logo isranews

logo small 2

ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 6 นักการเมืองท้องถิ่น 5 จว.‘จงใจ’ซุกบัญชีฯทรัพย์สิน

ศาลฎีกาฯฟันต่อเนื่อง 6 นักการเมืองท้องถิ่น จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. ลดโทษปรับ 4,000-12,000 บาท จำคุกคนละ 1-3 เดือน ยึดแนวให้รอลงโทษ 1 ปี ครบสังกัด อบต. เทศบาล อบจ. อยู่ จ.ระนอง ชัยภูมิ ฉะเชิงเทรา เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ รวมแล้ว 56 ราย

pyyueefrfrfrfrrfaaa

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อ 5 พ.ย.,10 พ.ย.และ 12 พ.ย.58 สำนักงานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้เผยแพร่คำพิพากษาของศาลฎีกาฯคดีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยกรณีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่น (ผู้คัดค้าน) จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน จำนวน 6 ราย จ.ระนอง ชัยภูมิ ฉะเชิงเทรา เพชรบูรณ์ และ เชียงใหม่ ปรากฏว่าศาลฎีกาฯพิพากษาให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าวมีความผิดทั้งหมด สรุปสาระสำคัญของคำพิพากษาได้ดังนี้ (ดูตารางประกอบ)

1. นายสัญชัย สมบัติมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ภายในระยะเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง (12 ต.ค.56) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งนายก อบต.กะเปอร์ จ.ระนอง นับแต่วันที่ 4 ส.ค.58 อันเป็นวันที่ศาลฎีกาฯมีคำวินิจฉัย และ ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท

ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56(คดีหมายเลขแดงที่ อม.48/2558 -4 ส.ค.58)

2.นายประเสริฐ เฮ้าชัยภูมิ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชัยภูมิ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 20 เม.ย.55 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นตำแหน่ง สมาชิก สภา อบจ.ชัยภูมิ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท

ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.51/2558 -25 ส.ค.58)

3. นายวิโรจน์ วงศ์เดชอนันต์ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พนมสารคามมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 16 ก.ค.55 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ที่เป็นเหตุแห่งการยื่นคำร้อง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งเลขานุการนายก อบต.พนมสารคาม ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันในวันที่ศาลฎีกาฯ วินิจฉัย และ มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท

ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.61/2558 -2 ก.ย.58)

4.นางละเอียด โพธิ์อุดม เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โพรงอากาศ จ.ฉะเชิงเทรา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ภายในระยะเวลากำหนด กรณีรับตำแหน่ง (15 ธ.ค.54) พ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหน่งมาแล้วหนึ่งปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 21 ก.พ.56 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน ปรับ 24,000 บาท

ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 12,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ 70/2558-22 ก.ย.58)

5.นายณรงค์ สุขพานิช เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซับสมบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นตำแหน่ง (22 ก.ย.55) และพ้นตำแหน่งมาแล้วหนึ่งปี (22 ก.ย.56) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 24 ส.ค.55 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง

ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทงเป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท

ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ 72/2558-24 ก.ย.58)

6. นายวิชนุวัฒน์ กันธวัง รองนายกเทศมนตรีตำบลสันผีเสื้อ จ.เชียงใหม่ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ภายในระยะเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีสันผีเสื้อ (1 เม.ย.57) และกรณีเข้ารับตำแหน่งเลขานุการนายกเทศมนตรีสันผีเสื้อ (วันเดียวกัน) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 32 และ 33 ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งเลขานุการนายกเทศมนตรี ในวันที่ 29 ก.ย.58 อันเป็นวันที่ศาลฎีกาฯมีคำวินิจฉัย

และ ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 29 ก.ย.58 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท

ผู้คัดค้านให้รับการสารภาพ มีประโยชน์ในการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับการลงโทษจำคุกมาก่อน ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.78/2558 -29 ก.ย.58)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากนับ 6 รายล่าสุด จนถึงขณะนี้มีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ถูกศาลฎีกาฯพิพากษา ให้“มีความผิด” กรณีจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ในรอบปี 2558 (นับจากเดือน ม.ค.58) จำนวนทั้งสิ้น 54 ราย ไม่รวมกรรมการรัฐวิสาหกิจ 1 ราย (หากรวม 2 ประเภท เป็น 55 ราย)

มีนักการเมืองท้องถิ่น 1 รายที่ศาลฎีกายก ‘คำร้อง’ คือ นายสมยศ วัฒนมงคล เลขานุการประธานสภากรุงเทพมหานคร ศาลฯวินิจฉัยว่า นายสมยศไม่มีหน้าที่ต้องยื่น เพราะไม่เป็นเป็น ‘ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง’ตามประกาศ ป.ป.ช.

ละมีนักการเมืองที่เป็น ส.ส. 1 คน คือ นายพงศ์เวช เวชชาชีวะ อดีต ส.ส.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เงินลงทุน บริษัท พี. วี.ฟาร์ม จำกัด มูลค่า 700,000 บาท (คดีหมายเลขแดงที่ อม.52/2558 – 25 ส.ค. 58 )

เท่ากับจนถึงขณะนี้มีนักการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐ (กรรมการรัฐวิสาหกิจ) มีความผิดกรณี จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ และกรณียื่นไม่ครบถ้วนหรือซุกทรัพย์สิน (กรณีนายพงศ์เวช) รวมทั้งสิ้น 56 ราย (เท่าที่เผยแพร่คำวินิจฉัย)

และถ้ารวมรายที่ยกคำร้อง ทั้งสิ้นเป็น 57 ราย

ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกศาลฎีกาฯพิพากษามีความผิด จงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน   ( สำนักงานศาลฎีกาฯ เผยแพร่   เมื่อ 5 พ.ย.,10 พ.ย.และ 12 พ.ย.58)

ชื่อ-ตำแหน่ง   พฤติการณ์-ความผิด  คำพิพากษา

1.   นายสัญชัย สมบัติมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง

(คดีหมายเลขแดงที่ อม.48/2558 -4 ส.ค.58)             

ใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง

-ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง นับแต่วันที่ 4 ส.ค.58 อันเป็นวันที่ศาลฎีกาฯมีคำวินิจฉัย   

- ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัย

- จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก  1  เดือน ปรับ 4,000 บาท  ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี   

2.นายประเสริฐเฮ้าชัยภูมิ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชัยภูมิ

(คดีหมายเลขแดงที่ อม.51/2558 -25  ส.ค.58)          

จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วหนึ่งปี

-ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 20 เม.ย.55 อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นตำแหน่ง

- จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง  คงจำคุก  1  เดือน ปรับ 4,000 บาท  ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี 

3. นายวิโรจน์ วงศ์เดชอนันต์  

  เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

(คดีหมายเลขแดงที่ อม.61/2558 -2 ก.ย.58)

จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี

-ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 16 ก.ค.55  อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง

-ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งเลขานุการนายก อบต.พนมสารคาม ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันในวันที่ศาลฎีกาฯ  วินิจฉัย   

-จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท  ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก  1  เดือน ปรับ 4,000 บาท   ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี 

4.นางละเอียด โพธิ์อุดม เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โพรงอากาศ จ.ฉะเชิงเทรา

(คดีหมายเลขแดงที่ 70/2558-22 ก.ย.58)

จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน  กรณีรับตำแหน่ง (15 ธ.ค.54) พ้นตำแหน่ง และพ้นตำแหน่งมาแล้วหนึ่งปี

ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 21 ก.พ.56 อันเป็นวันที่พ้นตำแหน่ง

-จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท  รวม3 กระทง เป็นจำคุก  6 เดือน ปรับ 24,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก   3 เดือน ปรับ 12,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี 

5.นายณรงค์ สุขพานิช

เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซับสมบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์

(คดีหมายเลขแดงที่ 72/2558-24 ก.ย.58)

จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน  กรณีพ้นตำแหน่ง (22 ก.ย.55)  และพ้นตำแหน่งมาแล้วหนึ่งปี (22 ก.ย.56) 

ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 24 ส.ค.55  อันเป็นวันที่ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง

-จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท  รวม2 กระทงเป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง

คงจำคุก   2 เดือน ปรับ 8,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี 

  6. นายวิชนุวัฒน์ กันธวัง 

รองนายกเทศมนตรีตำบลสันผีเสื้อ จ.เชียงใหม่   

 (คดีหมายเลขแดงที่ อม.78/2558 -29 ก.ย.58)

จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีสันผีเสื้อ (1 เม.ย.57) และกรณีเข้ารับตำแหน่ง

-ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งเลขานุการนายกเทศมนตรี   ในวันที่ 29 ก.ย.58  อันเป็นวันที่ศาลฎีกาฯมีคำวินิจฉัย   

-ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในตำแหน่งใดใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่ 29 ก.ย.58 

-จำคุกกระทงละ 2 เดือน ปรับกระทงละ 8,000 บาท  รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท

 ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2  เดือน ปรับ 8,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี 

ที่มา:สำนักข่าวอิศรา รวบรวมจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

อ่านประกอบ:

ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก‘พงศ์เวช’อดีต ส.ส.ปชป.จงใจซุกหุ้น7แสนบ.-รอลงโทษ 1ปี

(วันเสาร์ ที่ 07 พฤศจิกายน 2558)

ศาลฎีกาฯฟัน 6 นักการเมือง ตจว. ‘จงใจ’ซุกทรัพย์สิน ปรับเงิน-จำคุก 1-2 เดือน

(วันเสาร์ ที่ 31 ตุลาคม 2558)

รายแรกใน 44 คดี!ศาลฎีกาฯ‘ยกคำร้อง’ เลขาฯปธ.สภา กทม.จงใจไม่ยื่นบัญชีฯ

(วันอาทิตย์ ที่ 18 ตุลาคม 2558)

ศาลฎีกาฯฟันรายที่ 43 นักการเมือง จ. มุกดาหาร จงใจซุกทรัพย์สิน

(วันอาทิตย์ ที่ 20 กันยายน 2558)