"ครม.ส่วนหน้า" ได้ฤกษ์ลงพื้นที่เต็มคณะ ถกผู้นำศาสนา - แบ่งรับผิดชอบ 7 ภารกิจ

“ครม.ส่วนหน้า” หรือผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงพื้นที่เต็มคณะครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 พ.ย.59  พร้อมประชุมร่วมกับผู้นำศาสนาที่ค่ายทหารในปัตตานี หลังจากได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา 

          พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ครม.ส่วนหน้า ได้จัดประชุมเต็มคณะร่วมกับผู้นำศาสนาและตัวแทนคณะกรรมการอิสลาม 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนพบปะตัวแทนชาวไทยพุทธในพื้นที่

          จากนั้น ครม.ส่วนหน้า ได้มอบนโยบายการทำงานให้กับตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ซึ่งรวมถึงงานแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธี

          ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งของการประชุม พล.อ.อุดมเดช ได้เปิดโอกาสให้ผู้นำศาสนาแสดงความคิดเห็น โดย นายรุสดี บาเกาะ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ได้เสนอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่และต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

          เป็นที่น่าสังเกตว่า ครม.ส่วนหน้า ซึ่งมีสมาชิก 13 คน ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีให้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.59 แต่เพิ่งลงพื้นที่เต็มคณะเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 พ.ย. หลังผ่านมาเกือบ 1 เดือนเต็ม โดยครม.ส่วนหน้ามีสถานที่ทำงานอยู่ในกองพลทหารราบที่ 15 ด้วย

          สำหรับ ครม.ส่วนหน้า แบ่งงานเป็น 7 ภารกิจ คือ
          1.งานรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มี พล.อ.ปราการ ชลยุทธ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 รับผิดชอบ
          2.งานอำนวยความยุติธรรมและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ มี พล.อ.สกล ชื่นตระกูล อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และ พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ อดีตผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ รับผิดชอบ
          3.งานสร้างความเข้าใจทั้งในและต่างประเทศ เรื่องสิทธิมนุษยชน มี พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 รับผิดชอบ
          4.งานการศึกษา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม มี พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รับผิดชอบ
          5.งานพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่และคุณภาพชีวิตประชาชน มี นายภาณุ อุทัยรัตน์ อดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. และ นายจำนัล เหมือนดำ อดีตรองเลขาธิการ ศอ.บต. รับผิดชอบ
          6.งานเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐและการขับเคลื่อนนโยบาย มี พล.อ.จำลอง คุณสงค์ อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 และ นายพรชาต บุนนาค อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ รับผิดชอบ
          และ 7.งานแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งโดยสันติวิธี มี พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และ พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ รับผิดชอบ

          ทั้งนี้ ผู้นำศาสนาหลายคน เช่น นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้แสดงความชื่นชมรัฐบาลต่อการคัดเลือกตัวบุคคลมาทำหน้าที่ ครม.ส่วนหน้า เพราะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ทำงานในพื้นที่มายาวนาน และรู้จักคุ้นเคยกับผู้นำศาสนาเป็นอย่างดี คาดว่าการทำงานจะประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม

ค้นบ้านต้องสงสัยปัตตานียึดปืน 6 กระบอก

          เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตามยึดอาวุธสงครามได้ล็อตใหญ่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น และคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 คนเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ต่อเนื่องวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา

          ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการสนธิกำลังร่วมกันของตำรวจและทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 23 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 41/3 บ้านตาเนาะบาตู ต.คลองมานิง อ.เมืองปัตตานี สามารถตรวจยึดอาวุธปืนสงครามได้ 6 กระบอก เป็นปืนอาก้า 2 กระบอก ปืนเอ็ม 16 แบบตัดสั้น 1 กระบอก ปืนลูกซองยาวตัดสั้น 3 กระบอก นอกจากนั้นยังมีกระสุนปืน ซองปืน และโทรศัพท์มือถืออีกเป็นจำนวนมาก

          ผู้ต้องสงสัย 2 รายที่ถูกคุมตัว คือ นายมาโซ สาเยาะ อายุ 20 ปี มีหมายจับในคดีชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ และนายอนิรุท ดอเล๊าะ ทั้งคู่มีภูมิลำเนาใน ต.คลองมานิง ขณะนี้ถูกส่งเข้ากระบวนการซักถามที่หน่วยข่าวกรองทางทหารส่วนหน้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ :

1 คณะ ครม.ส่วนหน้า 13 คนถ่ายภาพร่วมกัน

2 ครม.ส่วนหน้า ประชุมร่วมกับผู้นำศาสนา

3 ปืนสงคราม 1 ใน 6 กระบอกที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้