จับกระแสสูตรตั้งรบ.ใหม่ เพื่อไทย VS. พปชร. ชิงธงนำ 'แค้นเก่า-งูเห่า' ตัวแปรสำคัญ
"...แม้ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภท. จะเป็นหัวจ่ายหลัก แต่รู้กันดีว่า ว่าที่ส.ส. ภท. มาจากการปลุกปั้นของ “เสี่ยเน” นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภท. คงยากที่จะคิดกลับหลังหันไปจูบปากกับ “ทักษิณ” อีกรอบ ..และโปรดอย่าลืมว่า “เนวิน” สนิทสนมกันดีกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถมเคยปิดเมืองบุรีรัมย์ต้อนรับ “พล.อ.ประยุทธ์” แบบจัดเต็มคนเชียร์ล้นสนามฟุตบอลมาแล้ว..."
แม้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเปิดเผยผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ 95% แค่ ส.ส.เขต!
โดยพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ 137 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐ 97 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 39 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 33 ที่นั่ง พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) 30 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 6 ที่นั่ง พรรคประชาชาติ 6 ที่นั่ง
ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ นั้น กกต. ยังไม่สามารถเปิดผลการคำนวณออกมาได้ เนื่องจากต้องรอให้คะแนนเสียงทุกพรรคทั้งประเทศนิ่งเสียก่อน
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยข้อร้องเรียนเรื่องความไม่โปรงใส่ในการจัดการเลือกตั้งหลายกรณี ที่จะมีผลต่อการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย ซึ่งหากต้องจัดการเลือกตั้งซ่อม คะแนนที่ได้มาจะถูกตัดออกไปทันที
สูตรคำนวณที่ออกมาตามเนื้อผ้าในขณะนี้ ก็ใช้วิธีคำนวณตามที่กฎหมายระบุไว้ โดยนำผลอย่างไม่เป็นทางการ 95% มากันคิดเอง ซึ่งอาจจะทำให้มีผลคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง แต่ความคลาดเคลื่อนก็ไม่เกินบวกลบ 2 ที่นั่ง
โดยจำนวน ส.ส.เขต-ส.ส.บัญชีรายชื่อ คำนวณจากผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 95% ของแต่ละพรรค เรียงตามลำดับดังนี้
พรรคพท. 137 ที่นั่ง (ไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ) พรรคพปชร. 119 ที่นั่ง พรรคอนค. 88 ที่นั่ง พรรคปชป. 55 ที่นั่ง พรรคภท. 52 ที่นั่ง พรรคชทพ. 10 ที่นั่ง พรรคเสรีรวมไทย 10 ที่นั่ง พรรคประชาชาติ 6 ที่นั่ง พรรคร่วมพลังประชาชาติไทย 5 ที่นั่ง พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 ที่นั่ง พรรคเพื่อชาติ 5 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนา 3 ที่นั่ง พรรคท้องถิ่นไท 3 ที่นั่ง พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 1 ที่นั่ง
(อ่านประกอบ :INFO : ผลเลือกตั้งไม่เป็นทางการ 95% พท. 137 พปชร. 97 ภท. 39 ปชป. 33 อนค. 30)
ดังนั้น เมื่อแยกขั้ว วาดภาพสูตรการจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ อาจจะเห็นข้อมูลปรากฎชัดใน 2 ขั้วหลัก คือ
ขั้วพท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคพท. 137 ที่นั่ง พรรคอนค. 88 ที่นั่ง พรรคเสรีรวมไทย 10 ที่นั่ง พรรคประชาชาติ 6 ที่นั่ง พรรคเพื่อชาติ 5 รวม 252 ที่นั่ง
ขั้วพปชร.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคพปชร. 119 ที่นั่ง พรรคปชป. 55 ที่นั่ง พรรคภท. 52 ที่นั่ง พรรคชทพ. 10 ที่นั่ง พรรคร่วมพลังประชาชาติไทย 5 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนา 3 ที่นั่ง พรรคท้องถิ่นไท 3 ที่นั่ง พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 1 ที่นั่ง รวม 248 ที่นั่ง
เมื่อนับรวมจำนวน ส.ส. แยกฝั่งแล้วทั้ง 2 ขั้ว จะพบว่า จำนวน ส.ส. ไม่หนีห่างกันมากนัก ทำให้สูตรการจัดตั้งรัฐบาลมีหลายเงื่อนไข และตัวแปรหลักที่ล็อกขาพรรคที่หาเสียง “ไม่เอา” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคสช. กลับมาดำรงตำแหน่งนายกฯอีกครั้ง ก็ยังมีอยู่
ตัวแปรหลักในขณะนี้ จึงถูกโฟกัสไปที่ ปชป.-ภท. ที่กุมเสียงรวมกัน 107 ที่นั่ง
หากทั้งสองพรรค ไม่เอา “พล.อ.ประยุทธ์” เตรียมเทคะแนนแบ่งรับแบ่งสู้มาจับมือกับ “นายใหญ่-พท.” จะทำให้จำนวนเสียงรวมอยู่ที่ 359 เสียง แต่ก็ยังไม่พอที่จัดชนะโหวตนายกฯ
เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้เสียงกึ่งหนึ่งของการประชุมรัฐสภา โดยมี ส.ส. 500 เสียง ส.ว. 250 เสียง กึ่งหนึ่งเท่ากับ 376 เสียง
จำนวนเสียงที่ยังขาดอยู่!
หากจะทำให้ได้ตามฝัน ต้องรวมเสียงจาก พรรคชทพ. 10 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนา 3 ที่นั่ง พรรคท้องถิ่นไท 3 ที่นั่ง พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 1 นำมาบวกกับ 359 จะได้ 376 เสียงพอดิบพอดี ปล่อยให้ พรรคพปชร.กับพรรครวมพลังประชาชาติไทย ทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา
ทว่าหากดูตามรูปเกมแล้ว สูตรพท.จับมือสารพัดพรรคร่วมรัฐบาล ยากเกินกว่าจะบรรยาย
เพราะต่างพรรค-ต่างค่าย มีแค้นที่ต้องชำระกันอยู่
โดยเฉพาะ ปชป.-ภท. ที่เคยร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลคว่ำ “นายใหญ่” ปล่อยวิวาทะ “มันจบแล้วครับนาย” ให้ดังก้องในใจ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาถึงทุกวันนี้
แม้ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภท. จะเป็นหัวจ่ายหลัก แต่รู้กันดีว่า ว่าที่ส.ส. ภท. มาจากการปลุกปั้นของ “เสี่ยเน” นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภท. คงยากที่จะคิดกลับหลังหันไปจูบปากกับ “ทักษิณ” อีกรอบ
และโปรดอย่าลืมว่า “เนวิน” สนิทสนมกันดีกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถมเคยปิดเมืองบุรีรัมย์ต้อนรับ “พล.อ.ประยุทธ์” แบบจัดเต็มคนเชียร์ล้นสนามฟุตบอลมาแล้ว
เกมซ่อนเกมของ ภท. ซึ่งถูกระบุว่าเป็นตัวแปรสำคัญทางการเมืองในขณะนี้ จะออกมาเป็นอย่างไร จึงชวนให้น่าติดตามอย่างยิ่ง
แต่ การเมืองไทยยุคนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด จำนวนเสียงไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียว เพราะสถานะหลังจัดตั้งรัฐบาลจะมั่นคงหรือไม่ หาก “กองทัพ” ยังแพ๊คกันแน่น แถม ม.44 ยังอยู่ในมือ “พล.อ.ประยุทธ์”
อาจเป็นไปได้ว่า ที่ ภท.-อนุทิน เล่นตัวยื้ออยู่ขณะนี้ ก็เพียงต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี กระทรวงเกรดเอ เกรดบี ที่ต้องเฉือนโควตากับ “พปชร.-พล.อ.ประยุทธ์” เท่านั้นเอง
ฝากฝั่งพรรคปชป.เดินมาถึงจุดตกต่ำ ไร้ส.ส.กทม.-เสียเก้าอี้ส.ส.แดนสะตอ ทำให้แรงต่อรองน้อยลงทันที
แถมยุทธศาสตร์ ประกาศชัดๆย้ำกันสองรอบ นายอภิสทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคปชป. ไม่สนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์” ถูกคนเคยรักปลุกผีทักษิณหลอกหลอน จนแฟนคลับเสียขวัญเทคะแนนให้ “พปชร.-พล.อ.ประยุทธ์”
ส่วน ปชป. หากจะคิดเดินเกมสั้นยืนยันจุดยืนไม่เอา “พล.อ.ประยุทธ์” หากโดนล้มกระดานขึ้นมา มีหวังสูญเสียแฟนคลับเพิ่ม
โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ที่แบรนด์พิสูจน์แล้วว่าแบรนด์ “อภิสิทธิ์-ชวน” ชั่วโมงนี้สู้แบรนด์ “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ได้ เพราะคนใต้เชื่อมั่นว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ที่มีท่าที่แข็งกร้าว สามารถสู้รบกับ “ทักษิณ” ได้ดีกว่า “อภิสิทธิ์” ที่ดูอ่อนนิ่มนุ่มนวล
เมื่อทั้ง ปชป.-ภท. มีเงื่อนชนักปักหลัง จึงยากที่จะเปลี่ยนขั้วซบตัก “ขั้วพท.” แถมเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาลยังยาก เพราะโดนเงื่อนล็อกและอำนาจของ “พล.อ.ประยุทธ์-คสช.” ยังถืออยู่ในมือเต็มๆ
ชั่วโมงนี้ “พปชร.-พล.อ.ประยุทธ์” จึงนอนตีขิมสบายใจ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นแล้ว ว่ากันว่าให้รอดูหลังวันที่ 9 พ.ค. “งูเห่า” จะเลื้อยเข้าพรรคพปชร.เอง เพราะบรรดา ส.ส. รู้อยู่เต็มอกว่าเงื่อนไขของ “ขั้วพท.” ยากแสนยาก และหากยังอยู่ภายใต้ร่มเงาของนายใหญ่-พท. อาจเป็นภัยต่อตัวเอง
โดยเซฟโซนที่ “พปชร.” อยากได้จำนวน ส.ส. มายกมือโหวตผ่านร่างกฎหมายสำคัญในสภา อยู่ที่ 280 เสียง หาก “งูเห่า” จะเลื้อยมาซบก็ต้องไม่มากไปกว่านั้น เพราะการย้ายพรรค-ย้ายขั้ว มักมีค่าใช้จ่ายสูงลิบรอให้เช็คบิลกันอยู่
ที่สำคัญการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ยืนยันได้อย่างดีว่า “ภาคอีสาน” ไม่ใช่ของตายของ “นายใหญ่-พท.” อีกต่อไป หากทำพื้นที่ดี-เสบียงถึง ไม่ต้องพึ่งพากระแสก็พอตัวเองเข้าสภาได้
แต่สถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้น กระบวนการ ที่ “พปชร.” จะรวมเสียงพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เปิดทาง “พล.อ.ประยุทธ์” คัมแบ๊คเก้าอี้นายกรัฐมนตรี จะออกมาเป็นแบบไหน "เพื่อไทย" จะใช้กลยุทธ์ไหนมาต่อสู้
เป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูกันต่อไป แบบห้ามกะพริบตาโดยเด็ดขาด!
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/