‘สมยศ’ขายหุ้น‘เอคิว’ 750 ล.ให้‘เสี่ยโนอาร์-ลูก’ก่อนชิงนายกฯสมาคมบอล
‘เอคิว แอสเตท’ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ‘พล.ต.อ.สมยศ’ เทขายหุ้นให้ ‘เสี่ยโนอาร์-ลูก 2 คน’ รวม 1,500 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 750 ล้าน ก่อนลงชิงเก้าอี้นายกฯสมาคมบอลไทย
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2559 บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือชื่อเดิมบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือเรียนกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งการจำหน่ายหุ้นของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
บริษัท เอคิวฯ ระบุว่า ขอแจ้งการจำหน่ายหุ้นของ พล.ต.อ.สมยศ ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. 2558 ถึงวันที่ 8 ธ.ค. 2558 จำนวน 1,500 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 11.85 ของหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดให้แก่บุคคลที่มีรายชื่อตามรายงานดังนี้
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2558 จำหน่ายให้นายกำพล วีระเทพสุภรณ์ จำนวน 500 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 250 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.95
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2558 จำหน่ายให้ น.ส.ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง และนายรชต พุ่มพันธุ์ม่วง ทั้งคู่เป็นบุตรของ พล.ต.อ.สมยศ คนละ 500 ล้านหุ้น มูลค่าคนละ 250 ล้านบาท (รวม 1,000 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 500 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 3.95 ตามลำดับ
ภายหลังการจำหน่ายหุ้นดังกล่าว พล.ต.อ.สมยศ ถือหุ้นจำนวน 500 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 3.95 ของผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด ทั้งนี้การจำหน่ายหุ้นของ พล.ต.อ.สมยศ ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในอำนาจการควบคุมของบริษัท ลงชื่อนายสุทธิศักดิ์ วจีปิยนันทนานนท์ กรรมการ และนายภพ เพชรสุวรรณ กรรมการ (ดูเอกสารประกอบ)
สำหรับนายกำพล รู้จักกันในวงการธุรกิจว่า ‘เสี่ยโนอาร์’ โดยเป็นเจ้าของโรงอาบอบนวดโนอาร์ และก่อนหน้านี้ได้เข้าซื้อกิจการอาบอบนวด 3 แห่ง รวมมูลค่า 380 ล้านบาท จากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส. พรรครักประเทศไทย
จากการตรวจสอบจากกรมพัฒนากรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท เอคิวฯ ปัจจุบันมีทุน 8,160,222,416 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 102 ถ.ริมคลองบางกะปิ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ประกอบธุรกิจขายที่ดินเปล่า และที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ปรากฏชื่อนายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ นายสุทธิศักดิ์ วจีปิยนันทานนท์ นายภพ เพชรสุวรรณ นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2558 มี พล.ต.อ.สมยศ ถือหุ้นใหญ่สุด 2,500 ล้านหุ้น มูลค่า 1,250 ล้านบาท (เข้าไปซื้อช่วงปลายปี 2557 โดยใช้เงินจำนวน 855 ล้านบาท)
นำส่งงบการเงิน ปี 2557 แจ้งว่า มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 601,003,000 บาท รายได้จากการรับเหมาก่อสร้าง 7,766,000 บาท ต้นทุนขายอสังหาริมทรัพย์ 529,468,000 บาท ต้นทุนรับเหมาก่อสร้าง 7,766,000 บาท มีหนี้สงสัยจะสูญ 115,029,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 37,796,000 บาท
สำหรับ พล.ต.อ.สมยศ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ช่วงกลางปี 2558 เป็นหนึ่งในคนที่สนับสนุนให้มีการเปิดบ่อนกาสิโนในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย โดยยกตัวอย่างจากประเทศสิงคโปร์
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2559 ได้สมัครลงเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยด้วย โดยมีกระแสข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ปัจจุบันเป็นผู้บริหารสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ดให้การสนับสนุน
อ่านประกอบ : ข้อมูลลับความเชื่อผู้บริหาร "เอคิว" ก่อนศาลฯ พิพากษาชดใช้กรุงไทยหมื่นล.!
หมายเหตุ : ภาพประกอบ พล.ต.อ.สมยศ จาก mthai