- Home
- Isranews
- ตะกร้าข่าว
- ก.อุตฯ ย้ำยังไม่มีการจ่ายค่าชดเชยเหมืองแร่ทองคำ
ก.อุตฯ ย้ำยังไม่มีการจ่ายค่าชดเชยเหมืองแร่ทองคำ
ก.อุตฯ ย้ำยังไม่มีการจ่ายค่าชดเชยเหมืองแร่ทองคำ ยันเรื่องจ่ายค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกัน เป็นเรื่องของคิงส์เกต ไม่มีผลต่อแนวทางการต่อสู้คดี
เมื่อเร็วๆ นี้ นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและประธานคณะกรรมการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ชี้แจงว่า ตามที่มีประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์กรณีมีการกล่าวว่า การใช้ ม.44 ประกาศปิดเหมืองทองคำชาตรี โดยอ้างเหตุว่าพบสารโลหะหนักปนเปื้อนสภาพแวดล้อมและชุมชน ซึ่งบริษัท คิงส์เกต พิสูจน์แล้วไม่จริง รวมทั้งปรากฏเอกสารเผยแพร่ของบริษัท คิงส์เกต แจ้งว่าได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการประนีประนอมกับบริษัทประกัน โดยได้รับสินไหมทดแทนจากการประกันความเสี่ยงทางการเมืองและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ กรณีข้อพิพาทระหว่างไทยกับบริษัท คิงส์เกต นั้น
นายพสุ ระบุว่า ประเด็นที่อ้างว่าบริษัท คิงส์เกต พิสูจน์แล้วไม่จริงนั้น ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ การตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนโดยรอบพื้นที่ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดรายงานผลการศึกษาโครงการ “การสำรวจตรวจสอบโอกาสการรั่วไหลของสารพิษจากบ่อกักเก็บกากแร่ที่ 1 (TSF1) ของเหมืองทองคำ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) จังหวัดพิจิตร” ซึ่งมี ผศ.ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และคณะ เป็นผู้ศึกษาโครงการ มีข้อบ่งชี้ว่า พบความผิดปกติทางความต้านทานไฟฟ้าแสดงถึงการรั่วไหลของน้ำเหมืองจากบ่อกักเก็บกากแร่ที่ 1 และพบความผิดปกติของธรณีเคมีร่วมกับไอโซโทป โดยระบุว่ามีร่องรอยการไหลของน้ำเหมืองจากบ่อกักเก็บกากแร่ที่ 1 ไปถึงบ่อสังเกตการณ์ และบริเวณนาข้าวตามที่มีการร้องเรียนจากชาวบ้าน
ส่วนประเด็นการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันนั้น เป็นเรื่องของความตกลงระหว่างบริษัท คิงส์เกต กับบริษัทประกัน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องและไม่มีผลต่อแนวทางการต่อสู้และรูปคดีของฝ่ายไทยในชั้นอนุญาโตตุลาการ
สำหรับการดำเนินการระงับข้อพิพาทตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด นั้น ขณะนี้คณะกรรมการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด โดยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและที่ปรึกษากฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญในระดับสากล อยู่ระหว่างการต่อสู้และการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ โดยยังไม่มีการตัดสินชี้ขาด
“รัฐบาลมีความมั่นใจว่าการดำเนินการของรัฐบาลไทยเป็นการคุ้มครองประชาชนจากผลกระทบ เฉพาะหน้าด้านสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อมปนเปื้อนอย่างทันท่วงที เป็นไปตามมาตรฐานสากลสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมสู้คดีต่อไป และยังไม่มีการพิจารณาการจ่ายค่าชดเชยแต่อย่างใด” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวทิ้งท้าย