คำยืนยันจาก "ยงยุทธ มัยลาภ" โฆษกรบ."ผมไม่เกี่ยวข้องงานธงฟ้า 4.2 ล."
"...ในช่วงที่บริษัทเข้าไปรับงาน ผมไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย แค่เข้าไปช่วยงาน คสช.ไปช่วยพูด ช่วยแถลงข่าวให้เท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ใหญ่โตอะไร สั่งให้ใครทำอะไรไม่ได้หรอก คงต้องขอความเป็นธรรมจากสื่อในเรื่องนี้ด้วย.."
ยังคงเป็นประเด็นร้อน ที่ต้องตามค้นหาความจริงกันต่อไป
สำหรับกรณีที่ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท ดี.เอ็ม.อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ซึ่งมีร้อยเอก น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ ปัจจุบันเป็นโฆษกรัฐบาล ดำเนินการประชาสัมพันธ์การจัดงานธงฟ้าคืนความสุข ลดค่าใช้จ่ายประชาชน วงเงิน 4,280,000 บาท โดยมีระยะเวลาสิ้นสุด วันที่ 28 ก.ย. 57
เมื่อสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลเอกสารประกอบการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ดี.เอ็ม.ฯ และพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ว่า ร.อ.นพ.ยงยุทธ กับภรรยา ได้ลาออกจากกรรมการและหุ้นใหญ่ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 57 ซึ่งเป็นการลาออกหลังจากได้รับงานแล้วประมาณ 1 เดือน
ขัดแย้งกับข้อมูลที่ ร.อ.น.พ.ยงยุทธ ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราก่อนหน้านี้ว่า ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกับกิจการในบริษัทนี้มาสัก 2 – 3 เดือนแล้ว เนื่องจากตัดสินใจว่าจะลาออก จึงให้ภรรยาเข้ามาดูแลต่อแทนจึงไม่ทราบในการรับงานดังกล่าว และปัจจุบันไม่ได้เป็นเจ้าของแล้ว
(อ่านประกอบ:บ."ยงยุทธ”โฆษกรบ.คว้างานพีอาร์ธงฟ้าคืนความสุข 4.2 ล.-เจ้าตัวยันขายทิ้งแล้ว , เปิดเอกสารมัด บ.ยงยุทธโฆษกรัฐ คว้างานธงฟ้าคืนความสุข 4.2 ล้าน )
ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ความจริงที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น ล่าสุดในช่วงเช้าวันที่ 29 ก.ย.57 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง ร.อ.น.พ.ยงยุทธ เพื่อขอคำชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง
โดย ร.อ.นพ.ยงยุทธ ยังยืนยันคำตอบเดิมว่า ตนและภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข้าไปรับงานธงฟ้าคืนความสุข ของ บริษัท ดี.เอ็ม.ฯ แต่อย่างใด
ส่วนที่ปรากฎข้อมูลว่าการลาออกจากบริษัทของตนและภรรยา เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทฯ รับงานแล้วหนึ่งเดือนนั้น
ร.อ.นพ.ยงยุทธ ระบุว่า น่าจะเป็นช่วงรอยต่อการทำเรื่องขอลาออกจากบริษัทฯ ซึ่งโดยขั้นตอนปกติต้องใช้เวลาในการยื่นเอกสารนานพอสมควร
"อย่างที่ผมเคยชี้แจงไปว่า ไม่อยากทำบริษัทนี้ต่อแล้ว ก็เลยตัดสินใจขายบริษัทต่อไปให้กับบุคคลอื่น ซึ่งในช่วงเจรจาต่อรองราคาซื้อขายกัน มันใช้เวลานานพอสมควร และกว่าจะเดินเรื่องเอกสารการโอนหุ้นเสร็จอีกก็ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง"
"แต่ในช่วงที่ตกลงราคาซื้อขายได้แล้ว ผมก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับบริษัทอีกเลย บริษัทจะไปรับงานอะไรกับใครผมไม่ทราบ เพราะตอนนั้นผมไม่อยากทำบริษัทนี้ต่อแล้วจริง มันเหนื่อยมาก งานที่โรงพยาบาลก็มีค่อนข้างเยอะ จะมีเพียงก็แต่ภรรยาของผม ที่ตอนนั้น ยังมีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ที่จะต้องเข้าไปทำสัญญากับทางหน่วยงานราชการอยู่ แต่ในส่วนของผมไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยจริงๆ "
ร.อ.นพ.ยงยุทธ ยังระบุด้วยว่า การขายบริษัทครั้งนี้ เขาไม่ได้กำไรอะไรเลย ขาดทุนด้วยซ้ำ
"มีการต่อรองราคากับผู้ซื้ออยู่นานมาก คิดดูหุ้นราคา 100 บาท ผมขายได้แค่ 80 บาท ผมขาดทุนไปเท่าไร แต่ที่ต้องยอมขายไป เพราะรู้สึกเหนื่อยและไม่อยากทำต่อแล้วจริงๆ "
เมื่อถามว่า บริษัทฯ อาจจะได้รับงานนี้ เพราะชื่อของ ร.อ.น.พ.ยงยุทธ โฆษกรัฐบาล ตอบว่า "ผมไม่ทราบเรื่องที่เขาไปรับงานอะไร แต่บริษัทนี้ ทำงานมาหลายสิบปี มีประสบการณ์อุปกรณ์พนักงานมีพร้อม ส่วนจะเข้าไปได้รับงานอะไรนั้น ผมไม่ทราบเลยจริงๆ "
"ในช่วงที่บริษัทเข้าไปรับงาน ผมไม่ได้มีอำนาจอะไรเลย แค่เข้าไปช่วยงาน คสช.ไปช่วยพูด ช่วยแถลงข่าวให้เท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ใหญ่โตอะไร สั่งให้ใครทำอะไรไม่ได้หรอก คงต้องขอความเป็นธรรมจากสื่อในเรื่องนี้ด้วย" โฆษกรัฐบาล กล่าวทิ้งท้าย
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก news.mthai.com