ไขเบื้องหลังจนท.รัฐเอี่ยวคดีเงินทอนวัด ม.44 ล็อต9! นายกเมืองแม่โจ้โผล่-ชื่อรองผอ.หาย?
"...นายปิยะศักดิ์ ยโสธนชัย นายกเทศมนตรีเมืองแม่โจ้ ปรากฎข้อกล่าวหาในคดีสอบสวน ว่า ในช่วงปีงบประมาณ 2556-2558 เทศบาลได้จ่ายเงินอุดหนุนให้แก่วัดในเขตพื้นที่ รวมเป็นเงิน 5,400,000 บาท แล้วให้วัดถอนเงินคืนให้แก่เทศบาล ทั้งจำนวน โดยอ้างว่าจะนำเงินไปดำเนินการแทนวัดและดำเนินการเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และคืนเงินบางส่วนให้แก่วัด และบางวัดไม่ดำเนินการตามโครงการ.."
มีเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ปรากฎข้อกล่าวหาในคดีการเรียกคืนเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด (คดีเงินทอนวัด) ซึ่งปรากฎเป็นข่าวโด่งดังในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อยู่ในบัญชีรายชื่อเจ้าหน้าที่ จำนวน 70 ราย ที่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจ ม.44 ลงนามในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 35/2560 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 9 อันเป็นผลทำให้ถูกระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่เป็นการชั่วคราว ด้วยหรือไม่? (อ่านประกอบ : เบื้องหลังม.44 ล็อต9!อบจ.ปทุมฯโดนคดีเครื่องออกกำลังกาย-2ผอ.จ้างพิมพ์คู่มือหีบเลือกตั้ง, ‘บิ๊กตู่’งัด ม.44 ลงดาบ 70 จนท.รัฐพันทุจริตล็อต 9-ผู้บริหาร-ขรก.อปท. 61 ราย, มาแล้ว! ชื่อ 70 จนท.รัฐพันทุจริตล็อต 9 ‘บิ๊กตู่’งัด ม.44 ลงดาบ,ซื้อเครื่องออกกำลังสูงเกินจริง44ล.-ตั้งบ.ประมูลงาน!ชัดๆข้อกล่าวหา5นายกฯอบจ.ม.44ล็อต 9)
คือ คำถามที่น่าสนใจ และยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนเป็นทางการ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรายชื่อ และข้อกล่าวหาในคดีตรวจสอบ ของเจ้าหน้าที่รัฐ 70 ราย ที่ถูกใช้อำนาจม.44 ล็อตที่ 9 พบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐ 2 ราย ที่ถูกปรากฎข้อกล่าวหาในเงินทอนวัด ร่วมอยู่ด้วย จำนวน 2 ราย คือ นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ ผู้อํานวยการกลุ่มศูนย์เทคโนโลยีและสารสนเทศ สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ นายปิยะศักดิ์ ยโสธนชัย นายเทศมนตรีเมืองแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
โดยในส่วน นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเส้นทางการโอนเงินในคดี โดยในช่วงต้นเดือนมิ.ย.2560 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) นำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านพัก พบสลิปการรับโอนเงิน สมุดบัญชีเงินฝาก มีเงินเข้าบัญชีครั้งละ 200,000-700,000 บาท อย่างสม่ำเสมอ และเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคดี (เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการยักยอกหรือเบียดบังเงินวัด)
ขณะที่ นายปิยะศักดิ์ ยโสธนชัย นายกเทศมนตรีเมืองแม่โจ้ ปรากฎข้อกล่าวหาในคดีสอบสวนว่า ในช่วงปีงบประมาณ 2556-2558 เทศบาลได้จ่ายเงินอุดหนุนให้แก่วัดในเขตพื้นที่ รวมเป็นเงิน 5,400,000 บาท แล้ว ให้วัดถอนเงินคืนให้แก่เทศบาล ทั้งจำนวน โดยอ้างว่าจะนำเงินไปดำเนินการแทนวัดและดำเนินการเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และคืนเงินบางส่วนให้แก่วัด และบางวัดไม่ดำเนินการตามโครงการ
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า ในช่วงการนำเสนอรายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐ 70 ราย ให้ที่ประชุม ศอตช. พิจารณา มีเจ้าหน้าที่รัฐ อีก 1 ราย ที่ถูกระบุว่าเกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัด และถูกเสนอชื่อให้ที่ประชุมพิจารณาด้วย คือ น.ส.ประนอม คงพิกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
โดยข้อกล่าวหาในคดีสอบสวนของ น.ส.ประนอม ระบุว่า สืบเนื่องจากกรณี นายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดสงขลา (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น นายวีระเทพ และถูกคำสั่ง คสช.ใช้อำนาจตามม.44 ให้หยุดปฏิบัติหน้าจากคดีเงินทอนวัดไปแล้ว) เรียกรับเงินกลับคืนจากวัดชลธาราวาส ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 3.2 ล้านบาท หลังจากที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดสรรงบประมาณ โครงการเงินอุดหนุนการดำเนินพระธรรมฑูตและบุคลากรการเผยแพร่พระพุทธศาสตร์ภายในประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2558 ให้กับทางวัด จำนวน 4 ล้านบาท จนนำมาสู่การจับกุมดำเนินคดีฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน
และจากการตรวจสอบสืบสวนขยายผลกรณีดังกล่าว ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พบว่า น.ส.ประนอม คงพิกุล รองผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะผู้บังคับบัญชา และมีอำนาจหน้าที่โดยตรง มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่ามีส่วนร่วมรู้เห็น กับนายเสถียรฯ ใช้อำนาจหน้าที่จัดสรรเงินอุดหนุนโดยมิชอบ ในการทุจริตเงินอุดหนุนที่จัดสรรให้วัดยูปาราม วัดชลธาราวาส และวัดสุริยาราม วัดละ 4 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 12 ล้านบาท
โดยการที่ให้นายเสถียรฯ ไปติดต่อหาวัดดังกล่าว ที่ประสงค์จะรับเงินอุดหนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่มีเงื่อนไขว่า เมื่อมีการโอนเงินทางวัดจะต้องนำเงินสดบางส่วนคืนกลับมาให้นายเสถียรฯ และเมื่อทางวัดตกลงตามเงื่อนไขดังกล่าว นายเสถียรฯ ได้นำรายชื่อวัดและเอกสารบัญชีเงินฝากธนาคารของวัดมาให้.ส.ประนอม เพื่อจะใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะประธานกรรมการฯ เสนอให้ที่ประชุมมีมติจัดสรรเงินอุดหนุนให้วัดดังกล่าว ทั้งที่ไม่มีข้อมูลรายละเอียดเพียงพอที่จะพิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนให้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เนื่องจากวัดดังกล่าวไม่ได้เสนอโครงการเพื่อขอรับเงินอุดหนุนมาให้คณะกรรมการฯ
ส่วนเหตุผลที่ไม่ปรากฎชื่อ น.ส.ประนอม อยู่ในบัญชีเจ้าหน้าที่รัฐ ล็อต 9 ที่ถูกใช้อำนาจม.44 ระงับการปฏิบัติหน้าที่ด้วย สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า เป็นเพราะปัจจุบัน น.ส.ประนอม ปรากฎรายชื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนเป็นทางการของหน่วยงานตรวจสอบแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ และปรากฎชื่อในบัญชีล็อต 9 จะเป็นกลุ่มที่หน่วยงานต้นสังกัด ยังไม่ได้ดำเนินการสอบสวนแต่อย่างใด โดยเฉพาะนายปิยะศักดิ์ นายเทศมนตรีเมืองแม่โจ้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน นายวสวัตติ์ และ นายปิยะศักดิ์ ยังถือว่า เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ มีสิทธิในการชี้แจงข้อเท็จจริงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป
โดยขั้นตอนจากนี้ ศอตช. จะแจ้งข้อเท็จจริงให้หน่วยงานต้นสังกัดเพื่อให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับแจ้งจาก ศอตช. หากไม่พบว่ามีการ กระทําความผิดหรือไม่ถึงขั้นต้องดําเนินการทางวินัย ให้ผู้บังคับบัญชาสรุปผลการตรวจสอบและพยานหลักฐานที่มีอยู่แล้วแจ้งให้ศอตช. ทราบ ซึ่งประธาน ศอตช. จะแต่งตั้งคณะบุคคลซึ่งเป็นหรือมิได้เป็นข้าราชการ ไม่มีข้อขัดแย้งหรือส่วนได้เสียกับบุคคลหรือเรื่องที่มีการกล่าวหา และไม่เคยเป็นผู้ตรวจสอบเรื่องนี้มาก่อน จำนวน 3-5 คน เพื่อตรวจสอบเปรียบเทียบผลการตรวจสอบเดิมของผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกตรวจสอบกับรายงานหรือพยานหลักฐานที่มีอยู่อีกครั้งหนึ่ง และให้มีอํานาจเชิญบุคคลมาให้ถ้อยคําได้ โดยคณะบุคคลดังกล่าวอาจตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ถูกตรวจสอบแต่ละรายหรือหลายรายพร้อมกันก็ได้ ทั้งนี้ ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งด้วย
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก www.alittlebuddha.com, Chiang Mai News