- Home
- Community
- กระแสชุมชน
- พอช.แจงไม่นิ่งนอนใจ ปม ‘บ้านมั่นคง’ กสบ.หมู่ 5-รับปากส่งมอบแบบแก้ไข 2 ก.พ.61
พอช.แจงไม่นิ่งนอนใจ ปม ‘บ้านมั่นคง’ กสบ.หมู่ 5-รับปากส่งมอบแบบแก้ไข 2 ก.พ.61
ผอ.พอช.แจงปม ‘บ้านมั่นคง’ กสบ.หมู่ 5 จำนวน 40 คูหา ถูกเขตสายไหมสั่งปิดห้ามเข้า ยันเร่งแก้ไขแบบตามคำสั่ง ส่งมอบ 2 ก.พ. 61 ระบุไม่เคยนิ่งนอนใจ เหตุล่าช้าเพราะหลายขั้นตอน มีรายละเอียดมาก ต้องใช้ระยะเวลา
สืบเนื่องจากกรณีที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอรายงานพิเศษ เรื่อง ขมวดปม 1 เดือน ‘บ้านมั่นคง’ ถูกปิด 40 คูหา ไร้คำชี้แจง พอช. แก้แบบล่าช้า-ชาวบ้านทุกข์ร้อน ไปเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2561 โดยระบุถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในโครงการบ้านมั่นคง กสบ.หมู่ 5 จากการถูกสั่งปิดประกาศห้ามเข้าใช้อาคารจากสำนักงานเขตสายไหม เนื่องจากแบบการก่อสร้างของพอช.ไม่ถูกต้องตามกฎหมายนั้น
(อ่านประกอบ: เขตสายไหมปิดประกาศห้ามใช้อาคาร “บ้านมั่นคง” 40 คูหา ก่อสร้างไม่ได้รับอนุญาต)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 31 ม.ค. 2561 นายสมชาติ ภาระสุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงมายังสำนักข่าวอิศราแต่ละประเด็นดังนี้
1.กรณีที่สำนักข่าวอิศราระบุว่ายังไม่มีคำชี้แจงใดๆ จาก ผอ.พอช. หลังจากพยายามติดต่อสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์นั้น
เนื่องจากเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2561 ข้าพเจ้า (นายสมชาติ ภาระสุวรรณ) มีภารกิจการประชุมตลอดทั้งวัน โดยช่วงเช้าประชุมร่วมกับผู้ช่วยรัฐมนตรี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ผู้แทนกรมธนารักษ์ สำนักการระบายน้ำ กทม. ฯลฯ ที่กระทรวง พม. และช่วงบ่ายประชุมที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เกี่ยวกับคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคม ขณะที่ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิสรา โทรมา 2 ครั้งคือ ช่วงประมาณ 10 นาฬิกา และประมาณ 11 นาฬิกาเศษ ซึ่งขณะนั้นข้าพเจ้ายังติดภารกิจอยู่ และไม่สะดวกที่จะรับโทรศัพท์ (ต่อมาเวลา 13.25 น. (วันที่ 30 มกราคม) เว็บไซต์สำนักข่าวอิศราได้เผยแพร่รายงานข่าวดังกล่าว)
2. กรณีสำนักงานเขตสายไหม ได้ทำประกาศปิดห้ามเข้าใช้อาคาร 40 คูหา ในโครงการฯ แห่งนี้ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ซึ่งเป็นของสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงเพิ่มทรัพย์สินสมบุญ จำกัด ที่เกิดจากการรวมตัวของ 8 ชุมชนภายหลังตรวจสอบพบว่า แบบการก่อสร้างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และ พอช.ยังไม่สามารถแก้ไขแบบก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ทำให้สำนักงานเขตจำเป็นต้องออกคำสั่งนั้น
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ได้ทำการส่งแบบขออนุญาตก่อสร้างให้สำนักงานเขตสายไหมเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 ต่อมาวันที่ 13 ธันวาคม สนง.เขตสายไหมลงวัดที่ดินชุมชน กสบ.หมู่ 5 เพื่อตรวจสอบว่าตรงตามผังบริเวณโครงการหรือไม่ เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่ตรงกัน สนง.เขตสายไหมจึงให้แก้ไข และต่อมาในวันที่ 28 ธันวาคม สนง.เขตสายไหมจึงได้ทำประกาศปิดห้ามเข้าใช้อาคาร 40 คูหาในชุมชน กสบ.หมู่ 5 เขตสายไหม รวมทั้งแจ้งให้ทางสถาบันฯ แก้ไขแบบแปลนและรายการประกอบแบบแปลนต่างๆ (รายละเอียดตามเอกสารแนบ)
ทั้งนี้ หลังจากที่ สนง.เขตสายไหมปิดประกาศห้ามเข้าใช้อาคารดังกล่าวแล้ว สถาบันฯ ได้ดำเนินการแก้ไขแบบและส่งแบบขออนุญาตที่แก้ไขเรื่องขอบเขตที่ดินมาให้ สนง.เขตสายไหมเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2561 ต่อมาในวันที่ 11 มกราคม สถาบันฯ ได้ประชุมร่วมกับ สนง.เขตสายไหม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเรื่องข้อติดขัดการก่อสร้างบ้าน รวมทั้ง สนง.เขตสายไหมได้ให้สถาบันฯ แก้ไขรายละเอียดแบบบ้านเพิ่มเติม
วันที่ 17 มกราคม สถาบันฯ ส่งแบบอนุญาตที่แก้ไขให้ สนง.เขตสายไหม ต่อมาวันที่ 24 มกราคม สนง.เขตสายไหมลงวัดที่ดินชุมชน กสบ.หมู่ 5 อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบขอบเขตที่ดินว่าถูกต้องหรือไม่ และให้แก้ไขเพิ่มเติมในส่วนของการแก้ไขระยะร่นอาคาร และแก้ไขรายละเอียดแบบบ้าน
ทั้งนี้ สถาบันฯ จะดำเนินการแก้ไขแบบแปลนและรายละเอียดต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จและกำหนดส่งแบบขออนุญาตที่แก้ไขแล้วให้ สนง.เขตสายไหมในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้
“สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจในปัญหาที่เกิดขึ้น และได้ดำเนินการแก้ไข ปรับปรุง แบบแปลนและรายละเอียดต่างๆ ตามที่สำนักเขตสายไหมสั่งให้ดำเนินการมาโดยตลอด แต่เนื่องจากกระบวนการแก้ไขและการดำเนินการมีขั้นตอนและรายละเอียดมาก จึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ และยืนยันว่าสถาบันฯ จะส่งแบบขออนุญาตที่แก้ไขแล้วให้ทางสำนักงานเขตสายไหมตามที่กำหนดเอาไว้ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ รวมทั้งจะดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย” นายสมชาติกล่าวชี้แจง
3.กรณีคำสั่งห้ามเข้าใช้อาคารดังกล่าวได้สร้างความกังวลให้แก่สมาชิกของสหกรณ์ฯ เพราะไม่สามารถเข้าอยู่ในอาคารพักอาศัยได้ แม้กำลังจะก่อสร้างแล้วเสร็จ หากคำนวณระยะเวลาตั้งแต่การย้ายออกมาเพื่อมอบพื้นที่ให้แก่โครงการฯ จนถึงปัจจุบันเกือบ 1 ปีเต็มแล้ว ทำให้ชาวบ้านมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าเช่าบ้านเฉลี่ยเดือนละประมาณ 3,000-5,000 บาท รวมทั้งประเด็น “แม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ระดับชาติ แต่ “รอช้า” ไม่ได้ เพราะทั้งหมดคือความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ พอช. ต้องใส่ใจ” .นั้น
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ ขอชี้แจงว่า สถาบันฯ รับทราบปัญหาต่าง ๆ รวมทั้งความเดือดร้อนที่ชาวบ้านได้รับ และพยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มาโดยตลอด เพื่อให้การก่อสร้างบ้านในชุมชน กสบ.แล้วเสร็จ และประชาชนเข้าอยู่อาศัยได้ โดยสถาบันฯ มีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าและอุปสรรคในการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองทุกสัปดาห์ แต่เนื่องจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน เช่น คสช. กรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขต กรมธนารักษ์ ฯลฯ รวมทั้งยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม ฯลฯ จึงทำให้การดำเนินการต่างๆ ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเพื่อประสานงานและขออนุญาต
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองบรรลุเป้าหมาย ลดปัญหาและอุปสรรคต่างๆ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงมีแนวทางจัดตั้ง ‘คณะติดตามการแก้ไขปัญหารุกลำน้ำสาธารณะ(คลองลาดพร้าว)’ ขึ้นมา โดยมี พล.อ.สุรศักดิ์ ศรีศักดิ์ ผช.รมต. กระทรวง พม. เป็นประธาน มีการประชุมทุกสัปดาห์ โดยในเร็วๆ นี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะมีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คสช. กทม. สำนักการระบายน้ำ กรมธนารักษ์ พอช. ฯลฯ เพื่อให้การดำเนินพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ลดปัญหาและอุปสรรคต่างๆ
ส่วนกรณีการก่อสร้างบ้านล่าช้าหรือก่อสร้างเสร็จแล้วแต่ชาวบ้านยังเข้าอยู่อาศัยไม่ได้ ทำให้ชาวบ้านมีภาระค่าเช่าบ้านเพิ่มขึ้นเดือนละ 3,000-5,000 บาทนั้น สถาบันฯ ขอชี้แจงว่า การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองดังกล่าว สถาบันฯ ได้ให้การสนับสนุนชาวชุมชนดังนี้ 1.สินเชื่อเพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัยครัวเรือนละ (ไม่เกิน) 300,000 บาท ระยะเวลาชำระคืน 15 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 4 บาทต่อปี (กรณีสร้างบ้านในชุมชนเดิม) 2.งบพัฒนาสาธารณูปโภคครัวเรือนละ 50,000 บาท 3.งบอุดหนุนการสร้างบ้านครัวเรือนละ 25,000 บาท และ 4.งบช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาชุมชนริมคลอง ครัวเรือนละ 72,000 บาท (ค่าขนย้าย รื้อย้าย และค่าเช่าที่พักระหว่างการก่อสร้างบ้าน)
ทั้งนี้ งบช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแก้ไขปัญหาชุมชนริมคลอง ครัวเรือนละ 72,000 บาท ซึ่งเป็นค่าขนย้าย รื้อย้าย และค่าเช่าบ้านระหว่างการก่อสร้างครัวเรือนละ 3,000 บาท จำนวน 6 เดือนนั้น เป็นเงื่อนไขเบื้องต้นที่สถาบันฯ กำหนดเอาไว้ แต่ทางชุมชนสามารถตกลงกันเองได้ว่าจะช่วยเหลือค่าเช่าบ้านได้มากกว่า 6 เดือนในกรณีจำเป็น เช่น มีบางชุมชนที่ตกลงให้ค่าเช่าบ้านจำนวน 10 เดือน เนื่องจากมีการขยายระยะเวลาก่อสร้างบ้านออกไป
อย่างไรก็ตาม ในกรณีค่าเช่าบ้าน 6 เดือนดังกล่าวนี้ สถาบันฯ กำลังพิจารณาว่าจะขยายเวลาออกไปในกรณีที่ชุมชนยังก่อสร้างไม่เสร็จหรือยังไม่สามารถเข้าอยู่ได้จากเดิมที่กำหนดไว้ 6 เดือน เป็นไม่เกิน 12 เดือน
โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2559 มีเป้าหมายดำเนินการในคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อ รวม 52 ชุมชน 7,081 ครัวเรือน เพื่อแก้ไขปัญหาการปลูกสร้างบ้านเรือนกีดขวางทางระบายน้ำ และพัฒนาที่อยู่อาศัยของชาวชุมชน โดยขณะนี้ดำเนินการเสร็จแล้ว 16 ชุมชน 946 ครัวเรือน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 1,076 ครัวเรือน ขณะที่ กทม.กำลังสร้างเขื่อนระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในแนวคลองดังกล่าว
ส่วนชุมชน กสบ.หมู่ 5 ตั้งอยู่ริมคลองสอง (คลองลาดพร้าว) เขตสายไหม ใกล้ตลาดสะพานใหม่ มีทั้งหมด 155 ครัวเรือน โดยกรมธนารักษ์ให้ชุมชนเช่าที่ดินระยะเวลา 30 ปี อัตราค่าเช่าตารางวาละ 1.50 บาทเดือน/ เริ่มสร้างบ้านเฟสแรกเดือนเมษายน 2560 จำนวน 40 หลัง ขณะนี้ก่อสร้างเกือบเสร็จแล้ว แต่ สนง.เขตสายไหมมีคำสั่งระงับการเข้าใช้อาคารดังกล่าว .
อ่านประกอบ:ผอ.เขตสายไหมเผย พอช.ยังไม่ส่งแบบแก้ ‘บ้านมั่นคง’-ชาวบ้านโอดเสียค่าเช่าบ้านนาน 1 ปีแล้ว
ห่างคลองไม่ถึง 2 ม. ผอ.เขตสายไหมแจงไม่ออกใบอนุญาต ‘บ้านมั่นคง’ - พอช.แก้แบบล่าช้า
สรุปการดำเนินการส่งแบบขออนุญาตก่อสร้าง ของชุมชน กสบ.หมู่ 5 เขตสายไหม
วันที่ |
รายละเอียด |
21 พ.ย. 60 |
พอช.ส่งแบบขออนุญาตก่อสร้างให้สำนักงานเขตสายไหม (นำส่ง 5 ชุด) |
13 ธ.ค. 60 |
สำนักงานเขตสายไหมลงวัดที่ดินชุมชนกสบ.หมู่ 5 เพื่อตรวจสอบว่าตรงตามผังบริเวณโครงการหรือไม่ ปรากฏว่าเมื่อทำการรังวัดแล้วพื้นที่จริงกับผังบริเวณโครงการไม่ตรงกัน สำนักงานเขตสายไหมจึงให้แก้ไข เรื่องของขอบเขตที่ดินให้ตรงกับที่รังวัดจริง |
28 ธ.ค. 60 |
สำนักงานเขตสายไหมแจ้งให้แก้ไขตามแบบ ค.1 ที่ กท 7903/9095 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ดังนี้ 1.ราการแนบท้ายคำสั่งให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง แผนผังบริเวณ แบบแปลน รายการประกอบแบบแปลนหรือรายการคำนวณ 1.1 แผนผังบริเวณ แบบแปลน ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 10 (พ.ศ.2582) ข้อ 9 - ตามแบบแปลนผังบริเวณแสดงรายละเอียดให้ชัดเจนและเพียงพอในการพิจารณา - ตามแบบแปลนผังบริเวณไม่แสดงพื้นที่น้ำซึมผ่านได้ - ตามแบบผังบริเวณขนาดแปลงที่ดิน ที่ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ขัดแย้งกับสภาพพื้นที่ดินจริง - ตามแบบผังบริเวณไม่แสดงค่า (B.O.D) ของน้ำทิ้งที่ได้รับการบำบัดก่อนระบายลงสู่ท่อหรือแหล่งน้ำสาธารณะ - ตามแบบลักษณะพื้นที่ห้องต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงฉบับที่ 63 (พ.ศ.2551) ข้อ 2 - ตามแบบแปลนแสดงรายละเอียดไม่เพียงพอในการพิจารณา - ตามแบบแปลนส่วนของห้องระบายอากาศน้อยกว่าร้อยละสิบของพื้นที่ห้อง 1.2 การออกแบบตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2543 - ขาดข้อมูลค่าหน่วยแรงฝืดของดินพร้อมรายการคำนวณ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 6 พ.ศ.2572 ข้อ 20 - ขาดข้อมูลค่าหน่วยแรงของเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 6 พ.ศ.2527 ข้อ 13 - ตามแบบระบุโครงสร้างหลังคาเหล็กรูปพรรณ (อะเส) แต่ขาดรายการคำนวณ - แบบแผ่น S-29 เสาชั้น 2-หลังคา จะใช้เป็น C1 หรือ C2 ให้ระบุ - ขาดผังระบบระบายน้ำระบุค่า BOD ขัดแย้งกับรายการคำนวณ - ขาดแบบบ้านพร้อมระบบป้องกันอัคคีภัย - แบบระบุบ้านแฝดขนาด 3.50x8.00 เมตร (2 ชั้น) แต่รายการคำนวณระบุบ้านแฝด 4.00x7.00 เมตร |
10 ม.ค. 61 |
พอช.ส่งแบบขออนุญาตที่แก้ไข เรื่องขอบเขตที่ดินตามที่ได้มีการลงมารังวัดวันที่ 13 ธันวาคม 60 |
11 ม.ค. 61 |
ประชุมหารือข้อติดขัดงานก่อสร้างบ้านกลุ่มออมทรัพย์ริมคลองกสบ.หมู่ 5 ร่วมกับสำนักงานเขตสายไหม ,ฝ่ายโยธาเขต ,คสช ,ตัวแทนชุมชน และสำนักงานข่าวอิศรา ผลสรุปดังนี้ 1. พอช.ให้แก้ไขรายละเอียดแบบบ้าน (เพิ่มเติม) ส่งเขตวันที่ 17 มกราคม 61 2. โยธาเขตตรวจสอบความถูกต้อง ภายในระยะเวลา 1-3 วัน 3. รับแบบจากโยธาเขต พอช. และชุมชน นำส่งให้ธนารักษ์รับรองแบบบ้านที่แก้ไข ภายในระยะเวลา 2-3 วัน 4. รับแบบจากธนารักษ์ส่งโยธาเขต ตรวจสอบอีกครั้ง นำเสนอผอ.ลงนาม ระยะเวลา 2 วัน |
17 ม.ค. 61 |
พอช.ส่งแบบขออนุญาตที่แก้ไข ตามแบบ ค.1 ที่ กท 7903/9095 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2560 |
24 ม.ค. 61 |
สำนักงานเขตสายไหมลงวัดที่ดินชุมชนกสบ.หมู่ 5 อีกครั้งเพื่อตรวจสอบขอบเขตที่ดินว่าถูกต้องหรือไม่ และให้แก้ไขเพิ่มเติมในส่วนของ การแก้ระยะร่นอาคาร และแก้ไขรายละเอียดแบบบ้าน โดยเพิ่มเติมแบบบ้านที่ขาดหายไปจำนวน 2 แบบบ้าน (โครงสร้างบ้านและลักษณะเหมือนกัน สลับซ้าย-ขวา ถือว่าเป็นคนละแบบ) |
2 ก.พ. 601 |
แผนกำหนดส่งแบบขออนุญาตที่แก้ไขจากการลงวัดที่ดิน เมื่อวันที่ 24 มกราคม 61 |