- Home
- Community
- กระแสชุมชน
- การศึกษา-ระบบสุขภาพ
- บอร์ดกสทช. ผ่านร่างทดลองออกอากาศวิทยุชุมชน เพิ่มกำลังส่ง 500 วัตต์
บอร์ดกสทช. ผ่านร่างทดลองออกอากาศวิทยุชุมชน เพิ่มกำลังส่ง 500 วัตต์
“สุภิญญา” เผยบอร์ดกสทช. ผ่านร่างทดลองออกอากาศวิทยุโทรทัศน์ เตรียมประกาศลงราชกิจจาฯ เพิ่มกำลังส่ง 500 วัตต์ เสาสูง 60 ม. ระยะส่ง 20 กม. ส่วนปัญหาหนุนทุนวิทยุชุมชนไม่สรุป
วันที่ 23 ส.ค. 55 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงานกสทช.) จัดประชุมชี้แจงต่อประกาศกสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และระยะเวลาการแจ้งรายละเอียดที่ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่หรือใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคม ณ โรงแรม พูลแมน บางกอก คิงพาวเวอร์ กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากม. 82 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ได้บัญญัติว่าเมื่อมีการแต่งตั้งกสทช.แล้ว ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลใดที่ได้รับจัดสรรคลื่นความถี่หรือใช้คลื่นความถี่อยู่ในวันที่กฎหมายดังกล่าวบังคับ ให้แจ้งการใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ รวมถึงเหตุความจำเป็นในการครอบครองตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาตามที่กสทช.กำหนด เพื่อกสทช.ตรวจสอบและเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนรับทราบ ตามหลักเกณฑ์ฯ ที่กสทช.กำหนด โดยมีผลบังคับใช้เมื่อ 16 มิ.ย. 55
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกสทช. กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมใช้คลื่นความถี่ตามหลักเกณฑ์ของพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2543 แต่เมื่อกฎหมายฉบับใหม่มีผลบังคับใช้จำเป็นต้องประกาศให้ทุกฝ่ายได้รับรองสิทธิการใช้คลื่นความถี่สาธารณะ โดยให้แจ้งรายละเอียดตามหลักเกณฑ์ผ่านการยื่นแบบจถ. พร้อมเอกสารภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ประกาศบังคับใช้ ซึ่งผู้ได้รับการจัดสรรหรือใช้คลื่นความถี่จะมีสิทธิตามระยะเวลาสัญญาสัมปทานที่เหลืออยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการแสดงความคิดเห็นของผู้รับการจัดสรรหรือใช้คลื่นความถี่ส่วนใหญ่เห็นด้วยในหลักการตามกฎหมายกำหนด มีเพียงบางรายที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนเท่านั้น เพราะหวั่นว่าจะละเมิดสิทธิขององค์กรได้
ทั้งนี้ศูนย์ข่าวเพื่อชุมชน สำนักข่าวอิศรา สัมภาษณ์น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกสทช. ถึงความคืบหน้าการแก้ไขร่างประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง และร่างประกาศกสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การทดสอบมาตรฐานทางเทคนิคของเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงสำหรับการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ซึ่งร่างดังกล่าวกลุ่มวิทยุชุมชนที่ได้รับการออกใบอนุญาตชั่วคราวก่อนหน้ากว่า 6,000 แห่ง จะต้องเข้าสู่หลักเกณฑ์ด้วยนั้น ได้เรียกร้องให้ปรับเงื่อนไขการเพิ่มกำลังส่งและเสาส่งสัญญาณให้มีความสูงมากกว่าเดิม
โดยน.ส.สุภิญญา กล่าวว่า ร่างประกาศฯ ได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากบอร์ดใหญ่กสทช. เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ในการปรับเงื่อนไขกำลังส่งวิทยุชุมชนจากเดิม 100 วัตต์ เป็น 500 วัตต์ เสาส่งสัญญาณสูงจากเดิมไม่เกิน 40 ม. เป็น 60 ม. ครอบคลุมรัศมีจากเดิม 15 กม. เป็น 20 กม. ส่วนปัญหาความเหลื่อมล้ำของกำลังส่งสัญญาณระหว่างพื้นที่ราบกับสูงชันนั้นอาจเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งต้องดูในรายละเอียดทางเทคนิคอีกครั้ง เพราะขณะนี้กสทช. ออกเพียงหลักเกณฑ์ใหญ่บังคับใช้เท่านั้น โดยหลังจากนี้จะลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
สำหรับการอุดหนุนเงินทุนจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (บอร์ดกทค.) มาบริหารจัดการวิทยุชุมชนนั้น ขณะนี้ยังถกเถียงกันถึงความเหมาะสม เพราะบอร์ดกทค. มองว่าเงินที่ถ่ายโอนมาให้หน่วยงานควรใช้เฉพาะกิจการของโทรคมนาคมเท่านั้น ขณะที่กิจการกระจายเสียงกลับไม่มีเงิน เพราะยังไม่มีการออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการ จึงยังไม่มีเงินจากการประมูลคลื่นความถี่ โดยส่วนตัวเห็นว่าควรแบ่งเงินทุนจากโทรคมนาคมอย่างน้อย 25% มาบริหารจัดการตามสัดส่วนที่เหมาะสม
กรรมการกสทช. ยังกล่าวถึงกรณีพระสงฆ์ออกมาเรียกร้องให้กสทช. ปรับหลักเกณฑ์บังคับการเรียกคืนคลื่นความถี่กิจการกระจายเสียงหลักกว่า 500 แห่งภายในระยะเวลา 3 ปี ตามสูตร 3-5-7 เพื่อนำคลื่นดังกล่าวมาจัดสรรให้กับการบริการสาธารณะ โดยเฉพาะการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมนั้น ต้องยอมรับว่าบอร์ดใหญ่กสทช. ได้มีมติเสียงข้างมากเลือกระยะเวลาการเรียกคืนคลื่นความถี่ดังกล่าวภายใน 5 ปีตามสูตร 5-10-15 แล้ว ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว แต่ต้องยอมรับในมติเสียงข้างมาก อย่างไรก็ตามจะพยายามดำเนินการอย่างเป็นกลาง เพื่อเกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมากที่สุด.