เปิดพฤติการณ์ ขรก.กองทัพอากาศ ตระเวนใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษา19 รพ.ดัง 8แสน?
"...กลุ่มที่มีพฤติกรรมการตระเวณใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลตามสถานพยาบาลต่างๆ จำนวน 10 ราย รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 2,419,468.10 บาท พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ จะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน คือ มีการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงตามสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อขอรับตัวยาด้วยโรคเดียวกัน ในเวลาที่ใกล้เคียงกัน ตัวอย่างเช่น ข้าราชการ 1 ราย สังกัดกองทัพอากาศ มีการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรง ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย.2561 ตามสถานพยาบาลต่างๆ รวม 19 แห่ง ด้วยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ กรดไหลย้อน รวมค่ารักษาพยาบาลทั้งสิ้น 816,876 บาท..."
หากสาธารณชนยังจำกันได้ในช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เคยนำเสนอข่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติสั่งการให้ส่วนราชการให้ความสำคัญต่อการตรวจสอบพฤติกรรมการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลที่กรมบัญชีกลางจัดส่งเป็นประจำทุกเดือน และหากพบว่าผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวมีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทุจริตในการใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลขอให้ส่วนราชการเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการทุจริต ให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยประเด็นนี้สืบเนื่องจากที่ ครม. ได้รับทราบรายงานการดำเนินโครงการบัตรสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และปัญหาอุปสรรค ประจำปีงบประมาณ 2561 โดยการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอก ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.-30 ก.ย. 2561 มีผู้ใช้สิทธิเฉลี่ยเดือนละ 1,255,717 คน จำนวนธุรกรรม 13,568,269 รายการ เป็นเงินกว่า 21,892 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ส่วนการตรวจสอบผู้มีสิทธิที่มีพฤติกรรมการใช้สิทธิไม่เหมาะสม พบว่า ผู้ใช้สิทธิเข้าเงื่อนไขพฤติกรรมเสี่ยงจำนวน 1,481 ราย (ไม่นับคนซ้ำที่เข้าแต่ละเงื่อนไข) คิดเป็นเงิน 395,173,914 บาท
สำหรับปัญหาและอุปสรรค จากการติดตามพบว่า 1.การใช้งานเครื่องรับรายการบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) สัญญาณอินเตอร์เน็ตผ่านโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่เสถียร ส่งผลให้การประมวลผลเกิดความล่าช้า 2.เจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลยังขาดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการทำธุรกรรมผ่านเครื่อง EDC และการใช้งาน KTB Corporate Online ตลอดจนยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับแนวทางการบันทึกและจัดส่งข้อมูลรักษาพยาบาลผ่านอุปกรณ์ดังกล่าว และ 3.ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวยังไม่พกบัตรประชาชนในการใช้สิทธิเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลกับผู้มารับบริการ (อ่านประกอบ : ปมฟิตเนสพ่นพิษ! ครม.สั่งสอบทุจริตเบิกจ่ายสิทธิพยาบาล-เสี่ยงสูญงบ 395 ล.)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลมติ ครม. พบว่า เกี่ยวกับข้อมูลการตรวจสอบผู้มีสิทธิที่มีพฤติกรรมการใช้สิทธิไม่เหมาะสม ซึ่งผู้ใช้สิทธิเข้าเงื่อนไขพฤติกรรมเสี่ยงจำนวน 1,481 ราย (ไม่นับคนซ้ำที่เข้าแต่ละเงื่อนไข) คิดเป็นเงิน 395,173,914 บาท ดังกล่าว
กระทรวงการคลัง ได้มีการจำแนกกลุ่มผู้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เป็น 3 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มที่มีพฤติกรรมการตระเวณใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลตามสถานพยาบาลต่างๆ จำนวน 10 ราย รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 2,419,468.10 บาท
พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ จะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน คือ มีการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงตามสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อขอรับตัวยาด้วยโรคเดียวกัน ในเวลาที่ใกล้เคียงกัน
ตัวอย่างเช่น ข้าราชการ 1 ราย สังกัดกองทัพอากาศ มีการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรง ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย.2561 ตามสถานพยาบาลต่างๆ รวม 19 แห่ง ด้วยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ กรดไหลย้อน รวมค่ารักษาพยาบาลทั้งสิ้น 816,876 บาท (ดูรายละเอียดในเอกสารประกอบ)
เบื้องต้น บุคคลกลุ่มนี้ กรมบัญชีกลาง ได้ดำเนินการขอสำเนาเวชระเบียนของสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อนำมาตรวจสอบและแจ้งเรื่องให้ส่วนราชการต้นสังกัด ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกทางหนึ่งแล้ว
2. กลุ่มที่มีพฤติกรรมการใช้สิทธิมีความถี่ในการเข้ารับการรักษาผิดปกติจำนวน 37 ราย รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 362,560 บาท
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นการนำค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการออกกำลังกายมาเบิกในระบบเบิกจ่ายตรงซึ่งไม่สามารถเบิกจากทางราชการได้ โดยกรมบัญชีกลางได้แจ้งเวียนให้ส่วนราชการ และสถานพยาบาลทราบและถือปฏิบัติต่อไปแล้วเช่นกัน
3. กลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง จำนวน 1,434 ราย รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 392,391,976.17 บาท ได้แก่ ผู้ใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงทำรายการโดยไม่ได้ใช้บัตรประจำตัวประชาชน เกิน 3 ครั้ง ต่อเดือน จำนวนค่ารักษาพยาบาลเกิน 50,000 บาท ต่อครั้ง การใช้สิทธิต่างสถานพยาบาลพร้อมกันหรือในเวลาใกล้เคียงกันเป็นต้น
@ ตารางแสดงผลการตรวจสอบพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงการใช้สิทธิไม่เหมาะสม ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. ถึงวันที่ 30 ก.ย.2561
ทั้งนี้ ในการนำเสนอข้อมูลดังกล่าว ครม. ได้มีมติสั่งการให้ส่วนราชการให้ความสำคัญต่อการตรวจสอบพฤติกรรมการใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลที่กรมบัญชีกลางจัดส่งให้เป็นประจำทุกเดือน
และหากพบว่าผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวมีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทุจริตในการใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาล ขอให้ส่วนราชการเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการทุจริต ให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
แต่ปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันข้อมูลเป็นทางการว่า ราชการแห่งใดได้เร่งรัดดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และสั่งดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวมีพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทุจริตในการใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลตามมติครม.ดังกล่าวไปแล้วบ้าง?
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
กรมบัญชีกลางพบ รพ.รัฐเบิกจ่ายค่ายาเกินราคา จี้ทำให้ถูกต้อง-เจออีกเรียกคืนเงินแน่
พบ ขรก.เบิกเงินราชการจ่ายฟิตเนส! อ้างทำกายภาพบำบัด-กรมบัญชีกลางยันทำไม่ได้