- Home
- Community
- กระแสชุมชน
- ข่าวการเมือง
- นักวิชาการย้ำ “ประชานิยม” เป็นกรรมของคนไทย ได้ง่าย-เร็ว เสียมากระยะยาว
นักวิชาการย้ำ “ประชานิยม” เป็นกรรมของคนไทย ได้ง่าย-เร็ว เสียมากระยะยาว
“ดร.ณรงค์” ชี้กรรมกรต้องซื้อของแพงตามค่าแรง 300 จำนำข้าวช่วยชาวนาไม่มาก ถ้ารัฐบาลจริงใจต้องให้รัฐสวัสดิการ ไม่ใช่เพิ่มรายได้ตัวเงิน “ดร.นิพนธ์” มองลึกพรรคเพื่อไทย หวังยาวสู่ระบอบการเมืองพรรคเดียว นักรัฐศาสตร์แนะสังคมไทยต้องก้าวให้พ้นภาพลวงตาประชานิยม
วันที่ 14 ก.ค. 54 ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จัดเสวนา เรื่อง “ประชานิยม กับสิทธิในสังคมไทย” โดย รศ.ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่านโยบายประชานิยมของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แตกต่างจากยุคพรรคไทยรักไทยมาก ทั้งการเพิ่มค่าแรง การคืนภาษี บ้านหลังแรก-รถยนต์คันแรก เพื่อซื้อใจชนชั้นกลาง ปูทางสู่ระบอบการเมืองพรรคเดียว เหมือนมาเลย์เซียและสิงคโปร์ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน“ประธานทีดีอาร์ไอ” เปิด “หลุมพรางพรรคเพื่อไทย” ปูทางสู่ “การเมืองพรรคเดียว” http://www.isranews.org/community-news.html)
รศ.ดร.นิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีความซับซ้อนเรื่องโครงสร้างอำนาจ ธุรกิจขนาดใหญ่อยู่ภายใต้อำนาจรัฐ เช่น สัมปทานโทรคมนาคม ฯลฯ ทำให้นักธุรกิจต้องเข้ามามีบทบาททางการเมืองหรือสนับสนุนพรรคการเมือง รัฐจึงต้องแทรกแซงธุรกิจหลายประเภทเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ร่วมกัน เช่น นโยบายจำนำข้าว ทั้งที่เกษตกรกู้ได้ จาก ธกส.(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) อยู่แล้ว แต่ยังบังคับให้ซื้อวัตถุดิบจากกลุ่มธุรกิจเดียว ถือเป็นการผูกขาดตลาด
“สังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำหลายด้าน การวางรากฐานประชาธิปไตยให้ประชาชนรู้สิทธิรู้หน้าที่จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งความรู้ทางวิชาการมีความจำเป็นมาก และที่สำคัญคือหน่วยงานรัฐต้องโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล เช่นการประมูลจัดซื้อจัดจ้าง ให้ภาคธุรกิจมีโอกาสแข่งขันอย่างเท่าเทียม” รศ.ดร.นิพนธ์ กล่าว
ด้าน รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า “ประชานิยม” ในสังคมไทย คือทำอย่างไรให้ประชาชนนิยมตนเอง โดยไม่คำนึงถึงประเทศชาติ ไม่ไช่ “นิยมประชา” หรือประชาชนเป็นใหญ่ในสังคม
“ประชานิยมแบบไทยๆคือลดแลกแจกแถม ไม่คิดว่าประชาชนต้องจ่าย ต่างจากรัฐสวัสดิการที่มองว่าถ้าประชาชนอยากได้มากต้องจ่ายมาก”
รศ.ดร.ณรงค์ ยังกล่าวว่านโยบายที่ดีควรแก้ปัญหาและก่อให้เกิดการพัฒนา แต่ประชานิยมเป็นการลงโทษผู้รับโดยไม่รู้ตัว เช่น ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น 300 บาท จะทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว การจำนำข้าวทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่มไม่มาก เพราะความชื้นข้าวเปลือกจะทำให้ไม่ได้ราคา แต่ราคาข้าวสารจะสูงขึ้นตามราคาอ้างอิง ทั้งนี้การช่วยเหลือประชาชนที่แท้จริงต้องเพิ่มรัฐสวัสดิการไม่ใช่การเพิ่มรายได้ที่เป็นตัวเงิน
“รัฐสวัสดิการต้องมีบริการถ้วนหน้า สงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาส เก็บภาษีหลายประเภทในอัตราสูง ซึ่งไทยจะเป็นรัฐสวัสดิการไม่ได้ถ้ายังมีการเลี่ยงภาษีและเก็บถูก แต่อาจเป็นสังคมสวัสดิการ หรือสวัสดิการแบบร่วมด้วยช่วยกันทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจและชุมชนได้ โดยรัฐเป็นผู้จัดการ”
อ.บุญส่ง ชเลธร คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่านโยบายประชานิยมที่ใช้ในสังคมไทยมาตลอด ไม่ได้แก้ปัญหาระยะยาว ส่วนประชานิยมต่างๆของรัฐบาลใหม่ คงต้องตอบคำถามให้ได้ว่าจะเอาเงินจากไหนมาทำ และมีความจำเป็นเพียงใด
“เป็นไปเพื่อการหาเสียงอย่างแท้จริง ไม่มีแผนงานรองรับ โดยเฉพาะการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าแก้ปัญหาโครงสร้างตลาดแรงงานไม่ได้”
อ.บุญส่ง ยังกล่าวว่าประเทศไทยต้องก้าวข้ามประชานิยมไปสู่สวัสดิการสังคมหรือรัฐสวัสดิการ ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นคงระยะยาว ที่สำคัญต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าเงินภาษีที่เสียจะถูกนำมาพัฒนาประเทศ เสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรหรือพรรคการเมืองประชาชน เพื่อเสนอนโยบายที่เกิดประโยชน์แท้จริง พร้อมปฏิรูประบบภาษี กำจัดคอรัปชั่น และส่งเสริมให้องค์การภาคประชาชนเข้มแข็ง .