- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ผบ.ทบ.ไฟเขียวผ่าพิสูจน์ "จีที 200" รัฐบาลอังกฤษเตือนทั่วโลกหยุดซื้อ!
ผบ.ทบ.ไฟเขียวผ่าพิสูจน์ "จีที 200" รัฐบาลอังกฤษเตือนทั่วโลกหยุดซื้อ!
ทีมข่าวอิศรา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
ผบ.ทบ.ออกโรงยุติข้อถกเถียงประสิทธิภาพ "จีที 200" ไฟเขียวผ่าพิสูจน์เครื่องตามหลักวิทยาศาสตร์ พร้อมสั่งชะลอการจัดซื้อเพิ่มเติมเพื่อรอความชัดเจน ลั่น "ถ้าใช้ไม่ได้ก็ต้องไม่ใช้" ด้าน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ เตรียมทำหนังสือขอกระทรวงวิทย์เป็นเจ้าภาพ ขณะที่ บีบีซี ตีข่าวรัฐบาลอังกฤษส่งคำเตือนทั่วโลกอย่าซื้อ "จีที 200" เหตุ "ไร้ประสิทธิภาพสิ้นเชิง"
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2553 ถึงปัญหาประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 ที่หลายฝ่ายออกมาแฉข้อมูลเป็นเครื่องลวงโลกว่า เรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือผู้ใช้กับผู้ที่ต้องการพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเท่าที่ประเมินได้จนถึงขณะนี้ และได้มีโอกาสหารือกับ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ยืนยันว่า เครื่อง จีที 200 ใช้ได้ผลจริง ถ้าหากไม่มีก็จะลำบากในการทำงาน
นอกจากนั้น ยังได้สอบถามไปยัง พล.อ.วิโรจน์ บัวจรูญ ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพบก เพราะเคยเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ว่าตอนที่ทำงานในพื้นที่เป็นอย่างไร พล.อ.วิโรจน์ ก็อธิบายให้ฟังว่าทำงานได้ผลและมีความจำเป็น สรุปว่าผู้ใช้ยืนยันว่าใช้ได้ผล แต่จะกี่เปอร์เซ็นต์ยังไม่มีใครออกมาวิเคราะห์ แต่ก็มีสถิติว่าไปตรวจแล้วสามารถค้นเจอวัตถุระเบิด
สำหรับฝ่ายที่ต้องการทดสอบเครื่อง แบ่งออกเป็น 2 ส่วนเช่นกัน คือส่วนหนึ่งได้ทำแล้ว มีการไปทดสอบที่กรมสรรพาวุธทหารบก จ.ราชบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการรายงานว่าใช้เครื่องดังกล่าวก็ตรวจเจอวัตถุระเบิด กับอีกส่วนหนึ่งคือบุคคลที่ต้องการให้พิสูจน์ในเชิงวิทยาศาสตร์ หรือในห้องแล็บ
"ถ้าจะทำให้สมบูรณ์ก็ต้องทำทั้ง 2 ทาง ทางวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ไปว่าใช้ได้หรือไม่ อย่างไร ถ้าใช้ได้ก็ต้องบอกด้วยว่าได้กี่เปอร์เซ็นต์ จะได้นำมาตัดสินใจ ขณะนี้เครื่องลักษณะเดียวกันไม่ได้มีเฉพาะกองทัพที่ใช้อยู่ แต่ยังมีตำรวจ และ ป.ป.ส. (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด) ด้วย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกส่วนต้องการเครื่องนี้หมด ผมก็ต้องการทราบเหมือนกันว่าใช้ดีหรือไม่ดี ฉะนั้นคิดว่าจะต้องพิสูจน์ให้ได้ไม่ว่าจะเป็นในทางปฏิบัติหรือทางวิทยาศาตร์ แล้วมาดูกันว่าจะได้ประโยชน์กับการแก้ไขปัญหาหรือไม่ ถ้าใช้ประโยชน์ได้ก็ใช้ต่อ ถ้าใช้ประโยชน์ไม่ได้ก็จะต้องไม่ใช้" ผบ.ทบ.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการระงับการจัดซื้อจัดหาเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ถ้ามีเรื่องเข้ามาคงต้องชะลอไว้ก่อน เพื่อให้มีความแน่ชัดกว่านี้ แต่ขั้นตอนการจัดซื้อก็มีเหมือนกัน ไม่ใช่คำสั่งของเขาจะไปลบทุกอย่างได้ แต่จะต้องมีวิธีการ ถ้ามีงบประมาณตั้งไว้แล้ว และประกวดราคาไว้แล้ว คงต้องไปดูกฎหมายอีก ไม่อย่างนั้นจะโดนฟ้องร้อง
"หากชะลอได้ก็จะชะลอไว้ก่อน การชะลอก็เพื่อต้องการให้เกิดความแจ่มชัด จะได้ไม่มีปัญหา" ผบ.ทบ.ย้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการร้องขอให้ผ่าเครื่องจีที 200 กองทัพยินดีที่จะดำเนินการหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ถ้าพูดในภาพรวมก็ต้องยอม และเจ้าหน้าที่ที่ยืนยันก็ต้องเห็นด้วย
"ผมไม่ได้เป็นคนมายืนยันว่ามันใช้ได้ แต่เจ้าหน้าที่ที่อยู่ภาคเหนือ ภาคใต้ ทั้งหมดเขายืนยันว่าใช้ได้ ไม่ใช่ พล.อ.อนุพงษ์ หรือกองทัพบก โดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ 4 ทั้งในอดีตและปัจจุบันต่างยืนยันว่าใช้ได้ ดังนั้นหากมีการขอมา ผมคิดว่าเหมาะสมที่จะต้องไปทำให้เห็น ถ้าไม่ได้ หรือได้จำนวนกี่ครั้งออกมาเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ก็จะได้ตัดสินใจ ไม่ใช่มาดันทุรังว่าใช้ได้หรือไม่ได้ ส่วนผมไม่มีอะไรอยู่แล้ว เพราะซื้อมาก็ต้องใช้ประโยชน์ให้ได้ ถ้าใช้ประโยชน์ได้ก็จบ ผมเข้าใจว่าถ้าใช้ประโยชน์ได้นักวิชาการคงต้องรับ" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
วันเดียวกัน นายเจ๊ะอามิง โตะตาหยง ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมเกี่ยวกับปัญหาประสิทธิภาพของเครื่อง จีที 200 ว่า จะต้องพิสูจน์ประสิทธิภาพของเครื่องโดยเร็วที่สุด โดยที่ประชุมมีมติให้ทำหนังสือถึงกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเป็นเจ้าภาพตรวจสอบร่วมกับกระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ถ้าผลออกมาไม่ได้มาตรฐาน รัฐบาลต้องยุติการสั่งซื้อ
ที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้เข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาคดีความมั่นคงใน ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โดยใช้เครื่องจีที 200 เดินสำรวจเป้าหมายก่อน ซึ่งเครื่องก็ชี้ไปยังบ้านเป้าหมายและบ้านใกล้เคียง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นกลับไม่พบอุปกรณ์ประกอบระเบิด อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดเพื่อนำไปตรวจสอบต่อ เพราะสงสัยว่าอาจใช้เป็นสถานที่ประกอบระเบิด
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า การตรวจที่เกิดเหตุหรือตรวจหาสารประกอบระเบิด ไม่ได้ใช้เครื่องจีที 200 เพียงตัวเดียว แต่ใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์อื่นๆ ประกอบอีก จึงอยากให้นักวิชาการที่ออกมาต่อต้านพยายามแยกแยะ อย่าใช้อารมณ์ รวมทั้งองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนก็อย่าลำเอียง เพราะไม่เคยใช้เครื่องมือนี้ไปดำเนินคดีกับใคร
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ยังให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ในช่วงเย็นวันเดียวกันว่า รู้สึกแปลกใจกับการทำงานของเครื่องจีที 200 อยู่เหมือนกัน เพราะไม่ได้อิงหลักการทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็ใช้ได้ผลดี มีความแม่นยำสูง จึงเชื่อว่าอาจเป็นภูมิปัญญาของผู้ผลิตก็ได้
ด้าน บรรษัทกระจายเสียงแห่งอังกฤษ (บีบีซี) รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษประกาศจะรีบส่งคำเตือนเร่งด่วนไปยังรัฐบาลทุกประเทศที่อาจซื้อเครื่องมือตรวจระเบิดอย่างเอดีอี 651 และจีที 200 ไปใช้ โดยระบุว่า เครื่องมือเหล่านี้ "ไร้ประสิทธิภาพอย่างสิ้นเชิง" ในการตรวจหาระเบิด หลังจากเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา คำสั่งห้ามส่งออกเครื่องตรวจระเบิดไปขายยังอิรักและอัฟกานิสถานเริ่มมีผลบังคับใช้
รายการข่าว "บีบีซี นิวส์ไนท์" ที่เริ่มเปิดโปงเรื่องนี้จนนำไปสู่การสั่งห้ามขายเครื่องตรวจระเบิดให้อิรักและอัฟกานิสถาน ได้แกะเครื่องตรวจระเบิดรุ่น "จีที 200" ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นที่ประเทศไทยใช้อยู่เพื่อเป็นการพิสูจน์ ภายหลังจากได้แกะพิสูจน์เครื่องรุ่น เอดีอี 651 ไปแล้ว โดย บีบีซี นำการ์ดของเครื่องจีที 200 ไปให้ผู้เชี่ยวชาญแกะพิสูจน์ ทำให้พบว่าเครื่อง จีที 200 เหมือนกับเครื่อง เอดีอี 651 แทบจะทุกประการ โดยผู้เชี่ยวชาญบอกกับบีบีซีว่า ไม่มีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าจะต้องมีในมือจับของเครื่องจีที 200 เลย
ขณะที่ นายซิดนีย์ อัลฟอร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดที่รับหน้าที่แกะกล่องดำของเครื่องจีที 200 กล่าวว่า "นี่คือกล่องพลาสติกเปล่าๆ" ส่วนการ์ดของเครื่องจีที 200 ก็ไม่มีอะไรข้างในเลยนอกจากตัวการ์ดและกระดาษ
ทั้งนี้ เครื่อง เอดีอี 651 ผลิตโดยบริษัทเอทีเอสซีจากเมืองซอมเมอร์เซต ประเทศอังกฤษ ซึ่ง นายจิม แมคคอร์มิค ผู้อำนวยการบริษัท ถูกจับกุมตัวเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วในข้อหาต้องสงสัยว่าบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่ได้รับการประกันตัวออกไปแล้ว ส่วนเครื่องจีที 200 นั้นขายโดยบริษัทโกลบอล เทคนิคัล ในเมืองเคนท์
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าสถานทูตอังกฤษประจำกรุงแบกแดดจะได้ออกคำเตือนไปแล้ว แต่กองทัพอิรักก็ยังคงนำเครื่อง เอดีอี 651 ไปใช้อยู่ตามจุดตรวจต่างๆ ทั่วอิรัก ส่วนการตรวจสอบภายในที่นายกรัฐมนตรี นูรี อัลมาลิกิ สั่งให้ดำเนินการ ก็ยังคงดำเนินอยู่ต่อไป
ทั้งนี้ ผู้นำอิรักสั่งให้ตรวจสอบการทำงานของเครื่อง เอดีอี 651 ภายหลังจากที่เกิดเหตุระเบิด 3 ลูกซ้อนทำให้มีคนเสียชีวิตกว่า 120 คนในเดือน ธ.ค.2552 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเครื่องตรวจระเบิดทำงานไม่ได้ผล ขณะที่ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาก็ยังมีผู้เสียชีวิตถึง 58 คนจากเหตุระเบิดหลายระลอกในอิรักที่มีการใช้เครื่อง เอดีอี 651 อยู่หลายพันเครื่อง
ส่วนในประเทศปากีสถาน ซึ่งอังกฤษไม่ได้ห้ามส่งออกเครื่องตรวจระเบิดประเภทนี้ไปจำหน่าย ก็เกิดความขัดแย้งขึ้นภายหลังจากที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นพากันรายงานข่าวเรื่องความไร้ประสิทธิภาพของเครื่องออกไปเช่นกัน โดยที่ปากีสถานนั้นมีการใช้เครื่องตรวจระเบิดแบบเดียวกันนี้ที่สนามบินนานาชาติจินนาห์ในกรุงอิสลามาบัด และนอกจากไทยแล้วก็ยังมีเม็กซิโก เคนยา เลบานอน จอร์แดน และจีนที่ใช้เครื่องตรวจระเบิดแบบเดียวกัน
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ข่าวแปลจากสำนักข่าวต่างประเทศโดยทีมข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ