไฟใต้ คนไม่มีทางสู้" หรือ "คลิปฉาวระบาดใต้...อีกหนึ่งปฏิบัติการข่าวลือในสงครามชิงมวลชน" หรือล่าสุด "สั่งประหาร5มือยิงทหารดับ4ที่มายอ..." (ข่าวนี้ส่วนหนึ่งในเว็บเพจของคุณแบมะ น่าจะเอาข้อมูลมาจากเว็บศูนย์ข่าวอิศราด้วยนะครับ)
5.กล่าวหาว่าผมโจมตีเพจผีที่เชื่อว่าทำโดยเจ้าหน้าที่ เพื่อปกป้องเพจโจร
เรื่องเพจผีที่ผมพูดถึงในบทความ ซึ่งดูเหมือนคุณแบมะจะยอมรับกลายๆ ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทำ (หรือเปล่า?) ผมไม่ได้ต่อว่าเพจเหล่านั้นเพื่อปกป้องผู้ก่อเหตุรุนแรง แต่ผมต่อว่าเพจเหล่านั้นที่ใช้ภาพละเมิดสิทธิเหยื่อ ทั้งผู้ตายและผู้บาดเจ็บ ซึ่งผิดกฎหมายครับ (มีกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิลักษณะนี้ผ่านสื่อ เพราะเป็นการไม่เคารพเหยื่อ)
อีกเรื่องที่ผมวิจารณ์คือการใช้ถ้อยคำสร้างความเกลียดชัง แยกเขา-แยกเรา เพราะต้องไม่ลืมว่าฝ่ายขบวนการเขาก็มีแนวร่วม ซึ่งอาจไม่ได้สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง แต่เป็นแนวร่วมที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐ ฉะนั้นการไปประณามแบบเหมารวม แยกเขา-แยกเรา (บางคดียังไม่สรุปด้วยซ้ำว่าฝ่ายไหนทำ) จะยิ่งสร้างความแตกแยกในพื้นที่ (จากที่แตกแยกอยู่แล้วเพราะน้ำมือของผู้ก่อเหตุรุนแรง) ฉะนั้นคุณแบมะต้องแยกแยะประเด็นให้ดีครับ
6.ทำไมสื่อไม่ช่วยชี้แจงข้อมูลบิดเบือนของผู้ไม่หวังดี
การแก้ปัญหาข้อมูลบิดเบือนทางโซเชียลมีเดีย เป็นหน้าที่ของฝ่ายรัฐ ซึ่งก็ทำอยู่แล้ว เช่น การแถลงของ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และสื่อก็ให้ความร่วมมือเผยแพร่มาตลอด ศูนย์ข่าวอิศราก็เช่นกัน ลองไปถามท่านดูได้
7.องค์กรบางองค์กรในพื้นที่มีพฤติกรรมไม่โปร่งใส
เรื่องขบวนการหรือองค์กรบางแห่งในพื้นที่มีพฤติกรรมไม่โปร่งใส ศูนย์ข่าวอิศราก็เคยเขียนถึง คุณแบมะเคยอ่านบ้างหรือเปล่าครับ เช่น "ยอดจับน้ำมันเถื่อนพุ่ง ทหารเชื่อโยงจุดไฟใต้" หรือ "สถิติพิศดารของเหตุรุนแรงชายแดนใต้ มาตรฐานอยู่ตรงไหน?" หรือ "อย่าสวมหมวกหลายใบ"
8.กล่าวหาว่าผมมีเบื้องหลัง เพราะปกป้องนักศึกษา PERMAS จำนวน 8 คนที่คุณแบมะเชื่อว่าเป็นแอดมินเพจสันติภาพปาตานีที่โจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ
คุณแบมะกล่าวหาว่าผมมีเบื้องหลัง มีอะไรลึกๆ เพราะออกมาเขียนต่อว่าเรื่องที่คุณไปเปิดโปงหน้าตาของแอดมินเพจสันติภาพปาตานี 8 คนซึ่งเป็นนักศึกษากลุ่มเปอร์มาส (PERMAS) ผมต้องขอโทษด้วยที่ต้องบอกว่า 1 ใน 8 นั้นคือตัวผมเองครับ ซึ่งไม่ได้เป็นแอดมินเพจสันติภาพปาตานีอะไรนั่น และผมก็ไม่ได้เป็นนักศึกษาด้วย
ส่วนอีก 7 คนผมก็ไม่รู้จักว่าเป็นเปอร์มาสหรือกลุ่มไหน แต่ถ้าคุณคิดว่าเขาทำผิด บิดเบือน แล้วคุณมีรูปถ่าย มีเฟซบุ๊ค ก็น่าจะพอตามแหล่งที่อยู่ได้ ก็ควรไปแจ้งความดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายอันศักดิ์สิทธิ์ เสมอภาค ซึ่งคุณอ้างในตอนท้ายของบทความของคุณเอง
ส่วนของตัวผม ไม่ได้เกี่ยวกับเพจสันติภาพปาตานี หรือเพจอื่นใดทั้งสิ้น ไม่ว่าคุณหรือใครจะเรียกว่าเพจผีหรือไม่ผี ผมเป็นบรรณาธิการศูนย์ข่าวอิศราเพียงแห่งเดียว ในเมื่อเพจพวกนี้เข้าใจผมผิด ผมไม่มีสิทธิ์อธิบายหรือครับ และในบทความของผมยังบอกด้วยว่า ฝ่ายความมั่นคงนั้น ละเมิดสิทธิผมถึงขนาดนำภาพผม (และคนอื่นๆ) ไปฉายขึ้นจอภาพในการบรรยายสรุปของหน่วยงาน โดยกล่าวหาว่าเป็น "แนวร่วมมุมกลับ" ผมถามว่าเป็นสิ่งที่ควรกระทำหรือไม่ครับ แต่ผมไม่ได้เลือกเส้นทางฟ้องร้อง เพราะไม่ได้ถือเป็นสาระอะไรมากมาย แค่อยากอธิบายว่าเจ้าหน้าที่รัฐกระทำล้ำเส้นแบบนี้ จะยิ่งส่งผลร้ายต่อการแก้ไขปัญหาครับ
9.เท่าที่คุณแบมะเขียนมาทั้งหมด สะท้อนว่าคุณไม่ได้รู้จักผมเลย ไม่ได้อ่านข่าวศูนย์ข่าวอิศราหรือสื่อต่างๆ อย่างจริงจัง ผมจะบอกให้อย่างหนึ่งครับว่า ผมอยู่ในที่สว่าง เขียนบทความใช้ชื่อจริง นามสกุลจริงตลอด ในเฟซบุ๊ค บล็อก ก็ใช้ภาพจริง มีประวัติตัวผม ครอบครัวผมสามารถเสิร์ชหาทางกูเกิ้ลได้มากมาย ลองไปเสิร์ชหาดูครับ จะได้ทราบว่าผมเป็นใคร พ่อแม่ผมทำอาชีพอะไร น้องชายผมทำอาชีพอะไร น่าแปลกไหมครับที่ผมในนามของสื่อสร้างปัญหาในสายตาของคุณแบมะ กลับเลือกยืนอยู่ในที่สว่าง ขณะที่บางคนจากบางองค์กรที่อ้างว่าจะสถาปนาสันติสุขในพื้นที่กลับหลบยืนในที่มืด...
10.สืบเนื่องจากข้อ 9 เมื่อลองไปค้นประวัติผมดูแล้วจะทราบว่าผมไม่ใช่ "นักข่าวหรือนักเขียนอาวุโส" และคงไม่ใช่ "ผู้เฒ่าหลงยุค" ตามที่คุณเขียนพาดพิงแล้วอ้างว่าเป็นผม
มาว่าผมแก่ได้ยังไง ตรงนี้แหละที่เคืองที่สุด...555
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 หน้าเว็บเพจที่ชื่อ ความจริงจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ และบทความของผู้ใช้นาม "แบมะ ฟาตอนี"
2 บุคคล 8 คนที่ถูกอ้างว่าเป็นแอดมินเพจสันติภาพปาตานี และเป็นนักศึกษากลุ่มเปอร์มาส ทั้งๆ ที่หนึ่งในนั้นคือ นายปกรณ์ พึ่งเนตร ที่ถูกอ้างถึงในบทความ