- Home
- Isranews
- เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา
- จากบ้านหรูพล.อ.ปรีชา ถึงนาฬิกา พล.อ.ประวิตร! รวมฮิตคีย์แมนคสช.ปี60 ใครถูกครหาอะไรบ้าง?
จากบ้านหรูพล.อ.ปรีชา ถึงนาฬิกา พล.อ.ประวิตร! รวมฮิตคีย์แมนคสช.ปี60 ใครถูกครหาอะไรบ้าง?
"...เรื่องใหญ่ที่ดูเหมือนจะสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลชุดนี้และคสช.มากที่สุด ในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา คือ เสียงข้อครหาของผู้บริหารระดับสูง หรือบุคคลใกล้ชิด ในแง่ลบเรื่องต่างๆ ที่ถาโถมเกิดขึ้นมาเห็นโดยไม่หยุดหย่อน และทำให้เกิดปัญหาด้านภาพลักษณ์ ที่ไม่สง่างาม..."

ในรอบปี 2560 ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงเวลาที่การบริหารงานประเทศของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารงานประเทศตามนโยบายด้านต่างๆ ที่วางไว้ ซึ่งถูกระบุว่ายังไม่โดนใจประชาชนเท่าที่ควร โดยเฉพาะปัญหา "การกินดีอยู่ดีของประชาชน"
แต่เรื่องใหญ่ที่ดูเหมือนจะสร้างปัญหาใหญ่หลวงให้กับรัฐบาลชุดนี้มากที่สุด ในช่วงปี 2560 ที่ผ่านมา คือ ข้อครหาของผู้บริหารระดับสูง หรือบุคคลใกล้ชิด ในแง่ลบเรื่องต่างๆ ที่ถาโถมเกิดขึ้นมาเห็นโดยไม่หยุดหย่อน จนทำให้เกิดปัญหาด้านภาพลักษณ์ ที่ไม่สง่างาม
ในโอกาสที่ปี 2560 กำลังจะผ่านพ้นไป สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้สรุปรวบรวมข้อมูลว่า มีบุคคลระดับสูงในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคีย์แมนในฝ่ายความมั่นคงรายไหนบ้าง ที่ต้องเผชิญหน้ากับข้อครหาในแง่ลบเรื่องต่างๆ มาให้สาธารณชนรับทราบ เพื่อบันทึกไว้เป็นทางการ ในการติดตามข้อมูลข่าวสารปี 2561 ที่จะถึงนี้
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
@ รวมฮิต พล.อ.ปรีชา "ครอบครองบ้านหรู-ขาดประชุมสนช.-ลูกชายจดทะเบียนตั้งบ.ในค่ายทหาร"
ในเรื่องการครอบครองบ้านหรู เป็นประเด็นมีความต่อเนื่องมาจากปลายปี 2559 โดย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมายอมรับต่อ สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ว่า เป็นเจ้าของคฤหาสถ์หรู ตั้งอยู่ที่ 115/99 ถนนศรีคชคง (ซอยพระองค์ขาว 5) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งแม้ว่า พล.อ.ปรีชา จะออกมายืนยันว่าการได้ที่ดินดังกล่าวนั้นมาจากการที่ ‘บิดา’ พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา ขายที่ดิน และแบ่งเงินให้ แต่ก็ยังมีคำถามตามมาอีกว่าแล้วตัวบ้านหลังดังกล่าวได้มาอย่างไร ใช้เงินจากไหนไปสร้าง? ซึ่งต้องดูรอช่วงพ้นจากตำแหน่ง สนช. เสียก่อน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จีงจะเข้าไปตรวจสอบ เหมือนกับกรณีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคนอื่นๆ นี่ยังไม่นับรวมกรณีบรรดาลูกชายของพล.อ.ปรีชา ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องต่างๆ ตั้งแต่การได้รับแต่งตั้ง เข้ารับราชการทหาร ของ นายปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่ง รรก.นายทหารปฏิบัติการกิจการพลเรือน ทภ.3 (อัตรา พ.ต.) รับเงินเดือน ระดับ น.1 ชั้น 18 (15,000 บาท) และแต่งตั้งยศเป็นว่าที่ร้อยตรี (เหล่า สบ.) ทั้งที่เพิ่งเรียนจบมาใหม่ๆ รวมถึงกรณี หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ของ นายปฐมพล จันทร์โอชา บุตรชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ถูกตรวจสอบพบว่า ตั้งอยู่เป็นบ้านพักในค่ายทหาร และปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญารับเหมาก่อสร้างหน่วยงานในกองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าหลายสัญญาด้วย (อ่านประกอบ : พบ หจก.ลูกชาย 'พล.อ.ปรีชา' คว้ารับเหมา 'ทัพภาค3' 2 โครงการ 26.9 ล.)
และเรื่องราวของพล.อ.ปรีชา ก็ยังไม่ได้จบลงแต่นั้น เพราะในช่วงเดือน ก.พ. 60 ก็มีประเด็นเกี่ยวกับ พล.อ.ปรีชาขึ้นมาอีก โดยถูกตั้งข้อสังเกตว่ามี สนช.จำนวน 7 คนขาดประชุมจนอาจต้องเข้าข่ายพ้นสภาพสมาชิก สนช. โดยทั้ง 7 คนประกอบไปด้วย พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา, พล.ร.อ.ณะ อารีกิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์ เสนาธิการทหารเรือ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ได้ออกมายืนยันว่า ข้อบังคับการประชุมสนช.พ.ศ.2557กำหนดให้สมาชิกสนช.ต้องลงมติอย่างน้อย 1 ใน 3 ของทุกรอบ 90 วัน ซึ่งทันทีที่มีข่าวออกมาได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทำการตรวจสอบแล้วปรากฏว่ามีการลาประชุมถูกต้องตามข้อบังคับการประชุม สนช. ดังนั้นทั้งหมดจึงยังไม่น่าจะขาดสมาชิกภาพ
@ พล.อ.ประยุทธ์ - พล.อ.ประวิตร ถูกร้องปล่อยกัมพูชาสร้างคาสิโนในพื้นที่ทับซ้อน
เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ได้เผยแพร่ภาพพร้อมข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากลงพื้นที่ จุดผ่านแดน ด่านช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พบว่า มีการเปิดบ่อนบนพื้นที่ดังกล่าว โดยพื้นที่แห่งนี้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน พร้อมกล่าวอ้างว่า บ่อนดังกล่าวเป็นของนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลของกัมพูชา ซึ่งมีทหารใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องได้รับผลประโยชน์ด้วย ขณะเดียวกันได้ตั้งคำถามถึงการปล่อยให้สร้างบ่อนต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมทั้งกล่าวหาว่าพล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ถ้ายินยอมให้กัมพูชาเข้ามาก่อสร้างบ่อนกาสิโนบนพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนนี้ อาจเข้าข่ายมีความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
อย่างไรก็ดี กรณีนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ออกมาชี้แจงว่าเรื่องพื้นที่นั้นขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่เรื่องนี้มีคณะกรรมการปักปันเขตแดนอยู่แล้ว ต้องรอให้ปักปันให้ชัดก่อน ฉะนั้น อย่าไปเรียกว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ขณะนี้ยังเป็นพื้นที่อ้างสิทธิต่างคนต่างอ้างสิทธิ ยังไม่รู้ว่าเป็นของใคร
เป็นการยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้มีการละเลยหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่นายวีระกล่าวอ้างแต่อย่างใด
@ พล.อ.ประวิตร ถูกครหาละเลยปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้'ยิ่งลักษณ์' ออกนอกประเทศ
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. เกิดเหตุการณ์สำคัญในแวดวงการเมืองไทยขึ้นเมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ หลังไม่ยอมมาฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว กับคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลทำให้เมื่อวันที่ 28 ส.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ไปยื่นหนังสื่อต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินการเอาผิดกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่ากาiกระทรวงกลาโหมกลาโหม และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานความผิดตาม พรบ.ป.ป.ช. ปี 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม ประกอบรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 52 และ 53 ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนจากป.ป.ช.ว่า จะรับเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนเป็นทางการหรือไม่ พล.อ.ประวิตร และพล.ต.อ.จักรทิพย์ จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จากข้อกล่าวหาในเรื่องนี้อยู่
แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ปรากฎหลักฐานยืนยันชัดเจนจากหน่วยงานที่รับผิดชอบเสียที่ ว่า สุดท้ายแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีออกไปนอกประเทศได้อย่างไร มีใครคอยให้ความช่วยเหลือบ้าง?
@ พล.ร.อ.ลือชัย ถูกฟ้องปมเร่งเซ็นสัญญาเรือดำน้ำจีน
เมื่อวันที่ 2 พ.ค. พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการ (เสธ.) กองทัพเรือ ถูกกล่าวหาจากนายศรีสุวรรณเจ้าเดิม ที่เดินทางไปร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินว่า การที่ พล.ร.อ.ลือชัย เดินทางไปลงนามจัดจ้างสร้างเรือดำน้ำ S26T ลำแรก วงเงิน 13,500 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) กับรัฐบาลจีน นั้นเป็นการลุกลี้ลุกลนเซ็นสัญญา อย่างไรก็ดี ในวันที่ 22 พ.ค. นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน(ณ ขณะนั้น) แถลงยืนยันว่าการโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำไม่มีความผิดปกติ และถือว่าทำตามขั้นตอนของระเบียบวิธีการขอจัดสรรงบประมาณ ที่ผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการฯ ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.), การเสนอโครงการที่ผ่านความเห็นจากที่ประชุม ครม. , ขั้นตอนที่เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลัง ที่ระเบียบของ สตง. ระบุไว้ รวมถึงไม่มีความเสี่ยงต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แต่เรื่องนี้ ก็หนีไม่พ้นเสียงครหาตามมาว่า กองทัพเรือใช้งบประมาณจำนวนมากไปกับการซื้อเรือดำน้ำดังกล่าว จะคุ้มค่ากับประเทศไทยหรือไม่
@ พล.อ.นิพนธ์ เครือญาติ พล.อ.อุดมเดช นั่งคุมบริษัทลงทุนในโครงการผลิตแสงอาทิตย์ของรัฐ
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.สำนักข่าวอิศรา ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับกรณีองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) คัดเลือกเอกชนเพื่อเข้าร่วมลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร พ.ศ. 2560 (โซลาร์ฟาร์ม) รวม 100 เมกะวัตต์ สัญญา 25 ปี จำนวน 25 โครงการ โดยปรากฏชื่อบริษัท เข็มเหล็ก จำกัด ผ่านการคัดเลือกในรอบสุดท้าย ซึ่งบริษัทเข็มเหล็กดังกล่าวนี้ มีพล.อ.นิพนธ์ สีตบุตร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ
ทั้งนี้สำนักข่าวอิศราได้สืบค้นข้อมูลพบว่าพล.อ.นิพนธ์ สีตบุตร เป็นนายทหารเกษียณราชการ เคยเป็นประธานที่ปรึกษาประธานกรรมการการประปานครหลวง (กนป.) เมื่อปี 2555 และเคยเป็นประธานที่ปรึกษาหนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง และปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า เป็นเครือญาติของ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีต รมช.กลาโหม จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์แง่ลบตามมาจำนวนมาก ในเรื่องความเหมาะสม
@ ‘พล.อ.ฉัตรชัย’ ถูกกล่าวหาปม ซื้อเฮลิคอปเตอร์ AW139
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. มีอีกประเด็นครหามาสู่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยถูกสื่อมวลชนระบุว่า เป็นผู้อนุมัติจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ AW 139 จำนวน 2 ลำ ของสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) วงเงินราว 46 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือ 1,474 ล้านบาท โดยสำนักนายกรัฐมนตรีสนับสนุนงบประมาณให้กรมการขนส่งทหารบกดำเนินการ ภายหลังรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 เพียง 2 เดือน โดยยกเหตุผลว่า เพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์ 212 (BELL 212) ของสำนักนายกรัฐมนตรีที่ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2532 อายุใช้งานมากกว่า 20 ปี
อย่างไรก็ดีถูกหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า มีราคาจัดซื้อสูงกว่า เฮลิคอปเตอร์ AW 139 ของกองทัพบก ประมาณ 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 124 ล้านบาท
@ ครหา ‘พล.อ.อนุพงษ์’ ปมซื้อเรือเหาะสมัยเป็น ผบ.ทบ.ไม่คุ้มค่า
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้แถลงข่าวว่าจะยุติการใช้เรือเหาะในภารกิจตรวจการณ์พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังใช้งานมาตั้งแต่ปี 2552 ในสมัยที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็น ผบ.ทบ. ณ เวลานั้น เนื่องจากตัวเรือเหาะที่เป็นบอลลูนทำจากผืนผ้า มีอายุการใช้งาน 8 ปี ครบอายุการใช้งาน ขณะที่กล้องตรวจการณ์ที่ยังใช้งานได้
จากการให้ข่าวดังกล่าวนั้นทำให้เกิดประเด็นตามมา โดยนายศรีสุวรรณ ได้เดินทางไป สตง.เมื่อวันที่ 18 ก.ย. เพื่อยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบความคุ้มค่าของการใช้เงิน กรณีจัดซื้อจัดหาและใช้งานเรือเหาะของฝ่ายความมั่นคงในยุคพล.อ.อนุพงษ์ โดยต้องการให้สตง.ตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐ 350 ล้านบาท ในการซื้อเรือเหาะ และงบประมาณในการบำรุงรักษาอีกปีละ 50 ล้านบาท รวมแล้วเป็นงบประมาณใช้ไปประมาณ 700-800 ล้านบาทว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่ และต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย 1.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา 2. คณะกรรมการตรวจรับเรือเหาะตรวจการณ์ 3. อดีตคณะรัฐมนตรีที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ในฐานะอนุมัติงบประมาณให้กองทัพบกนำไปใช้ 4.พนักงาน เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง
@ ‘อนุพงษ์’ โดนอีก ถูกกล่าวหาจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วแพงกว่าที่สหรัฐ
จากนั้น เมื่อวันที่ 10 ต.ค. พล.อ.อนุพงษ์ ก็ตกเป็นเป้าข้อครหาอีกครั้ง เมื่อเป็นผู้เสนอเรื่องให้กรมป้องกันและบรรทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพา จำนวน 1,064 เครื่อง โดยสนนราคาเครื่องละ 9 แสนบาท ในงบประมาณ 957.6 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและสนับสนุนการปฏิบัติงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จากนั้นได้มีกระแสตามมาว่าทำไมไทยถึงได้ซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพาในราคาที่สูง โดยเทียบกับของอเมริกาที่มีขายในราคาตัวละ 1,000 ดอลลาห์สหรัฐ หรือประมาณ 34,000 บาท (อ้างอิงจาก radarguns) ซึ่งแพงกว่าที่ขายที่สหรัฐหลายเท่า
@ สงสัย ‘พล.อ.ประวิตร’ ใส่นาฬิกาหรูและแหวนเพชร ปริศนา
สำหรับประเด็นสุดท้ายปิดฉากปี 2560 เรื่องนาฬิกาหรูและแหวน ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ซึ่งถูกเปิดประเด็นขึ้นมาหลังจากที่มีการแพร่ภาพ พล.อ.ประวิตร สวมใส่นาฬิกาข้อมือยี่ห้อริชาร์ดมิลล์ Richard Mille และแหวนเพชรขณะระหว่างการถ่ายภาพหมู่คณะรัฐมนตรีประยุทธ์ 5 จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าพล.อ.ประวิตร ได้นาฬิกาเรือนนี้มาจากที่ใด และมีการแจ้งข้อมูลในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่
ปัจจุบันเรื่องอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบของป.ป.ช. โดยกำหนดให้พล.อ.ประวิตร ชี้แจงที่มาของทรัพย์สิน ภายในวันที่ 8 ม.ค.61 นี้ ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลกับบริษัท THG Prima Times Co.,LTD. ซึ่งเป็นตัวแทนนำเข้าและจำหน่ายนาฬิกายี่ห้อริชาร์ดมิลล์แห่งเดียวในประเทศไทย ได้รับการยืนยันว่า ทางร้านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเพราะ ไม่เคยพบประวัติว่าพล.อ.ประวิตรมาซื้อสินค้ากับทางร้านแต่อย่างใด
ขณะที่ล่าสุด เพจดังและสื่อออนไลน์หลายสำนัก ก็ยังตามขุดคุ้ยต่อเนื่องและพบว่า พล.อ.ประวิตร ยังสวมใส่นาฬิกาหรู อีกหลายเรือน ขณะที่มีกระแสข่าวว่าทรัพย์สินบางรายการเป็นของเพื่อนคนสนิท ที่นำมาใช้สวมใส่ตอนออกงานสำคัญๆ เท่านั้นเอง?
-------
ทั้งหมดนี้ คือ ข้อครหาของผู้บริหารระดับสูง หรือบุคคลใกล้ชิดในรัฐบาล และคสช. ซึ่งล้วนแล้วแต่ได้ชื่อว่าเป็นระดับคีย์แมนคนสำคัญ ที่เกิดขึ้นในรอบปี 2560 ที่ผ่านมา และมีหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ยังต้องติดตามตรวจสอบความคืบหน้าต่อไปในปี 2561 ว่าผลลัพธ์แต่ละเรื่องจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง?
