ยลโฉมของขลังพันล.! ‘โคตรเหล็กไหล’ 2 ก้อน ส.ส.คฑาเทพ หน.พลังไทยรักไทย
“…เมื่อประมาณปี 2537-38 มีชาวบ้านได้มาแล้วเก็บไปบูชา แต่เกิดเรื่องไม่ดีกับคนที่เก็บมา เลยให้ตนฟรี ๆ เพราะเหมือนเขาเห็นเราเคยมีบุญคุณ ทีนี้มาได้รับเหล็กไหล 2 ก้อนนี้มาอยู่กับตัวก็มีแต่สิ่งดี ๆ ขออะไรก็ได้สมปรารถนา ถ้าเกิดตนขออะไรแล้วสมหวังขอให้ยกขึ้น ไม่สมหวังขอให้ยกไม่ขึ้น (น้ำหนักเหล็กไหลประมาณ 20 กิโลกรัม) จนกลายเป็นข่าวโด่งดังเคยมีสื่อมาทำข่าวไปแล้วช่วงปี 2540 แต่พอตนมาเล่นการเมืองไม่อยากพูดถึง…”
ในการเผยแพร่บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส. ล็อตสุดท้าย 80 ราย นอกเหนือจากบุคคลที่น่าสนใจอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แล้ว
นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย คืออีกคนที่มีทรัพย์สินน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการแจ้งครอบครอง ‘โคตรเหล็กไหล’ และ ‘มหาเหล็กไหล’ รวม 2 ก้อน มูลค่ากว่าพันล้านบาท ! (อ่านประกอบ : ทรัพย์สิน ‘ธนาธร’ 5.6 พันล.ปล่อยกู้อนาคตใหม่191ล.-'คฑาเทพ'มีโคตรเหล็กไหล พันล.)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล แจ้งกรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. แจ้งสถานะว่า หย่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,112,531,135 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 801,083 บาท
เป็นเงินฝาก 2,281,135 บาท ที่ดิน 2 แปลง 5 แสนบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 8,250,000 บาท และทรัพย์สินอื่น 1,100,000,000 บาท
แจ้งมีรายได้ต่อปี จากการรับจ้างทั่วไป 3.6 แสนบาท มีรายจ่ายต่อปี 293,300 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 1.2 แสนบาท ค่าผ่อนที่ดิน 159,600 บาท ค่าเล่าเรียน 13,700 บาท ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีค่าใช้จ่ายส่วนตัว 42,000 บาท
ก่อนหน้านี้นายคฑาเทพ ระบุว่าระหว่างปี 2558-2559 ทำงานรับจ้างทั่วไป ตั้งอยู่ที่ ม.2 บ้านพ้องดอน ต.โนนโพธิ์ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ปี 2559-2562 เป็นเจ้าของกิจการร้านเตชะกานต์พาณิช
โดยทรัพย์สินที่น่าสนใจคือ แจ้งครอบครองวัตถุมงคล 10 ราย การ ได้แก่
1.เหล็กไหลช่อ (โคตรเหล็กไหล) 700 ล้านบาท ได้มาเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2537
2.เหล็กไหลก้อน (มหาเหล็กไหล) 300 ล้านบาท ได้มาเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2538
3.อุกาบาตร (อุกามณีดำ) 10 ล้านบาท ได้มาเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2540
4.สมเด็จวัดระฆังพิมเกตุบัวตูม 1 องค์ ได้มาเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2541 มูลค่า 15 ล้านบาท
5.สมเด็จบางขุนพรหม 1 องค์ ได้มาเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2541 มูลค่า 5 ล้านบาท
6.พระสมเด็จวัดระฆัง (ผงตะไบทอง) 1 องค์ ได้มาเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2542 มูลค่า 10 ล้านบาท
7.พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ฐาน 16 ซม. 1 องค์ ได้มาเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2542 มูลค่า 15 ล้านบาท
8.พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 1 องค์ ได้มาเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2542 มูลค่า 15 ล้านบาท
9.พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่เกศทะลุซุ้ม 1 องค์ ได้มาเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2543 มูลค่า 15 ล้านบาท
10.พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 1 องค์ ได้มาเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2543 มูลค่า 15 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีตามกฎหมายใหม่ ป.ป.ช. ได้ปิดทับภาพทรัพย์สินทั้งหมด แต่ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังนายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล เพื่อขอภาพดังกล่าว โดยนายคฑาเทพได้ส่งภาพมาให้ ได้แก่ เหล็กไหลช่อ (โคตรเหล็กไหล) และเหล็กไหลก้อน (มหาเหล็กไหล) ดังนี้
เหล็กไหลช่อ (โคตรเหล็กไหล) 700 ล้านบาท ได้มาเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2537
เหล็กไหลก้อน (มหาเหล็กไหล) 300 ล้านบาท ได้มาเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2538
นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีนี้ว่า สำหรับเหล็กไหลทั้ง 2 ก้อน (เหล็กไหลช่อ, เหล็กไหลก้อน) ได้มาเมื่อประมาณปี 2537-38 มีชาวบ้านได้มาแล้วเก็บไปบูชา แต่เกิดเรื่องไม่ดีกับคนที่เก็บมา เลยให้ตนฟรี ๆ เพราะเหมือนเขาเห็นเราเคยมีบุญคุณ ทีนี้มาได้รับเหล็กไหล 2 ก้อนนี้มาอยู่กับตัวก็มีแต่สิ่งดี ๆ ขออะไรก็ได้สมปรารถนา ถ้าเกิดตนขออะไรแล้วสมหวังขอให้ยกขึ้น ไม่สมหวังขอให้ยกไม่ขึ้น (น้ำหนักเหล็กไหลประมาณ 20 กิโลกรัม) จนกลายเป็นข่าวโด่งดังเคยมีสื่อมาทำข่าวไปแล้วช่วงปี 2540 แต่พอตนมาเล่นการเมืองไม่อยากพูดถึง
ส่วนสาเหตุมูลค่าเหล็กไหล 2 ก้อนที่มูลค่ารวม 1 พันล้านบาทนั้น นายคฑาเทพ ระบุว่า ในช่วงที่ข่าวโด่งดัง มีบุคคลจากต่างประเทศที่สนใจเรื่องของขลัง ติดต่อมาขอซื้อจำนวน 700 ล้านบาท เลยแจ้งมูลค่าตัวเลขนี้แก่ ป.ป.ช. อย่างไรก็ตามต่อให้มีคนขอซื้อราคาสูงเป็นพันล้านบาทก็ไม่ขาย
ส่วนที่มาอุกกาบาตร มูลค่า 10 ล้านบาทนั้น นายคฑาเทพ ระบุว่า ในช่วงได้มามีชาวบ้านจากเห็นหินจากไหนไม่รู้ตกมาจากฟ้า พอไปดูก็พบว่าเป็นหินลวดลายสวยงาม ชาวบ้านเก็บได้เลยเอามาขายตน จึงซื้อมาแค่หลักหมื่นบาท ต่อมามีคนมาขอซื้อต่อ 10 ล้านบาท จึงแจ้งมูลค่าเท่านี้เช่นกัน
ขณะที่นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบก่อน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/