ศาลฎีกาฯฟันเลขาฯนายก อบต. จ.ฉะเชิงเทรา จงใจไม่ยื่นบัญชีฯพ้น ตน.ทันที-คุก 2 ด.

พ้นตำแหน่งทันที เลขาฯนายก อบต.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ศาลฎีกาฯฟันจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บ. รอลงโทษ 1 ปี เป็นรายที่ 57 

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อ 20 พ.ย.58 สำนักงานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้เผยแพร่คำพิพากษาของศาลฎีกาฯคดีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัย กรณีนายวิโรจน์ วงศ์เดชอนันต์ (ผู้คัดค้าน) จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.

ศาลฎีกาฯพิพากษา นายวิโรจน์ วงศ์เดชอนันต์ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลาที่กำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี

ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 16 ก.ค.55 (วันพ้นตำแหน่ง) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง

ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งเลขานุการนายก อบต.ที่ดำรงอยู่ในวันที่ศาลฎีกาฯมีคำวินิจฉัย (2 ก.ย.58)

และมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 ลงโทษ จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท

ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.61/2558 -2 ก.ย.58)

สำหรับคดีนี้ในชั้นตรวจสอบ ของ ป.ป.ช. นายวิโรจน์ยื่นบัญชีฯกรณีรับตำแหน่ง 14 ต.ค.51 และพ้นตำแหน่ง 16 ก.ค.55 แต่ไม่ยื่นบัญชีฯ กรณีพ้นตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปีภายในวันที่ 14 ส.ค.56 ป.ป.ช. ผู้ร้องได้มีหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้ร้องยื่นชี้แจงการไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบถึง 4 ครั้ง แต่ผู้ร้องเพิกเฉย ต่อมาผู้ร้องได้รับแต่งตั้งเป็นเลขานุการนายก อบต.ครั้งที่สอง วันที่ 13 พ.ย.55 จนถึงปัจจุบัน และยื่นบัญชีฯกรณีเข้ารับตำแหน่ง เลขานุการนายกฯ ครั้งที่สองแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากนับกรณีนายวิโรจน์ รายล่าสุด จนถึงขณะนี้มีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ถูกศาลฎีกาฯพิพากษา ให้“มีความผิด” กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ในรอบปี 2558 (นับจากเดือน ม.ค.58) จำนวนทั้งสิ้น 55 ราย

ไม่รวมกรรมการรัฐวิสาหกิจ 1 ราย

หากรวม 2 ประเภท เป็น 56 ราย

และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่เป็น ส.ส. 1 คน คือ นายพงศ์เวช เวชชาชีวะ อดีต ส.ส.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เงินลงทุน บริษัท พี. วี.ฟาร์ม จำกัด มูลค่า 700,000 บาท (คดีหมายเลขแดงที่ อม.52/2558 – 25 ส.ค. 58 )

รวมเป็น 57 ราย

มีนักการเมืองท้องถิ่น 1 รายที่ศาลฎีกายก ‘คำร้อง’ คือ นายสมยศ วัฒนมงคล เลขานุการประธานสภากรุงเทพมหานคร ศาลฯวินิจฉัยว่า นายสมยศไม่มีหน้าที่ต้องยื่น เพราะไม่เป็นเป็น ‘ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง’ตามประกาศ ป.ป.ช.

ฉะนั้น หากรวมรายที่ศาลฎีกาฯ ‘ยกคำร้อง’ด้วย 1 ราย ทั้งสิ้นเป็น 58 ราย (กรณีเผยแพร่คำวินิจฉัยแล้ว)

ที่มา : สำนักข่าวอิศรารวบรวมจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 

อ่านประกอบ :
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 6 นักการเมืองท้องถิ่น 5 จว.‘จงใจ’ซุกบัญชีฯทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก‘พงศ์เวช’อดีต ส.ส.ปชป.จงใจซุกหุ้น7แสนบ.-รอลงโทษ 1ปี
ศาลฎีกาฯฟัน 6 นักการเมือง ตจว. ‘จงใจ’ซุกทรัพย์สิน ปรับเงิน-จำคุก 1-2 เดือน
รายแรกใน 44 คดี!ศาลฎีกาฯ‘ยกคำร้อง’ เลขาฯปธ.สภา กทม.จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯฟันรายที่ 43 นักการเมือง จ. มุกดาหาร จงใจซุกทรัพย์สิน