ส.ผู้ส่งออกข้าวไทย ทุ่ม 40-50 ล้าน หนุนสมาชิกซื้อข้าวจากชาวนา พยุงราคาตกต่ำ

นายกกิติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยข้าวราคาตกเป็นกันทั่วโลก ของไทยเหตุจากมีข้าวเก่าในคลังเยอะ คาดปีหน้าข้าวหอมมะลิ ราคาดีขึ้น

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ราคาข้าวในไทยปัจจุบันว่า เมื่อปีที่แล้วข้าวขาวราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 15-16 บาท แต่ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 11 บาท ตกตันละ 1.1 หมื่นบาท ส่วนข้าวหอมราคาลดลงมาก เทียบกับปีที่แล้วซื้อขายอยู่ประมาณตันละ 2.5 หมื่นบาท ราคาปีนี้เหลือตันละประมาณ 1.6 หมื่นบาท ตกกิโลกรัมละ 16 บาท ซึ่งก็ถือว่าราคาที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก 

"ราคาข้าวตกไม่ได้เกิดที่ประเทศไทยประเทศเดียว ประเทศที่ส่งออกอย่าง อินเดีย ปากีสถาน เวียดนาม พม่า กัมพูชา ได้รับผลกระทบทั้งหมด เพราะฝนตกในช่วงครึ่งปีหลังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ในขณะที่ความต้องการไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ประกอบกับ สินค้าโภคภัณฑ์ตัวอื่น ๆ เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วเหลือง ราคาลงหมดในตลาดโลก เหตุผลเดียวกัน ผลผลิตที่มีจำนวนมาก" นายชูเกียรติ กล่าว และว่า มีอย่างเดียวที่ราคาขึ้น คือ "น้ำตาล" ที่ประเทศบราซิลผลิตน้อยลง ทำให้ราคาน้ำตาลสวนกับราคาของสินค้าตัวอื่นๆ

อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ข้าวมีราคาลดลง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า เพราะ ข้าวโพด ข้าวสาลี มีผลผลิตดีทั้งโลกเป็นแรงกดดันที่ทำให้ราคาข้าวทั่วโลกตกต่ำ  พร้อมกับเชื่อว่า ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับข้าวใหม่ที่กำลังจะผลิตออกมาประกอบกับข้าวเก่าของภาครัฐที่ยังเหลืออยู่ในสต๊อกจำนวนมหาศาล ประมาณ 7-8 ล้านตันที่ยังรอการระบายอยู่

"ตรงนี้ก็จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการกดราคาข้าว และยังไม่รู้ว่าทิศทางของสถานการณ์จะอยู่ที่ตรงไหน แต่สิ่งหนึ่งที่คาดคะเนได้คือ พอราคาข้าวไทยปรับลดลงมาค่อนข้างมากในไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทำให้ราคาไทยกับราคาคู่แข่งใกล้เคียงกัน ยกตัวอย่างข้าวขาว 100 % ตอนนี้ ข้าวไทยอยู่ประมาณ 360 เหรียญสหรัฐ ข้าวเวียดนามอยู่ 350 เหรียญสหรัฐ ข้าวอินเดียอยู่ 350 เหรียญสหรัฐ ข้าวปากีสถานอยู่ 345 เหรียญสหรัฐ เมื่อราคาข้าวของไทยใกล้เคียงกับคู่แข่งก็ทำให้โอกาสในการขายข้าวของไทยมีมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการมองว่า ราคาข้าวไม่น่าจะต่ำไปกว่านี้แล้ว จากนี้ต่อไปก็มาดูว่าราคาจะปรับตัวดีขึ้น"

เมื่อถามถึงข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่วโลก นายชูเกียรติ กล่าวว่า ราคาข้าวหอมมะลิไทยอยู่ประมาณ 600 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำมาก เทียบกับปีที่แล้วซื้อขายอยู่ที่ 800 เหรียญสหรัฐ น่าจะมีการขยายตัวของในเรื่องการส่งออกให้ดีขึ้น แต่ก็ต้องใช้เวลาจากนี้ต่อไประยะหนึ่งก่อนที่ลูกค้าเองจะปรับตัวในเรื่องของราคา อาจจะเป็นไปได้ว่า เดือนธันวาคมราคาก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งปริมาณการส่งออกน่าจะดีขึ้นด้วย

“ปีหน้ามีเทศกาลตรุษจีนประมาณปลายเดือนมกราคม การซื้อต้องทำก่อนหน้านั้น เพราะส่วนใหญ่ก็จะซื้อไปบริโภค ฉะนั้นลูกค้าก็ต้องลงมือซื้อตั้งแต่เดือนธันวาคม ตรงนั้นก็อาจจะเห็นการปรับราคาที่ดีขึ้น ปี 2559 มีการคาดคะเนว่าจำนวนข้าวเปลือกจะเพิ่มมากขึ้นอีก 3 ล้านตัน จาก 6 ล้านตัน กลายเป็น 9 ล้านตัน ด้วยดินฟ้าอากาศดีมากก็เป็นแรงกดดันที่ทำให้ราคาช่วงนี้ตกต่ำลงไป”

นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวด้วยว่า ทางสมาคมข้าวจะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ช่วยในเรื่องของจะมีโครงการให้สมาชิกของสมาคมเข้าไปซื้อข้าว โดยที่ทางสมาคมช่วยในเรื่องของดอกเบี้ย ตัวเบี้ยประกัน และช่วยในเรื่องของตัวค่าเช่าโกดัง ถึงแม้โกดังของชาวนาเองทางสมาคมก็จะออกค่าเช่าให้ ซึ่งทำให้สมาชิกหรือผู้ส่งออกซื้อเร็วขึ้นหรือมากขึ้น

"ทางสมาคมฯ ตั้งเป้าว่าจะทำประมาณ 2 แสนตัน ค่าใช้จ่ายประมาณ 40-50 ล้านบาท ที่สมาคมจะต้องออกเงินของสมาคมให้กับสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ"

ขอบคุณภาพจาก: www.tnews