- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- "สุเทพ-แม่ทัพ4"ยังมั่นใจ"จีที200" ทหารข้องใจพลาดแค่ 2 ครั้งโทษกันจัง
"สุเทพ-แม่ทัพ4"ยังมั่นใจ"จีที200" ทหารข้องใจพลาดแค่ 2 ครั้งโทษกันจัง
สุเมธ ปานเพชร และทีมข่าวอิศรา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
"สุเทพ-แม่ทัพภาค 4” ประสานเสียง ยันฝ่ายความมั่นคงยังมั่นใจใช้เครื่องตรวจระเบิดจีที 200 ต่อไป อ้างที่อังกฤษสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องลวงโลกเป็นคนละยี่ห้อกัน ด้าน “ผบ.พตท.-หน่วยอีโอดี” แจงดับไฟใต้ได้ผล พลาดแค่ 2 ครั้งเป็นเรื่องตัวบุคคล แต่กลับโทษเครื่องอย่างไม่เป็นธรรม สงสัยกลุ่มต้านมีอะไรแอบแฝง
ข่าวรัฐบาลอังกฤษสั่งห้ามส่งออกและจำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด ADE-651 ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมและดำเนินคดีกับตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ดังกล่าวเพราะพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถใช้งานได้จริงนั้น ทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคงของไทยตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 ที่ใช้กันอยู่อย่างแพร่หลาย ซึ่งมีลักษณะการทำงานคล้ายเครื่อง ADE-651 และมีแหล่งผลิตจากอังกฤษเช่นกัน แต่ผู้รับผิดชอบยืนยันที่จะเดินหน้าใช้ต่อไป
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ยังไม่เห็นข้อมูลทางเทคนิคเรื่องเครื่องตรวจวัตถุระเบิด แต่เท่าที่ติดตามจากฝ่ายปฏิบัติที่อยู่ในสนามก็ใช้ได้ผล แต่ว่ามันก็มีตัวแปร เช่น ในขณะทำงานอาจมีฝนตก หรือมีเหงื่อในมือ หรือคนที่ทำการตรวจไปผ่านบางพื้นที่มา จึงอาจมีข้อคลาดเคลื่อนได้ อย่างไรก็ดี ได้ถามเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ที่อยู่ในภาคสนามก็บอกว่าพอใจและเห็นว่าใช้ได้ผล
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการสั่งยกเลิกการใช้หรือไม่ ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีสิทธิภาพจริงดังที่โฆษณา นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงและมีการใช้เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดยี่ห้อนี้ในบ้านเราก็สามารถทบทวนได้ แต่ทราบว่าที่ใช้อยู่เป็นคนละยี่ห้อกัน แต่ก็ต้องไปดูว่าเหมือนกันหรือไม่
แม่ทัพภาค 4 ยันใช้ “จีที 200” ต่อ
พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) กล่าวว่า ในภาคใต้มีการใช้เครื่องจีที 200 เป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไร เชื่อว่ายังสามารถใช้งานได้ 80-90 เปอร์เซ็นต์ และยังไม่มีเครื่องใหม่มาทดแทน ถือว่าปฏิบัติงานได้ค่อนข้างสมบูรณ์
"ไม่ใช่แต่ทหารเท่านั้นที่มีความคิดว่าเครื่องนี้ใช้ได้ แม้กระทั่ง แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ก็ยังยืนยันว่าสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย" แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุ และว่า
"ผมยังยืนยันว่าต้องใช้เครื่องนี้ต่อไป เพราะไม่มีเครื่องใหม่มาทดแทนให้ อยากจะเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ว่าทหาร ตำรวจที่ปฏิบัติงานในภาคใต้กำลังจะจมน้ำอยู่ เมื่อมีขอนไม้ลอยมาก็คงต้องเกาะกันไว้ก่อน ไม่มีใครอยากจมน้ำตาย หากมีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดรุ่นใหม่ที่ทุกคนยืนยันว่ามีประสิทธิภาพ 100 เปอร์เซ็นต์มาให้ ผมก็อยากเปลี่ยนเหมือนกัน"
ผบ.พตท.ชู "จีที 200" สำเร็จนับครั้งไม่ถ้วน
พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการกองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) กล่าวว่า ประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับสารระเบิด จีที 200 ที่ใช้ในภารกิจแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 500 เครื่องนั้น จัดเป็นหนึ่งในเครื่องมือของเจ้าหน้าที่ที่นำมาใช้งานแล้วได้ผลดี ให้ประโยชน์มากกว่าผลด้านลบ และเมื่อเปรียบเทียบสถิติการนำเครื่องมาใช้ พบว่าสามารถสกัดกั้นการเกิดเหตุรุนแรงมาได้ตลอดนับครั้งไม่ถ้วน ขณะที่ความผิดพลาดอาจมีบ้างแต่น้อย เพียง 1-2 ครั้ง ซึ่งความผิดพลาดนั้นก็เกิดจากตัวบุคคลส่วนหนึ่งด้วย
"หากมองเพียงด้านเดียวว่าเครื่องนี้ถูกระงับใช้เพราะไม่มีประสิทธิภาพ อาจยังไม่เพียงพอที่จะตัดสิน เนื่องจากรูปแบบการนำไปใช้ในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน" พล.ท.กสิกร กล่าว และว่า หากมีคำสั่งระงับใช้เครื่องมือชนิดนี้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะกระทบกับประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน เนื่องจาก จีที 200 ได้รับการยอมรับสูงมากจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง
“อีโอดี” ข้องใจกลุ่มต้านมีอะไรแอบแฝง
แหล่งข่าวซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงจากชุดเก็บกู้ทำลายล้างวัตถุระเบิด (อีโอดี) ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า เครื่องยี่ห้อ ADE-651 ที่รัฐบาลอังกฤษสั่งปิดบริษัทตามที่เป็นข่าวนั้น ไม่ได้มีใช้ในหน่วยทหารที่ทำงานอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะใช้แต่เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 และยังคงใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุดก็ได้มีการอบรมการใช้งานให้กับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเพื่อป้องกันความผิดพลาด
“ที่มีกลุ่มหรือบุคคลออกมาโจมตีเครื่องมือ จีที 200 นั้น ก่อนหน้านี้ทางกองทัพบกก็ได้ทำการชี้แจงและทดสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ให้หลายๆกลุ่มได้ดู แม้กระทั่งคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ของสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้รับรู้ถึงประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์จีที 200 ไปแล้ว โดยได้ทำการทดสอบต่อหน้าคณะกรรมาธิการเลย ส่วนกลุ่มที่ยังโจมตีไม่เคยเรียกร้องหรือขอเข้าชมการทดสอบอุปกรณ์จีที 200 กับทางหน่วยทหารที่รับผิดชอบแม้แต่ครั้งเดียว แต่กลับพยายามให้ข่าวเสียๆ หายๆ ผ่านสื่อมาตลอด”
นายทหารผู้นี้ ยังกล่าวอีกว่า ทุกครั้งที่มีการโจมตีอุปกรณ์ จีที 200 จากบุคคลที่ออกมาเคลื่อนไหว มักจะมีการหยิบยกความผิดพลาดที่เกิดขึ้น 2 ครั้งในการตรวจหาวัตถุระเบิดของเครื่องที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เมือง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มาเป็นกรณีกล่าวอ้างเสมอ แต่ไม่เคยย้อนมองถึงผลการใช้งานของเครื่องที่เคยประสบความสำเร็จ สามารถหาวัตถุระเบิด หาสิ่งผิดกฎหมาย อาวุธปืน มาจนนับครั้งไม่ถ้วน สร้างความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนมาตลอดระยะเวลาหลายปี แต่บุคคลกลุ่มดังกล่าวกลับไม่สนใจ เอาแต่ย้ำถึงความผิดพลาดของ จีที 200 ที่เกิดเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น
“ท่าทีเช่นนี้ทำให้เกิดความสงสัยว่า การออกมาโจมตีมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงหรือไม่ ซึ่งทางหน่วยทหารในพื้นที่คงไม่สนใจ และจะใช้อุปกรณ์ จีที 200 ในการตรวจหาสารระเบิดและสิ่งผิดกฎหมายต่อไป เพราะหลายๆ ครั้งอุปกรณ์ จีที 200 สามารถช่วยชีวิตกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ให้รอดพ้นจากการลอบวางระเบิดของคนร้ายได้” นายทหารชุดอีโอดี กล่าว
บิ๊กกองทัพโทษลูกน้องประมาท
ขณะที่แหล่งข่าวซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงของกองทัพบก กล่าวว่า กรณีที่ทางการอังกฤษสั่งแบนเครื่อง ADE-651 คงตอบไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่เครื่องจีที 200 ที่บริษัทโกลบอล เทนิคอล ลิมิเต็ด จำกัด จากประเทศอังกฤษเป็นผู้ผลิต และได้ผลิตขายให้กับภูมิภาคที่กำลังพัฒนาอยู่หลายประเทศนั้น ถือว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมกับประเทศที่กำลังพัฒนา เนื่องจากราคาไม่แพง
ทั้งนี้ ทางบริษัทฯได้ผลิตเครื่อง จีที 200 ออกมาระยะหนึ่งแล้ว แต่หลังจากที่ทางการอังกฤษให้จัดทดสอบเครื่อง และเห็นว่าไม่มีความเหมาะสมกับการใช้งานของอังกฤษ จึงไม่รับรองให้เป็นยุทธภัณฑ์ แต่ถ้ามาเทียบการใช้งานในประเทศไทย โดยเฉพาะการทำงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือว่าเหมาะสมมากที่สุด เพราะด้วยราคาที่ถูกแล้ว ยังสร้างความพึงพอใจกับเจ้าหน้าที่ที่ออกปฏิบัติงานในแต่ละครั้งด้วย แม้ว่าลึกๆ ในใจของกำลังพลอยากได้เครื่องมือที่มีคุณภาพมากกว่านี้ แต่ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องงบประมาณ ทำให้ต้องเลือก จีที 200 และก็ทำให้กำลังพลอุ่นใจได้ระดับหนึ่ง
"สาเหตุที่ จีที 200 เกิดปัญหาอยู่ในเวลานี้ เกิดจากความผิดพลาดของกำลังพลที่ประมาท เพราะคิดว่าเพียงแค่ถือ จีที 200 เดินไปเดินมาคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ความเป็นจริงการใช้เครื่อง จีที 200 ให้เกิดประสิทธิภาพนั้น กำลังพลจะต้องมีความพร้อม 100% และจากการตรวจสอบการใช้งานในประเทศไทย ก็พบว่าใช้ได้ผลถึง 70-80% ถือว่าดี และคงไม่มีการฟ้องร้องบริษัทที่นำเครื่องมาขายให้” นายทหารระดับสูง กล่าว
หมอพรทิพย์ปัดข่าวอังกฤษเรียกคืนเครื่อง
ด้าน แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวทางการอังกฤษจะเรียกคืนเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่ใช้อยู่ในประเทศไทย เพราะผลิตจากบริษัทในประเทศอังกฤษเช่นกันว่า จากการตรวจสอบข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ พบว่าเครื่องที่มีปัญหาและจะถูกเรียกคืนเป็นคนละเครื่องกับ จีที 200 ซึ่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์สั่งซื้อมาเพื่อใช้ในภารกิจด้านนิติวิทยาศาสตร์ ที่ผ่านมาเครื่องจีที 200 สามารถตรวจหาระเบิด ตะปูเรือใบ หรือกระสุนที่จมอยู่ใต้น้ำได้ โดยใช้งานได้ผลระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ยอมรับว่า เครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ควรได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้มากเกินไป เพราะเครื่องมีสิทธิ์เออเรอร์ (error) หรือไม่เที่ยงตรงได้ ดังนั้นต้องใช้เครื่องอย่างมีวิจารณญาณ
------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เหตุระเบิด "คาร์บอมบ์" ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2552 ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากความผิดพลาดของเครื่อง จีที 200