เปิดปม!สนง.ลูกเสือแห่งชาติ ซุกใต้พรมปัญหาใช้จ่ายเงินเพียบ-ผอ.แจงไร้ทุจริตตรวจสอบได้
"...ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการตรวจสอบพบว่า ผู้บริหารในอดีต ร่วมถึงข้าราชการหลายคน มีการยืมเงินไปใช้ทำโครงการ หรือไปควักจ่ายเงินอะไร แต่ไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานมายืนยันได้ บางรายอ้างว่า ทำเอกสารหายไปหาไม่เจอ เมื่อไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรมาแสดง มันก็ไปล้างหนี้ไม่ได้ แต่โดยส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีการทุจริตอะไร น่าจะเป็นความผิดพลาดในขั้นตอนการดำเนินการเท่านั้น และยอดหนี้ก็ไม่ได้สูงอะไรมากนัก คนละไม่กี่แสนบาทเอง..."
สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กำลังถูกจับตามอง เมื่อปรากฎข้อมูลว่ากำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้จ่ายเงินหลายเรื่อง อาทิ ผู้บริหารในอดีตหลายคนของสำนักงานฯ ปรากฎชื่อเป็นลูกหนี้เงินยืมระยะยาวที่นำไปใช้จัดทำโครงการหรือกิจกรรม นัับตั้งแต่ปี 2538 -2552 จำนวนกว่า 17 สัญญา รวมวงเงินกว่า 3 ล้านบาท แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานมาแสดง เพื่อล้างหนี้ให้หมดไปได้ โดยบางรายอ้างว่า ทำเอกสารหาย หรือกรณีการตั้งเรื่องของบประมาณจำนวน 200 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการบริหารงานและจัดทำโครงการต่างๆ จำนวนกว่า 40 โครงการ แต่มีการตรวจสอบพบว่า มีหลายโครงการที่ไม่ได้มีการดำเนินการจริง ขณะที่โครงการที่จัดทำไปก็ไม่ได้มีการตรวจสอบว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นประสบความสำเร็จไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวในสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ว่า ปัจจุบันสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้จ่ายเงินหลายเรื่อง
โดยเรื่องสำคัญที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก คือ การปรากฎชื่อลูกหนี้ระยะยาวของสำนักงาน เป็นผู้บริหารในอดีต จำนวนกว่า 17 สัญญา เป็นเงิน 3,286,952.00 บาท ซึ่งเป็นลูกหนี้เงินยืมระยะยาวค้างนาน ตั้งแต่ปี 2538 – 2552 ขณะที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ( สตง.) ได้แจ้งเรื่องมายังสำนักงานลูกเสือแห่งชาติให้ตรวจสอบหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ
"ที่ผ่านมาสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตามคำสั่งสำนักงานลูกเสือแห่งชาติที่ 490/2558 ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2558 แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการสอบเพื่อหาทางช่วยคนยืมเงินหาทางออกโดยใช้อำนาจตัดลูกหนี้ออกจากบัญชีและแนวปฏิบัติ ทั้ง ๆ ที่เงินหลวงนั้น หากเมื่อมีการยืมไปแล้ว เมื่อเสร็จงานก็จะต้องนำใบเสร็จมายื่นเพื่อยื่นยันการนำเงินไปใช้ หรือหากไม่สามารถนำใบเสร็จมายื่นได้นั้น ก็จะต้องนำเงินมาคืน"
"แต่เรื่องนี้ อดีตผู้บริหารไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ ไม่เคยมีใครรู้ว่าเงินที่นำไปใช้นั้นไปใช้จ่ายอะไร เพียงแต่บอกว่าเอกสารหาย และได้ให้เจ้าหน้าที่สำนักงานลูกเสือแห่งชาติลงบันทึกประจำวันแทน ขณะที่เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ก็มาดำรงตำแหน่งหลายเดือนผ่านไปก็ยังไม่ดำเนินการใด ๆ เลย" แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า นอกจากนี้ ยังมีกรณีการตั้งแต่เรื่องของบประมาณจำนวน 200 ล้านบาท สำหรับนำมาใช้บริหารและจัดทำโครงการต่าง ๆ ภายใต้การดำเนินงานของ เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ เงินงบประมาณที่ได้มานั้น จากโครงการประมาณ 40 โครงการมีการดำเนินการจริง ไม่เป็นไปตามที่ขอใช้งบประมาณ อีกทั้งที่ได้ดำเนินการ ก็ไม่ได้มีการเช็คคุณภาพงานที่ได้จัดทำว่าเป็นเช่นไร
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อไปยัง นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้
ได้รับคำชี้แจงจาก นายประเสริฐ ว่า กรณีการปรากฎชื่อลูกหนี้เงินยืมระยะยาวเป็นผู้บริหารในอดีตดังกล่าว เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสำนักงาน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่ ยังไม่ได้ผลสอบออกมา
"ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการตรวจสอบพบว่า ผู้บริหารในอดีต ร่วมถึงข้าราชการหลายคน มีการยืมเงินไปใช้ทำโครงการ หรือไปควักจ่ายเงินอะไร แต่ไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานมายืนยันได้ บางรายอ้างว่า ทำเอกสารหายไปหาไม่เจอ เมื่อไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรมาแสดง มันก็ไปล้างหนี้ไม่ได้ แต่โดยส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีการทุจริตอะไร น่าจะเป็นความผิดพลาดในขั้นตอนการดำเนินการเท่านั้น และยอดหนี้ก็ไม่ได้สูงอะไรมากนัก คนละไม่กี่แสนบาทเอง"
ส่วนการตั้งเรื่องขอสนับสนุนงบประมาณจำนวน 200 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ทำโครงการจำนวน 40 โครงการนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่า ที่มีกลุ่มคนไม่หวังดี พยายามออกมาสร้างประเด็นเพื่อโจมตีการบริหารงานของสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ
"เป็นความจริงที่มีการเสนอเรื่องขออนุมัติงบประมาณมาใช้จ่ายจำนวน 200 ล้านบาท และก็มีการนำเงินไปทำโครงการต่างๆ แต่ปรากฎว่า มีหลายโครงการที่ทำไม่เสร็จ หรือยังไม่ได้ทำ แต่เงินก็ไม่ได้ถูกนำไปใช้เรื่องอะไรที่เสียหาย หรือมีการทุจริตอะไรเกิดขึ้น เพราะเงินในส่วนของโครงการที่ทำเสร็จไม่ทัน ก็ถูกเอาคืนกลับมาเพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการงานด้านต่างๆ ของ สำนักงานตามระบบปกติ ไม่มีปัญหาเรื่องการทุจริตอะไรเกิดขึ้นแน่นอนทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ " นายประเสริฐ กล่าว
ส่วนรายละเอียดเชิงลึกข้อมูลการใช้จ่ายเงินแต่ละประเด็น สำนักข่าวอิศรา จะทยอยนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบในตอนต่อๆ ไป