ถึงคิว กทม.! สตง.ชำแหละโครงการของบกองทุนสตรีฯ‘ทำเสื้อสกรีน-อบรมนาฏศิลป์’
ถึงคิว กทม. สตง.ชำแหละโครงการของบกองทุนสตรีฯ พบขอทำเสื้อสกรีน แต่หวั่นภาวะเศรษฐกิจ เลยถอย แบ่งเงินใช้เอง ขออบรมนาฏศิลป์ต้านยาเสพติด ทั้งที่ได้รับงบสนับสนุนจากองค์กรอื่นอยู่แล้ว โครงการพัฒนาศักยภาพสตรี 50 เขต ใช้เงิน 2 ล้าน
นอกเหนือไปจากความไม่ชอบมาพากล และความไม่โปร่งใส ในการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น โครงการร้านจำหน่ายกาแฟสด ต.คันโซ้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก โครงการบ้านพักริมน้ำ ต.นายูง อ.นายูง จ.อุดรธานี หรืออีกหลายโครงการพบว่า ไม่ประสบความสำเร็จ และมีการนำเงินมาแบ่งกันเอง หรือนำเงินไปปล่อยกู้แทน เป็นต้น
(อ่านประกอบ : เจาะ 5 โครงการกองทุนสตรีฯ สตง.พบสมาชิกเอาไป‘แบ่งเงิน-ปล่อยกู้ต่อ’)
ในกรุงเทพมหานคร ก็มีบางโครงการที่ถูก สตง. ตรวจสอบพบว่า ใช้งบประมาณของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีฯ ไม่สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการด้วย
มีอะไรบ้าง ? สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำตัวอย่างที่ สตง. ตรวจสอบพบมานำเสนอ ดังนี้
เบื้องต้น สตง. พบว่า มีกลุ่มสมาชิกสตรีอย่างน้อย 12 กลุ่ม/โครงการ นำเงินไปใช้ตามกิจกรรมหรือรายการที่กำหนดไว้แต่ไม่ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยกิจกรรมที่ดำเนินการไม่ก่อให้เกิดการพัฒนา หรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ระหว่างก่อนกับหลังดำเนินโครงการ เป็นเพียงการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้สตรีเข้าร่วมหรือรับฟังข้อมูลความรู้ทั่วไป มิได้สนับสนุนส่งเสริมหรือเป็ฯการเพิ่มพูนองค์ความรู้ใด ๆ ที่เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาสตรี หรือมาตรการดูแลปัญหาของสตรีแต่อย่างใด
ที่สำคัญจากการศึกษาหัวข้ออบรม เรื่องความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีฯ เห็นว่า เป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่สมควรเนื่องจากการอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกและคณะกรรมการควรเป็นหน้าที่ของส่วนงานในส่วนกลางหรือหน่วยงานที่กำกับดูแล ซึ่งอาจใช้จ่ายจากเงินบริหารจัดการกองทุน
เช่น โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำสตรีประจำเขตกรุงเทพฯ กทม. ได้รับเงินสนับสนุนประเภทอุดหนุนทั้ง 50 เขต เขตละ 2 รุ่น รุ่นละ 2 แสนบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2 ล้านบาท
นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กทม. อนุมัติเงินสนับสนุนประเภทเงินอุดหนุนให้กับโครงการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมการสร้างเครือข่ายทำงานระดับเขตกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กทม. ทั้ง 50 เขต เขตละ 1 โครงการ โครงการละ 50,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2.5 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานของคณะทำงานส่งเสริมกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กทม. (แต่ละเขต) อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น โครงการเสื้อสกรีนและปัก กทม. ได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 1 แสนบาท อย่างไรก็ดี สตง. ได้สัมภาษณ์หัวหน้ากลุ่มและสมาชิกผู้ร่วมเสนอโครงการในวันที่ 26 พ.ค. 2557 ได้รับข้อมูลว่า กลุ่มไม่ได้ดำเนินโครงการตามแผนงานหรือรายการใช้จ่ายเงินที่กำหนดไว้ในแบบเสนอขอโครงการเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ไม่กล้าดำเนินการ
จึงนำเงินไปแบ่งกันภายในกลุ่มจำนวน 5 คน คนละ 20,000 บาท และมีความเห็นว่าต้องการให้กองทุนฯ ให้กู้ยืมเป็นรายบุคคล เพราะคิดว่าการรวมกลุ่มเป็นเรื่องยากในการดำเนินธุรกิจ และต้องการกู้เงินกองทุนอีกเนื่องจากดอกเบี้ยต่ำ
หรือโครงการอบรมความรู้พื้นฐานในการใช้งานคอมพิวเตอร์ แขวงสายไหม กทม.
ระบุวัตถุประสงค์ว่า เพื่อให้สมาชิกของกลุ่มสตรีศรีสยามซึ่งเป็นสมาชิกของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่มีอาชีพแม่บ้าน และเด็กยากจน มีโอกาสเข้ารับการอบรมความรู้พื้นฐานในการใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้น สามารถนำเอาความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปประยุกต์ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน ได้รับเงินสนับสนุนประเภทเงินอุดหนุน จำนวน 149,000 บาท เป็นโครงการที่เสนอโดยกลุ่มสมาชิกสตรี สำหรับวิธีการจัดอบรมนั้น กำหนดหลักสูตรความรู้พื้นฐานจำนวน 5 รุ่น รุ่นละ 3 วัน โดยในการอบรมมีการแจกเอกสารประกอบ เลี้ยงอาหารกลางวัน และอาหารว่าง
แต่จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อคนที่เข้ารับการอบรมทั้ง 5 รุ่น พบว่า มีผู้เข้ารับการอบรมรวมจำนวน 96 คน (หักที่เข้าอบรมซ้ำออกแล้ว) พบผู้ที่เข้าอบรมเป็นสมาชิกกองทุนสตรี 64 คน และเป็นบุคคลอื่น ซึ่งมิใช่กลุ่มเป้าหมาย 32 คน
สตง. จึงสรุปได้ว่า กรณีดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่เสนอขอรับเงินอุดหนุน และเป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่ตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ของกองทุนสตรี เป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่สมควรจากการอบรมให้ผู้ที่มิใช่สตรีกลุ่มเป้าหมาย รวมเป็นเงิน 49,667 บาท ทำให้สมาชิกกองทุนสตรีรายอื่นเสียโอกาส นอกจากนี้ยังจัดอบรมให้สมาชิกคนเดียวกันมากกว่า 1 ครั้งทั้งที่หลักสูตรทั้ง 5 รุ่นไม่แตกต่างกัน เป็นการไม่ประหยัดเงินจำนวน 17,072 บาท
นอกจากนี้ยังมี โครงการวัฒนธรรมนาฏศิลป์การแสดงคืนของดีสู่ถิ่นชุมชน แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กทม.
ระบุวัตถุประสงค์ว่า เพื่อส่งเสริมเยาวชนให้เกิดความกล้าแสดงออกทางด้านนาฏศิลป์ ให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และห่างไกลยาเสพติด ให้เยาวชนเกิดความรักและชื่นชอบในความเป็นไทย สร้างผลงานเสริมรายได้พิเศษแก่เยาวชน ได้รับเงินสนับสนุนประเภทเงินอุดหนุนปีงบประมาณ 2557 จำนวน 60,000 บาท เสนอขอและดำเนินโครงการโดยสมาชิกกลุ่มสตรี จำนวน 5 คน มีสมาชิกที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ 20 คน
กิจกรรมหรือรายการใช้จ่ายเงินที่สำคัญ ได้แก่ นำไปใช้เป็นค่าอาหาร ขนม และเครื่องดื่มสำหรับเยาวชนที่มาร่วมทำกิจกรรม
แต่จากการตรวจสอบพบว่า ที่ผ่านมาชุมชนเคยได้รับเงินสนับสนุนเพื่อจัดกิจกรรมลักษณะเดียวกันจากสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อยู่แล้ว ที่สำคัญสตรีที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว เป็นสตรีกลุ่มเดิมที่ให้ความสนใจทางด้านนาฏศิลป์การแสดงอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งโดยทั่วไปสตรีกลุ่มนี้ก็มิได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ขณะเดียวกันรายการที่นำเงินไปใช้ไม่ปรากฏว่ามีกิจกรรมที่เป็นการปลุกเร้าหรือสร้างจิตสำนึกหรือสร้างแรงจูงใจให้เยาวชนสตรีที่ไม่เคยสนใจนาฏศิลป์มาสนใจแต่อย่างใด
สตง. จึงสรุปได้ว่า กิจกรรมของโครงการดังกล่าวมิได้เป็นการสนับสนุนหรือพัฒนาสตรี หรือเฝ้าระวังดูแลปัญหาสตรีแต่อย่างใด และกิจกรรมที่จัดขึ้นก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาสตรี รวมทั้งโครงการดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานอื่นอยู่ก่อนแล้ว จึงเป็นการใช้จ่ายเงินกองทุนฯที่ไม่เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า
ทั้งหมดคือตัวอย่างบางโครงการที่ สตง. ตรวจสอบพบในพื้นที่ กทม. ที่เห็นว่า มีการนำเงินจากกองทุนสตรีฯ ไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์
อ่านประกอบ :
'น้องสะใภ้'อดีตนายกฯอบต.ของบกองทุนฯสตรีทำน้ำพริก ดอดปล่อยกู้ต่อร้อยละ5
ใช้ชื่อลูกจ้างมินิมาร์ทช่วยของบ!เบื้องหลังร้านกาแฟ 'แม่'ปธ.กองทุนฯสตรีคันโช้ง
ชัดกว่าร้านกาแฟ! ปธ.กองทุนสตรีนายูง จ.อุดรฯ ดัน'เครือญาติ'ของบปลูกรีสอร์ท
ชัดกว่าร้านกาแฟ! ปธ.กองทุนสตรีนายูง จ.อุดรฯ ดัน'เครือญาติ'ของบปลูกรีสอร์ท
ใช้ชื่อลูกจ้างมินิมาร์ทช่วยของบ!เบื้องหลังร้านกาแฟ 'แม่'ปธ.กองทุนฯสตรีคันโช้ง
ไม่มีเอื้อปย.!ปธ.กองทุนฯสตรีต.คันโช้ง แจงปมเสนองบให้ 'แม่' ทำร้านกาแฟ2แสน
กลัวถูกสตง.สอบ! กลุ่มแม่บ้านต.คันโช้ง เล็งกู้เงินนอกระบบใช้หนี้กองทุนฯสตรี